Interview

คณะกรรมาธิการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร จัดการประชุมเพื่อพิจารณาหามาตรการในการแก้ไขปัญหาและติดตามผลกระทบของวิกฤติการณ์กรณีเกิดมลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็กทางอากาศและโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทย ในวันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 ณ ห้องประชุมหมายเลข 413 อาคารรัฐสภา

คุณหลุ่ย แซ่กั๊ว ประธานกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยเจียระไน กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารสำนักข่าวภาษาจีนในประเทศไทย Thailand Headlines และ @ManGu Magazine นิตยสารแจกฟรีภาษาจีนในประเทศไทย ในฐานะผู้ประกอบการซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อกระแสการท่องเที่ยวของไทยและจีน ได้เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการท่องเที่ยว เพื่อแสดงความคิดเห็นและเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับวิกฤติการณ์ดังกล่าวที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย โดยคุณหลุ่ย แซ่กั๊ว ได้ร่วมพูดคุยเสนอแนะแนวทางในการแก้ปัญหาเป็นประเด็นต่างๆ ทั้งเรื่องระยะเวลาในการรักษาและค่าใช้จ่ายของผู้ที่ติดเชื้อไวรัส​โคโรน่า พร้อมหยิบยกประเด็นเรื่องการต่ออายุวีซ่าของนักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่ที่ยังอยู่ในประเทศไทย และเสนอให้รัฐบาลไทยขยายวีซ่าเป็นเวลามากกว่า 14 วัน เพื่อให้นักท่องเที่ยวเหล่านี้ไม่ต้องรีบกลับประเทศจีนไปเผชิญสภาวะวิกฤติ และเชิญชวนพวกเขาให้เดินทางท่องเที่ยวใช้จ่ายในประเทศไทยต่อไป

รวมถึงยังกระตุ้นให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในประเทศไทย สถานที่ท่องเที่ยว โรงแรมร้านอาหาร และบุคลากรการขนส่งสาธารณะต่างๆ ให้ตระหนักถึงข้อควรระวังและดำเนินการตามมาตรฐานด้านสุขภาพ โดยแนะนำให้แจกหน้ากากอนามัยให้กับพนักงานและลูกค้า เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค

และหลังจากที่หน้ากากให้กลายเป็นสินค้าควบคุม บริษัทขนส่งสินค้าหลายแห่งได้หยุดส่งหน้ากากอนามัยไปยังประเทศจีน ทำให้นักธุรกิจจีนมีความลำบากใจที่จะบริจาคและซื้อหน้ากากอนามัยให้กับประเทศ คุณหลุ่ย แซ่กั๊ว ได้มีข้อเสนอแนะให้ออกกฎระเบียบเฉพาะในการส่งออกหน้ากากอนามัยโดยเร็วที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่าหน้ากากอนามัยที่ซื้อและบริจาคด้วยวิธีการที่ถูกต้องตามกฎหมายสามารถส่งกลับประเทศจีนได้ตามปกติ และในภาวะหน้ากากอนามัยกำลังขาดแคลนตลาดเช่นนี้ ยังได้เสนอแนะให้มีมาตรการในการควบคุมการซื้อหน้ากากอนามัยแบบปลีก

สุดท้ายนี้ยังได้เป็นตัวแทนชาวจีนถ่ายทอดความรู้สึกขอบคุณที่มีประเทศไทยในการให้ความช่วยเหลือในฐานะมิตรที่ดีของประเทศจีนผ่านการประชุมในครั้งนี้