Interview

แนะนำตัว และเล่าจุดเริ่มต้นในการเข้าวงการบันเทิงให้ฟังหน่อย

สวัสดีครับ ผมเบนซ์ ณัฐพงศ์ ผาทอง เป็นคนจ.ลำพูนโดยกำเนิดนะครับ แล้วก็จุดเริ่มต้นในการเข้าวงการบันเทิง ตอนนั้นอยู่ ม.3 ครับ อายุ 15 ปี ได้ไปสมัครเวทีเดินแบบเวทีนึงที่เซ็นทรัลบางนา เห็นว่าเป็นโอกาสที่จะได้เข้าวงการบันเทิง ผมก็อยากลอง อยากพิสูจน์ตัวเองครับว่าเราสามารถทำได้นะ เลยเดินเข้าไปสมัครครับ ทันทีที่เข้าไปเราก็เห็นคนอื่น ๆ ที่มาสมัคร เขามีผู้จัดการมาส่งกัน เขาซ้อมเดินแบบกัน เราก็งง ๆ อยู่ว่าเขาซ้อมอะไร แต่เราไม่ได้ซ้อมอะไร ดูเขาซ้อมกัน แต่เราก็มีความตั้งใจที่อยากทำตรงนี้ครับ เสร็จปุ๊บเขาก็เรียกขึ้นเวที ด้วยความที่เรายังใหม่กับเวที พอเราเดินขึ้นไปก็มั่นใจไว้ก่อน ยิ้มให้กรรมการไว้ก่อน พอประกาศผลเราได้ติด 1 ใน 12 คนสุดท้ายของ Smart Boy ของช่อง 7 ไป ตอนนั้นอายุ 15 ปี ม.3 ครับตอนนนั้นจุดเริ่มต้นเลย

หลังจากนั้นก็ได้เข้ามาในวงการบันเทิง

ใช่ครับ เข้ามาเรื่อย ๆ ก็มีผลงานมาประปรายบ้างครับ แต่ช่วงม.6 ผมจะพักไว้ก่อนเพราะว่าจะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัย ก็เพรา ๆ ลงครับ

หลังจากซีรีย์ เรื่อง En of love รักวุ่น ๆ ของหนุ่มวิศวะ ตอน เหนือ-พระราม ออนแอร์ สร้างกระแสโด่งดังเพียงชั่วข้ามคืน รู้สึกยังไงบ้างคะ ชีวิตเปลี่ยนไปยังไงบ้าง

โห (หัวเราะ) ชีวิตเปลี่ยนไปไหม ผมว่าคนเราเปลี่ยนไปในทุก ๆ วันอยู่แล้วครับ จริง ๆ ต้องขอบคุณทางซีรีส์ที่เปิดโอกาสให้เราแสดงศักยภาพทางด้านการแสดงออกมาครับ ก็ขอบคุณเหนือพระรามที่ทำให้คนรู้จักเราในฐานะนักแสดง ขอบคุณทางซีรีส์มาก ๆ ที่ทำให้เราได้มีพื้นที่ตรงนี้ครับ (ตื่นเต้น)

การเป็นนักแสดงหรือทำงานในวงการบันเทิง คือความฝันของเราเลยหรือเปล่าคะ เคยคิดไหมคะว่าถ้าไม่ได้ทำงานในวงการบันเทิงอยากทำอาชีพอะไร

ความฝันไหม ตอนแรกเราก็... ตั้งแต่เด็กเราไม่ได้มีความฝันว่าอยากเป็นศิลปิน นักแสดง หรือว่านักร้องนะ คือเราเริ่มต้นจากการเป็นนักกีฬามาก่อนครับ เรามีความฝันว่าอยากติดทีมชาตินะ ก็เล่นกีฬามาเรื่อย ๆ ครับ แต่งานในวงการบันเทิงเนี่ย พอดีเรามีญาติส่ง Facebook มาว่ามีงานนั้นนะ เราลองไปสมัครดูไหม เมื่อมีโอกาสเราก็ลองทำดูครับ จะได้รู้ว่าเรา Yes หรือ No ชอบหรือไม่ชอบครับ พอเราได้ลองทำงานนั้นแล้ว เป็นงานแรกด้วยที่ทำให้ได้เข้าสู่วงการบันเทิง ตอนนั้นงานของช่อง 7 เราก็รู้สึกชอบขึ้นมา ก็จุดประกายเรา เติมความฝันว่าเราอยากทำงานหลาย ๆ อย่างในวงการบันเทิง ทั้งนักร้อง นักแสดง เบื้องหน้า เบื้องหลัง อะไรแบบนี้ครับ ก็อยากทำทุก ๆ อย่างที่ทางผู้ใหญ่มอบโอกาสให้เรามาครับ

นอกจากเป็นนักแสดงแล้วเรายังมีผลงานเพลงออกมาด้วย เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมคะว่ามาเริ่มทำเพลงได้ยังไง

เริ่มทำแพลงได้ยังไง จริง ๆ ก็คิดมานานแล้วครับว่าอยากมีซิงเกิลเดี่ยวซิงเกิลแรกเป็นของตัวเอง เราก็พยายามหาแนวทางว่า จะพอมีวิธีไหนไหมที่เราจะมีเพลงเป็นของตัวเอง เราก็มองดูแวดวงที่เรารู้จักครับ ว่ามีใครที่เขาทำเพลงบ้าง ก็ลองหาคอนแทกครับว่ามีคนที่เรารู้จักคนไหนทำเพลงบ้าง พอดีมีน้องอยู่คนนึงครับที่เป็น The Rapper น้องเจ แจสเปอร์ครับ เขามีคนรู้จักในแวดวงคนทำเพลงค่อนข้างเยอะ เราก็เลยไปหาเขา ขอให้เขาช่วยแต่งเพลง ทำเดโม่ ทำดนตรีให้ เขาก็โอเค ส่งเดโม่ ส่งเพลงมาให้เราฟังก่อนว่าเราชอบไหม ปุ่มกดห้ามใจ เราก็ชอบเลย ตอนแรกน้องอยากให้เราแต่งเพลงเองก่อนซิงเกิลแรก พอฟังดนตรีก็รู้สึกว่าแอบยากอยู่นะ ก็เลยส่งกลับไปให้น้องแต่ง แล้วเราขอมาเกลาเป็นสไตล์ของเราอีกทีนึงครับ เขาก็แต่งแค่วันเดียวเลยครับ ก็ส่งกลับมาเป็นซิงเกิล ปุ่มกดห้ามใจ Press Love ที่ทุกคนได้ฟังกันครับ

ปุ่มกดห้ามใจ ซิงเกิลแรกในชีวิตของ เบนซ์ กระแสตอบรับดีมาก ยอดวิวกว่า 4 ล้านแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้างคะ

โห รู้สึกว่าในตอนแรกเราแค่อยากทำเพลงเท่านั้นเลย อยากทำเพลงให้มีคนร้องตาม โยกตามได้    เราไม่ได้คิดถึงยอดวิวว่าจะต้องเยอะขนาดไหน เราทำในสิ่งที่เราชอบ เรารักการร้องเพลง เราแค่อยากให้ทุกคนร้องตามได้ แต่ไม่ได้คาดหวังว่ามันจะต้อง 4 ล้าน 5 ล้าน 10 ล้านนะ ได้แค่ไหนผมก็ดีใจครับ

ซิงเกิลล่าสุด "โอ๊ย.. ฉันเขิน (You make me blush)" อยากให้เบนซ์เล่าให้ฟังหน่อยว่ามีส่วนร่วมในการทำเพลงยังไงบ้าง แล้วได้แรงบันดาลใจในการแต่งเพลงนี้มาจากไหน

ครับเพลง โอ๊ย.. ฉันเขิน (You make me blush) เป็นซิงเกิลที่สองที่ผมได้ลองแต่งเพลงเองครับ ทั้งเนื้อร้อง ทำนอง แล้วก็ดนตรี ลงไปโปรดิวซ์เองทั้งหมดเลยครับ เพราะว่าผมอยากมีส่วนร่วมในทุก ๆ ขั้นตอนที่คนทำเพลงเขาทำกันครับผม อยากลองดูว่า เอ๊ะ มันยากหรือง่าย พอจะทำเองได้ไหม เราก็ลองเขียนเนื้อเพลงขึ้นมา โดยอิงจากประสบการณ์จริงของเราเอง จากที่เราเคยแอบชอบรุ่นพี่ป.6 เราอยู่ป.2 ก็ลองแต่งขึ้นจากสถานการณ์จริงของเราเอง เคยเขียนจดหมายบอกรักรุ่นพี่ในกระดาษเล็ก ๆ ตอนนั้นก็ฝากให้เพื่อนไปส่ง แต่ดันไม่ทันถึงรุ่นพี่เพราะเพื่อนเอาไปให้ครูตอนนั้น (หัวเราะ) ก็เลยเป็นอะไรที่รู้สึกเขินนะตอนนั้นที่ครูเอาไปอ่านแล้วบอกเพื่อนต่อหน้าห้อง เราก็รู้สึกว่าเออจากประสบการณ์นั้นก็สามารถนำมาทำเป็นเพลงได้นะ เลยกลายเป็นตัวแทนของความเขิน แล้วก็อารมณ์ความรู้สึกของใครหลาย ๆ คนที่ไม่กล้ามอง ไม่กล้าไปเจอ แต่ว่าเราแอบชอบเขาอยู่ ก็น่าจะตรงกับชีวิตใครหลาย ๆ คนเหมือนกันครับ ก็เลยกลายเป็นเพลงนี้ครับ “โอ๊ย...ฉันเขิน” ครับ

เพลงของเบนซ์จะเป็นแนวที่ค่อนข้างฟังสบาย ๆ อยากทำเพลงแนวไหนอีกบ้างไหมคะ

อยากทำเพลงแนวไหน จริง ๆ อยากทำทุกแนวเลยครับ แต่ว่าตอนนี้อยากร้องเพลงช้าบ้างครับ เพลงแนว ๆ อกหักครับ ท้าทายดีครับ

ปกติชอบฟังเพลงแนวไหนคะ

ผมชอบฟังเพลงเก่าครับ ยุค 90 คือชอบฟังดนตรีสบาย ๆ แล้วก็เนื้อร้องที่ร้องง่าย เช่น พี่เบิร์ด พี่หนุ่มวงกะลา ก็จะชอบมากเลยครับ เป็นแนวที่เราสามารถนำไปใช้เป็น Reference ในการแต่งเพลงได้ ฟังเพื่อต่อยอดได้ อะไรแบบนี้

มีเพลงที่ตอนนี้ชอบฟังเป็นพิเศษไหม เพลงล่าสุดที่เพิ่งฟัง

เพลงล่าสุดที่เพิ่งฟังบนรถเมื่อกี้เลยครับ “ถ้าเขาจะรักยืนเฉย ๆ เขาก็รัก” ครับ กำลังดังเลย น้องเขาร้องเพราะมากครับ จริง ๆ ผมก็อยากทำเพลงแนวนี้นะ ก็เป็นอีกหนึ่ง Reference ที่ผมจะนำไปเรียนรู้ครับ

ในฐานะที่เบนซ์เป็นศิลปินนักร้องและกำลังมีผลงานเพลง มีศิลปินคนไหนที่เราอยากร่วมงานบ้างไหมคะ

อยากร่วมงานกับทุกคนเลยครับ ทุกคนเป็นเหมือนรุ่นพี่ในวงการบันเทิงที่เก่งกว่าเรา ก็อยากร่วมงานกับคนเก่ง ๆ ครับทุกคนเลยถ้ามีโอกาส

นอกจากผลงานเพลงแล้ว จะมีผลงานซีรีส์ให้แฟน ๆ ได้ติดตามกันอีกเมื่อไหร่คะ

อันนี้ก็ต้องรอติดตามกันดูครับว่าจะมีอีกเมื่อไหร่ ขอยังไม่บอกแล้วกันครับ ให้แฟน ๆ ลองติดตามดูนะครับ

มีบทบาทแบบไหนที่เราอยากลองเล่นไหมคะ

บทบาททางด้านการแสดงใช่ไหมครับ จริง ๆ ก็ขึ้นอยู่กับโอกาสครับ แต่ถ้าที่ผมอยากเล่นจริง ๆ คือแนวสองคาแรกเตอร์เหมือนเดิมครับ แบบสวิตช์อารมณ์ไปมาครับ บทบู๊ก็อยากเล่นครับ ถ้ามีโอกาสก็อยากเล่น จริง ๆ มีหลายบทมากนะครับ คนบ้าก็อยากเล่น อยากลองดูว่า เราจะสามารถสวิตช์อารมณ์ทันทีได้รึเปล่า เป็นชาเลนจ์สำหรับตัวเองมาก ๆ ถ้าเราทำได้ก็เป็นอีกก้าวหนึ่งที่จะพัฒนาศักยภาพของเราไปได้ครับ

เบนซ์มีสิ่งยังไม่เคยทำเเละอยากลองทำในอนาคตไหมคะ

จริง ๆ งานในวงการบันเทิงมีหลายแขนงนะครับ ทั้งนักร้อง นักแสดง นักแสดงก็จะมีละครเวที ละครทีวี ซีรีส์ ฯลฯ จริง ๆ เราอยากทำอีกอย่างคือ พิธีกร แล้วก็ดีเจครับ รวมทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังด้วย ก็ขึ้นอยู่กับโอกาสที่ผู้ใหญ่จะมอบให้เรา ก็เปิดรับโอกาสที่เราจะเรียนรู้ในทุก ๆ ด้านครับ บางด้านเรายังไม่เคยลองก็เลยยังตอบไม่ได้ว่าเราไม่สามารถทำได้ เพราะเรายังไม่ได้ลองลงมือทำด้วยตัวเอง แต่พอเราได้ลงมือทำด้วยตัวเองเราก็จะรู้ว่าอันนี้ Yes นะ อันนี้ No นะ จริง ๆ คือเราอยากเรียนรู้ในทุก ๆ แขนงของวงการบันเทิงก่อน จะได้รู้ว่าเราชอบ หรือไม่ชอบอะไรครับ

เวลาอ่านหนังสือสอบแล้วเครียดหรือหมดกำลังใจ มีวิธีฮีลตัวเองหรือให้กำลังใจตัวเองยังไงบ้างคะ

อ่านหนังสือเหรอครับ จริง ๆ ผมก็อ่านเรื่อย ๆ ครับ อ่านชิลล์ ๆ ครับ ถ้ามีเวลาก็อ่าน เราค่อย ๆ อ่านไป พยายามจะไม่ซีเรียสมาก ไม่กดดันตัวเองครับ เราจะวางแผนการอ่านหนังสือของเราอยู่แล้วครับว่าวันนี้ต้องอ่านหัวข้อนี้ อีกวันนึงต้องอ่านอีกหัวข้อนึง แล้วก็กลับมาทบทวนครับ เป็นอย่างนี้ซ้ำ ๆ ไป มันก็จะจำอยู่ในหัวเราเองว่าอันนี้คือหัวข้อนี้นะ แล้วก็สรุปเป็นแก่น พอเราได้หัวข้อแต่ละหัวข้อเสร็จ อ่านทุกอย่างเสร็จเราก็จะสรุปทุกอย่างได้เองครับ

อย่าเครียดเกินไป

ใช่ครับ อ่านหนังสือ เราอย่าไปเครียดเกินไปครับ เพราะว่าทุกอย่างมันต้องมีการวางแผนก่อนครับ ถ้าเราอ่านทีเดียวเลยมันก็จะเต็มอยู่ในหัว แล้วจะรู้สึกท้อ รู้สึกเหนื่อยว่าทำไมอ่านเยอะจัง เราต้องค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปครับในการอ่านหนังสือ ก็แนะนำว่าต้องว่างแผนก่อนครับ

มีเมนูโปรดที่ชอบทานไหม หรือเมนูที่ไม่ชอบทาน และถ้าให้แนะนำอาหารไทยให้แฟน ๆ ชาวจีน อยากแนะนำเมนูอะไร

ผมชอบขนมจีนน้ำเงี้ยวครับ ผมเป็นคนลำพูน เป็นคนภาคเหนือ จริง ๆ เราอยากกินอาหารเหนือที่เป็นสูตรจากบ้านของเรา ซึ่งขนมจีนน้ำเงี้ยวเป็นอะไรที่ชอบมาก ส่วนอาหารที่ไม่ชอบคือของดองครับ ผักกาดดอง กิมจิ ตอนผมไปเกาหลีผมก็ไม่กินนะครับ เพราะรู้สึกว่ามันเปรี้ยว ๆ ก็จะดูขัด ๆ หน่อยครับ แต่ถ้าจะแนะนำอาหารให้ชาวจีนได้ทานกัน ผมก็จะแนะนำขนมจีนน้ำเงี้ยวครับ จะได้ Represent บ้านของเราด้วยว่าขนมจีนน้ำเงี้ยวเป็นแบบนี้นะ อยากจะคงเอกลักษณ์บ้านเราไว้ ก็จะนำเสนอให้เขารู้ว่ามันอร่อยนะ

อยากให้เบนซ์ฝากอะไรถึงตัวเองในอดีต ในปัจจุบัน และในอนาคตหน่อยค่ะ

จะฝากถึงตัวเองนะครับก็คือ ถ้าเราตั้งใจ ก็ไม่มีอะไรยากเกินกว่าความพยายามนะครับ ทุกอย่างในอดีตก็หล่อหลอมให้เราเป็นถึงทุกวันนี้ครับ ในอนาคตจะเป็นยังไง เราก็ต้องทำปัจจุบันให้ดีก่อนนะครับ แล้วก็สู้ในทุก ๆ วันให้เต็มที่ที่สุดครับ เพื่อที่ว่าวันนึงที่เรากลับมาย้อนมองดูตัวเอง เราจะได้ไม่เสียใจภายหลังครับ เต็มที่ในทุกโอกาสแล้วก็ต้องทำให้สุดครับ มีความสุขกับงานที่เราทำในทุกวัน ตั้งใจ มีความสุข แล้วก็พยายามอดทนเต็มที่ทุกอย่างครับ

ขอคำนิยามของคำว่า #แบตเตอรี่ของอเลิ๊ต หน่อยได้มั้ยคะ?

จริง ๆ แบตเตอรี่ของอเลิ๊ตเนี่ย ผมตั้งไว้ตอนที่ผมเขาวงการบันเทิงมาแรก ๆ เลยครับ คำว่าแบตเตอรี่เนี่ยก็เหมือนกับแบตก้อนนึงที่สามารถเติมพลังงานซึ่งกันและกันได้ สมมติแฟนคลับหมดกำลังใจ ท้อแท้ หรือว่าหมดพลังงาน เราก็สามารถให้กำลังใจเขาได้ เราสามารถเติมเต็มให้เขามีความสุขได้ในวันนั้น เหมือนกันกับเวลาที่ผมท้อ เหนื่อย หรือว่าหมดกำลังใจ ผมก็จะเข้าไปอ่านในแฮชแทกนี้ครับ #แบตเตอรี่ของอเลิ๊ต เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผมและแฟนคลับ เหมือนกับเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกันและกัน แล้วก็เติมพลังให้กันได้ตลอดครับ ก็ง่าย ๆ เลยครับ เป็นแบตเตอรี่ที่สำรองให้กันเสมอครับ

เร็ว ๆ นี้จะมีผลงานอะไรให้แฟน ๆ ได้ติดตามกันอีกบ้างคะ

ก็ฝากเพลงก่อนนะครับ โอ๊ย...ฉันเขิน ครับได้ทาง Youtube Channel ของเบนซ์เองครับ BENZALERT Official ครับ ก็ไปกด Subscribe กันได้นะครับ ก็จะมีออนสตรีมมิ่งในทุกช่องทางนะครับ Joox Spotify Tidal แล้วก็ Itune ครับ ก็ไปโหลดฟังกันได้ แล้วก็เร็ว ๆ นี้ อาจจะมีทางคลื่นวิทยุบ้าง ก็รอติดตามกันนะครับว่าจะเป็นผลงานอะไร Project ต่าง ๆ ก็จะมีให้ติดตามยาวไปจากปีนี้จนถึงปีหน้าแน่นอนครับ ขอให้รอลุ้นกันนะครับ

สุดท้ายฝากอะไรถึงแฟนคลับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่สนับสนุนเราหน่อยค่ะ และฝากช่องทางการติดตามของเราหน่อยค่ะ

โห จริง ๆ อยากขอบคุณเขามาก ๆ ที่คอยเป็นกำลังใจที่ดีสำหรับผมเสมอ ผมมีความสุขมากครับที่มีเขาคอยให้กำลังใจ คอยผลักดันเรา ตักเตือนเรา คอยให้ข้อเสนอแนะเราครับ แฟนคลับเป็นเหมือนทหารคู่ใจของผม เหมือนเป็นแบตเตอรี่ที่ขาดไม่ได้ครับ เขาคือพลังงานสำคัญที่ทำให้ผมมีวันนี้ด้วย ถ้าไม่มีพวกเขาผมก็ เอ...ไม่รู้ว่าจะทำงานไปเพื่อใคร อาจจะเพื่อตัวเอง แต่ก็อาจจะทำได้ไม่เต็มที่ แต่พอมีพวกเขาอยู่ด้านหลังคอยผลักดันเรา เขาจะเห็นถึงความสำเร็จเราว่าเราทำให้เห็นว่าพวกเขาสำคัญต่อเรา เราทำเต็มที่นะ เราอยากทำให้พวกเขาภูมิใจว่าเลือกรักคนไม่ผิด ซึ่งผมมีความสุขมากเวลาที่ไปทำงานแล้วได้เห็นพวกเขาในอินเตอร์เน็ต ในโซเชียลต่าง ๆ ที่เขาให้กำลังใจเรามา ทุก ๆ ข้อความผมได้อ่านหมดนะครับ ผมได้กำลังใจจากข้อความเหล่านั้น ในส่วนของ Inter Fans ก็คอยส่งช่อดอกไม้ให้กำลังใจเวลาเราไปงานต่าง ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งกำลังใจสำคัญที่ขาดไม่ได้ครับ ช่อดอกไม้ก็เป็นเหมือนตัวแทนเขาที่อยู่ระยะไกล แต่ก็ส่งมาให้เรา ทั้งอินโดนีเซีย จีน ฟิลิปปินส์ เลยก็ได้รับมาอย่างสม่ำเสมอนะครับ ต้องขอขอบคุณ Inter Fans ที่คอยสนับสนุนเราด้วยครับ ก็อยากให้อยู่กันแบบนี้นาน ๆ ครับ เพราะผมอยากทำให้พวกคุณภูมิใจว่าเลือกรักคนไม่ผิดครับ…

Thanks

Benz Natthapong Pathong - เบนซ์ ณัฐพงศ์ ผาทอง

IG : bbenzalert

Make up & Hair : @mos_mammos

Line Official : @benzalertcrew

Youtube Channel : BENZALERT Official

https://www.youtube.com/channel/UCUIIgRdX_c45uqBvqxExJEA

Single : โอ๊ย..ชั้นเขิน (You make me blush)

Coordinator / Interviews : Kawinna Penkul @kawintoon

Column Writer : Nathanich Srijumnong @myselfworth_