Interview

ถ้าถามว่าภาพยนตร์แนวสยองขวัญ คอมมาดี้ ดราม่า เรื่องไหนของประเทศไทยที่คนไทยประทับใจมากที่สุด หนึ่งในนั้นจะมีลิสต์ของ “พี่นาค” ภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมทั้งในประเทศและต่างประเทศ กวาดรายได้อย่างมหาศาลตั้งแต่ภาคแรก มากกว่า 140 ล้านบาท จนได้ตอกย้ำความสำเร็จเดินหน้าสร้างความสยองขวัญต่อในภาพยนตร์ “พี่นาค2” โดยภาคนี้ได้เสริมทัพความปังด้วย "มีน พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร" นักแสดงมากความสามารถที่ได้ถ่ายทอดการแสดงอย่างเต็มขั้น เขาได้ทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ ความพยายาม และความมุ่งมั่น จนได้สร้างหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ในวงการภาพยนตร์ไทย ภาคนี้มีรายได้มากกว่า 100 ล้านบาท ปีนี้ FIVE STAR PRODUCTION ขอตอกย้ำความปังด้วยการเปิดตัวภาพยนตร์สยองขวัญแห่งปี “พี่นาค3” ภาคนี้เป็นการเล่าถึงต้นกำเนิดตำนานและความอาฆาตที่เกิดขึ้นกับเหล่าแก๊งวัดธรรมนาคานิมิต ที่ต้องตามล่าหาความจริงและช่วยชีวิตแก๊งเพื่อนให้ทัน นิตยสาร @ManGu ฉบับนี้ขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักนักแสดงมากฝีมือ “มีน พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร” ที่จะมาเล่าเบื้องหลังความสำเร็จ รวมไปถึงความท้าทายในวงการบันเทิงไทย

ManGu : แนะนำตัวและผลงานที่ผ่านมา

MEAN : สวัสดีครับผมมีน พีรวิชญ์ ผลงานที่ผ่านมาถ้าเป็นซีรีส์จะมีเรื่อง "บังเอิญรัก" ，"My Bubble Tea" ส่วนละครจะมีเรื่อง "เพชฌฆาตจันทร์เจ้า" และภาพยนตร์จะมีเรื่อง "พี่นาค 2" และผลงานล่าสุด "พี่นาค 3" ครับ

ManGu : วัยเด็กของมีนเป็นอย่างไร

MEAN : ตอนเด็กมีนเป็นเด็กเรียนมาก แต่พอวันหนึ่งเราอยากแบ่งเวลาจากการเรียนมาหาอนาคตของตัวเองบ้าง ก็เลยลองทำหลายๆอย่าง เช่น เป็นประธานนักเรียน เข้าค่าย แล้วช่วงมอปลายก็ได้มาเจอกับอาชีพนักแสดงครับ แต่เราชอบงานเบื้องหลังมากกว่า อยากเป็นผู้กำกับ อยากเขียนบท อยากทำโฆษณาครับ แต่ทุกวันนี้ติดใจงานเบื้องหน้าครับ (หัวเราะ) สุดท้ายก็มาเป็นนักแสดงเต็มตัวครับ

ManGu : จุดเริ่มต้นของการเข้าสู่วงการบันเทิง

MEAN : ตอนม.5 พี่สนุ๊กผู้จัดการของผมทักมาในอินสตาแกรมว่าอยากให้ลองมาแคสงานดู ตอนนั้นเราไม่รู้เลยว่าแคสงานคืออะไร เราก็เลยลองเช็คโปรไฟล์และงานก่อนว่ามีจริงไหม (หัวเราะ) ประจวบเหมาะกับว่าตอนนั้นเราก็ยังตอบตัวเองไม่ได้ว่ามหาวิทยาลัยจะเรียนอะไร ก็เลยลองขึ้นมากรุงเทพฯ เพื่อมาแคสงาน พอเข้ามาตรงนี้ก็ค่อยๆรู้จักคนเยอะมากขึ้น ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์มากขึ้น และได้ลองทำสิ่งที่ท้าทายมากขึ้นจนได้ทำมาถึงตอนนี้ครับ

ManGu : การเข้ามามีส่วนร่วมในภาพยนตร์เรื่อง “พี่นาค”

MEAN : ภาคสองเขาอยากเปิดตัวละครที่ไม่เชื่อ ไม่กลัว ก็ได้คาแรคเตอร์ "โทมินจุน" คนไทยที่ได้ไปโตที่เกาหลี แม่ของเขาได้ไปบนไว้ว่า ถ้าลูกได้เป็นศิลปินที่เกาหลีจะกลับมาบวชที่นี่ แล้วเราไม่เข้าใจว่าทำไมต้องบวช ต้องบน ต้องเชื่อเรื่องผี ซึ่งในชีวิตจริงเราก็เป็นแบบนี้ เราไม่ค่อยเชื่อและจะตั้งคำถามสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ ก็เลยถูกแคสเข้ามาในบทนี้ครับ

ManGu : การเติบโตและบทบาทของตัวละคร “โทมินจุน” ในภาคนี้เป็นอย่างไร

MEAN : มีความเชื่อและความเข้าใจในศาสนามากขึ้น จริงจัง เป็นผู้ใหญ่ เป็นผู้นำมากขึ้น โทมินจุนจะเป็นคนที่ดูแลและคอยเตือนสติเพื่อนครับ

ManGu : ช่วยเล่าความประทับใจในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้

MEAN : ในกองสนุกมากเลยครับ ทุกคนมีเอเนอร์จี้ มีพลัง ซึ่งทุกๆคาแรคเตอร์ก็จะมีนิสัยของคนๆนั้น ทำให้ทุกคนเล่นเป็นตัวเอง เล่นกันเหมือนเพื่อน ความสนุกคือถ้าอยากทำหรืออยากเล่นอะไรก็เล่นได้เลย 

ManGu : สิ่งที่ท้าทายที่สุดในการถ่ายทำคืออะไร

MEAN : คือเราต้องทำภาพยนตร์ตลกที่มีสาระอยู่ในนั้น เราต้องทำอย่างไรก็ได้ให้คนดูไม่เครียด เราต้องทำให้คนดูรู้สึกสนุก ตลก แต่ก็ยังได้รับสาระจากมัน ซึ่งคาแรคเตอร์เราเป็นคนจริงจัง แต่พออยู่ในภาพยนตร์ตลกก็จะมีการเล่นตลก ซึ่งก็ต้องทำให้คนดูผ่อนคลาย ยิ้มตามได้ นี่ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับมีนครับ

ManGu : เหตุผลที่ห้ามพลาดของภาพยนตร์เรื่อง “พี่นาค3”

MEAN : เหตุผลที่ห้ามพลาดคือ มีผมครับ (หัวเราะ) ถ้าคนดูภาคแรก และภาค 2 แล้ว ภาคนี้ไม่ควรพลาด ด้วยเนื้องเรื่องที่เรียงร้อยต่อกัน ความสนุกที่เพิ่มมากขึ้น หรือใครที่ยังไม่เคยดู จะมาดูภาคนี้ก็ไม่เสียหายครับ สามารถดูและเข้าใจง่ายครับ ประเด็นสำคัญคือ วัฒนธรรมแบบไทยๆ บรรยากาศภาคอีสาน อยากให้ทุกคนชวนกันมาดู ถ้าถามว่าน่ากลัวไหม น่ากลัว ตลกไหม ตลกมาก เราดูกันไป ขำกันไป ได้ข้อคิดดีๆกลับมาในตอนจบ เป็นอะไรที่ดูง่าย ย่อยง่าย อยากให้ทุกคนติดตามกันครับ 

ManGu : เรามีวิธีการบาลานซ์ชีวิตส่วนตัวกับการทำงานอย่างไร

MEAN : เราเป็นคนที่ชอบให้เวลากับตัวเอง แบ่งเวลาให้ตัวเอง ค่อยๆอาบน้ำ ค่อยๆกินข้าว ไม่ต้องรีบร้อน เพราะถ้ารีบร้อนบางทีก็จะทำให้เราพลาด ให้เวลากับตัวเองในช่วงเช้าหรือก่อนนอน เพื่อคิดทบทวนสิ่งที่กำลังค้างคาครับ

ManGu : อีก 10 20 30 ปีข้างหน้า อยากให้แฟนๆจดจำคุณในฐานะไหน

MEAN : ผมอยากเป็นนักแสดงหลากหลายบทบาท เล่นเป็นศิลปินก็ได้ เล่นเป็นไอดอลก็ได้ เล่นเป็นคนน่าสงสารก็ได้ เล่นเป็นคนโหดๆก็ได้ เล่นสิ่งไหนเราก็อยากให้คนอื่นเชื่อในสิ่งที่เราเล่นครับ

ManGu : มีเรื่องไหนที่แฟนๆยังไม่รู้จากตัวมีนเองบ้าง

MEAN : จริงๆผมเป็นคนที่เข้าหาคนไม่ค่อยเก่ง ตอนเด็กๆผมมีเพื่อนแค่กลุ่มเล็กๆ โตขึ้นมาก็เริ่มคุยกับคนมากขึ้น แฟนคลับตอนเจออาจจะคิดว่ามีนหยิ่งหรือเปล่า เข้าถึงยากหรือเปล่า แต่ถ้าคนที่รู้จักผมจริงๆ เราไม่ได้เป็นอบบนั้นครับ เราเป็นคนที่ไม่รู้จะเริ่มต้นบทสนทนายังไง ถ้าได้รู้จักจริงๆก็จะ Flow ครับ

ManGu : นอกจากงานเบื้องหน้าแล้ว เราอยากทำงานเบื้องหลังไหม

MEAN : เป็นฝันในวัยเด็กของมีนเลยครับ ทุกๆวันนี้ก็ชอบอยู่ ก่อนเข้าวงการผมก็อยากทำเบื้องหลัง อยากทำโฆษณา เอ็มวี ภาพยนตร์และละคร พอเรียนจบก็ชอบเขียนบท จริงๆก็มีโอกาสได้ลองกำกับร่วมบ้าง หวังว่าถ้ามีเวลาและโอกาสก็อยากจะทำในสิ่งที่เราชอบบ้าง แต่เราก็สนุกกับงานเบื้องหน้า การเป็นนักแสดง นายแบบ เราก็ยังคงชอบการที่เป็น มีน พีรวิชญ์อยู่ครับ

ManGu : ความท้าทายในวงการบันเทิงไทยคืออะไร

MEAN : ท้าทายตลอดครับ ตอนนี้เราอยู่ในวงการมา 7 ปีแล้ว มีนว่ามันยังสนุกในทุกๆวัน พอเป็นนักแสดงเราได้เจอทีมงานใหม่ พรุ่งนี้ก็เจอคนใหม่ๆ วันหนึ่งก็อาจจะได้กลับมาได้เจอกันอีก หรือเราอยู่ทำงานกับกลุ่มนี้ 3 เดือน 6 เดือน สนิทกันมากๆ วันหนึ่งก็แยกกันไปเติบโต เราพบเจอผู้คนมันใหม่ๆตลอดเวลา ท้าทายตลอดเวลา บทบาทก็ได้เล่นในคาแรคเตอร์ใหม่ๆ รู้สึกว่าตรงนี้ท้าทายกับเรามากๆครับ

ManGu : เราชอบแสดงซีรีส์หรือภาพยนตร์มากกว่ากัน

MEAN : มีนน่าจะชอบภาพยนตร์มากกว่าครับ เพราะภาพยนตร์สั้นและกระชับ เราชอบอรรถรสในการรับชมการได้นั่งเบาะสบายๆ จอใหญ่ๆ เสียงดังกระหึ่มๆ เป็นประสบการณ์ที่อาจจะเต็มที่มากกว่าดูทีวี ดูในมือถือ เราเลยรู้สึกว่าชอบภาพยนตร์มากกว่าครับ

ManGu : ความสุขของมีนในตอนนี้คืออะไร

MEAN : เรามีความสุขตรงที่เราบาลานซ์ทุกอย่างในชีวิตได้ มีอยู่ช่วงหนึ่ง เราทำงานค่อนข้างหนักไม่ได้ใช้ชีวิตเท่าไหร่ ไม่ค่อยมีเวลาให้ครอบครัว ตอนนี้เรามีเวลาหลายๆอย่างที่อยากทำ มีเวลาให้ครอบครัว ได้กลับไปเจอเพื่อนเก่า ได้เจอเพื่อนปัจจุบัน มีเวลาได้ทำงานอดิเรก ซึ่งเราสามารถบาลานซ์ให้ดีได้ ได้ทำงานที่มั่งคง ตอนนี้มีความสุขมากๆครับ

ManGu : เวลาเจอสิ่งที่แย่หรือเรื่องที่ไม่ดี เรามีวิธีรับมืออย่างไร

MEAN : ถ้าเราเจอเรื่องไม่ดี บางคนอาจจะข้ามๆไป แต่มีนเป็นคนอีกวิธีหนึ่ง เราจิตแข็ง (หัวเราะ) เรารู้สึกว่าเราเป็นคนที่มีเหตุผล สมมุตเราอาจจะเจอคอมเมนต์ที่ไม่ดีหรือข่าวที่ไม่ดี เราก็ดูและตัดสินว่าสิ่งที่เขาพูดจริงหรือเปล่า ถ้าไม่จริงเราก็ข้ามไป แต่ถ้าอันไหนเราอ่านข่าวแล้วคิดว่าถ้าเราเป็นคนแบบนั้น เราไม่โอเคนะ เราก็จะย้อนคิด แก้ไขและพัฒนาตัวเอง คอมเมนต์ที่ไม่ดีก็เป็นส่วนช่วยให้เป็นคนที่ดียิ่งขึ้นเหมือนกัน แต่ว่าอันไหนที่เจอคอมเมนต์ที่ไม่มีความจริงผสมอยู่ เราก็จะปล่อยผ่านไปครับ

ManGu : เร็วๆนี้จะมีผลงานอะไรให้แฟนๆติดตามกันบ้าง

MEAN : ตอนนี้มีภาพยนตร์พี่นาค 3 ครับ กลางปีจะมีภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่ง ปลายปีจะมีละครครับ ตอนนี้กำลังถ่ายทำอยู่ครับ น่าจะได้ดูปลายปีนี้ครับ

ManGu : สุดท้ายฝากอะไรถึงแฟนคลับทั้งชาวไทยและชาวจีนที่สนับสนุน รวมถึงฝากช่องทางการติดตามของเรา

MEAN : อย่างแรกขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาตลอดตั้งแต่เด็กครับ หลายๆคนอาจจะเจอมีนตั้งแต่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ (หัวเราะ) หลายๆคนก็เจอกันเรื่อยๆ ดีใจมากๆขอบคุณที่ติดตามมีนมาตลอด สำหรับแฟนๆที่อ่านบทความมาถึงบรรทัดนี้ น่าจะเป็นหนึ่งใน Hard Fan ของเราแล้ว หวังว่าทุกคนจะมีความสุขที่ได้อ่านบทความนี้ ได้รู้จักมุมมองใหม่ๆของเรา และอยากให้ทุกคนรักษาสุขภาพดีๆ อยากให้มีความสุขในทุกๆวัน ถ้ามีโอกาสก็อยากให้แวะเข้ามาทักทายกันบ้าง สามารถติดตามมีนได้ที่ IG : @m34nismind นะครับ ขอบคุณครับ

Thank you.

Phiravich Attachitsataporn (Mean) / พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร (มีน)

IG : @m34nismind

TW : m34nismind

Youtube : MEAN PHIRAVICH OFFICIAL

Facebook Page : MEAN Phiravich Attachitsataporn

Make Up : @aumz0611

Hair : @boathairstyle

ขอบคุณสถานที่ถ่ายทำ : MeStyle Museum Hotel (www.mestylemuseum.com)
Photographer : Chanathip kongsong @Tonkla_lxxnystock / Chanokpohn Camnasak @Mickeyhighway_
Graphic Designer : Satamed Kunawattana @Pdillustrator
Coordinator / Interviews : Patthanapong Polpiboon @Plyyp
Column Writer : OU YANTING @Olina_oyt / Patthanapong Polpiboon @Plyyp