Interview

        แนวความคิดของภาพยนตร์แนวเฟมินิสต์มาจากฮอลลีวูดในช่วงทศวรรษที่ 1930 และ 1960 ด้วยการปลุกจิตวิญญาณของผู้หญิง ผู้กำกับหญิงบางคนจึงต้องฝ่าฟันในการสร้างสรรค์งานของตน โดยอาศัยงานสร้างสรรค์จากผู้ชายเป็นแบบอย่างมาเป็นเวลาหลายสิบปี ทั้งยังต้องเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ที่ผู้หญิงเมืองยุคใหม่เผชิญโดยตรงในอาชีพ ความรัก ครอบครัว และสังคม การนำเสนอสภาพความเป็นอยู่ของผู้หญิงในเมือง สำรวจการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงของผู้หญิง

         เมื่อพูดถึงละครทีวีและการผลิตคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับผู้หญิง เราต้องพูดถึงบริษัทโปรดักชั่นชื่อดังของไทยอย่าง “Sour Bangkok” ซึ่งมีเสียงที่สำคัญในการสร้างสรรค์ภาพยนตร์โฆษณา ละครโทรทัศน์ และตัวละครหญิงที่หลากหลาย ผลงานส่วนใหญ่อิงจากความคิดเห็นของสาธารณชนในสังคมปัจจุบัน โดยมีผู้หญิงเป็นตัวดำเนินเรื่อง เน้นที่คุณค่าของผู้หญิง จากมุมมองของผู้หญิง สำรวจและตีความประเด็นทางสังคมและจิตวิญญาณของผู้หญิง แสดงให้เห็นถึงลักษณะที่แท้จริงของผู้หญิงในยุคใหม่ และสร้างเสียงสะท้อนทางอารมณ์ต่อผู้ชม ในฐานะผู้ก่อตั้ง Sour Bangkok คุณเล็ก ดมิสาฐ์ ได้ใส่ใจและให้ความสำคัญกับการค้นหาความหมายที่แท้จริงของผู้หญิงยุคใหม่ ด้วยความเข้าใจอันลึกซึ้งของเธอ เธอได้เปิดโลกกว้างในตลาดของผู้หญิง ภายใต้การนำของเธอ โฆษณา ภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์เกี่ยวกับผู้หญิงจำนวนหนึ่งที่ผลิตโดย Sour Bangkok ได้ปลุกเร้าความสนใจและมีการพูดคุยกันอย่างมากในโลกโซเชียล เนื่องจากเนื้อหาที่สร้างสรรค์อย่างยอดเยี่ยม เธอจึงได้รับรางวัลมากมาย เช่น ‘Top 100 Marketing and Advertising Companies’ จากเวที MADcon 2109 ถือเป็นรางวัลที่มอบให้บริษัทโฆษณาระดับโลกที่สร้างผลงานโดดเด่นที่สุดในรอบปี , รางวัล "GOLD LONDON INTERNATIONAL AWARDS 2018" และคว้ารางวัลในสาขา Southeast Asia Boutique Agency of the Year 2018 , 2019 และ 2020 ทั้ง 3 ปีติดต่อกัน จากเวที Agency of the Year Awards (AOY)

         ในระหว่างการสัมภาษณ์ คุณเล็ก ดมิสาฐ์ ได้แบ่งปันประสบการณ์การเติบโตของเธอกับเรา และพูดคุยถึงความเข้าใจของเธอเกี่ยวกับแนวคิดเรื่องจิตสำนึกของผู้หญิง เธอบอกว่า "เราอยากเป็นผู้หญิงแบบไหนกัน” นอกจาก "ความสวย" แล้ว ผู้หญิงยังมีโอกาสทำอะไรอีกบ้าง ข้อดีของผู้หญิงนั้นละเอียดอ่อนมาก ดูอ่อนโยน อย่างไรก็ตาม บางสิ่งที่มีเหตุผลในโลกของผู้ชายนั้นไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ คุณเล็ก ดมิสาฐ์ เชื่อว่าผู้หญิงยุคใหม่ควรเป็นอิสระ มั่นใจ และกล้าหาญ เป็นอิสระจากใคร ๆ คิดและเติบโตอย่างอิสระ ยุคนี้ได้มอบบทบาทมากมายให้กับผู้หญิง และการค้นหาตนเองคือประเด็นหลักในการเติบโตของผู้หญิง ด้วยความสำเร็จของผลงานชุดผู้หญิงที่สร้างสรรค์โดย Sour Bangkok การสร้างสรรค์โดยผู้หญิง จึงให้ความสมจริงและกลายเป็นประเด็นร้อนในวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ ผลงานภาพยนตร์และโทรทัศน์ที่เน้นเรื่องผู้หญิงมักจะจุดประกายขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งได้ผลักดันความสนใจของผู้ชมต่อหัวข้อของผู้หญิงไปสู่จุดไคลแม็กซ์ครั้งใหม่ ซึ่งเป็นการเปิด "ยุคสมัยของเธอ" บนจอโทรทัศน์ มีเสียงของผู้หญิงในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งยังมีผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ที่เป็นผู้หญิงอยู่เบื้องหลังมากขึ้นเรื่อย ๆ ในยุคที่ผู้หญิงเป็นผู้ขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจ โฆษณา ภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์จะไม่ถูกปิดกั้นไว้อีกต่อไป และในอนาคตข้างหน้าผู้ชมจะได้เห็นผลงานที่โดดเด่นของผู้หญิงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในฉบับนี้เรามาทำความรู้จักกับ “คุณเล็ก ดมิสาฐ์” หญิงสาวผู้อ่อนโยนแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังความสร้างสรรค์กัน

ManGu : คุณเล็กสนใจด้านงานศิลปะและงานสร้างสรรค์ ตั้งแต่สมัยเรียนใช่ไหมคะ?

คุณเล็ก : ตอนชั้นประถม ฉันชอบทำกิจกรรมสร้างสรรค์ แต่พ่อกับแม่กลับมีความคิดต่างออกไป พ่ออยากให้ฉันเรียนศิลปะ แม่อยากให้ฉันเรียนบริหารธุรกิจ ตอนที่ฉันกำลังเตรียมเข้ามหาวิทยาลัย ก็พบว่ามีงานที่เกี่ยวข้องกับทั้งศิลปะและบริหารธุรกิจ นั่นคืองานด้านโฆษณา เนื่องจากงานโฆษณานั้น ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ฉันจึงวางแผนจะเรียนต่อด้านโฆษณาในมหาวิทยาลัย

ManGu : คุณเล็กเติบโตขึ้นมาในครอบครัวชาวจีน - อเมริกัน ในช่วงที่คุณเติบโต แนวคิดใดของครอบครัวที่มีอิทธิพลต่อคุณ และทำให้คุณให้ความสนใจกับผู้หญิงและพลังของผู้หญิง?

คุณเล็ก : พ่อแม่ของฉันมีเชื้อสายจีน และทั้งคู่ก็พูดภาษาจีนที่บ้าน พวกเขามีแนวคิดแบบปิตาธิปไตย พวกเขาให้ทุกอย่างกับลูกชายของพวกเขาก่อน ตั้งแต่อายุยังน้อย พ่อแม่ของพวกเขาได้ปลูกฝังงานที่สำคัญ มีแนวคิดว่า "ลูกชายต้องเลี้ยงดูครอบครัว" พวกเขาเชื่อว่าลูกสาวจะต้องแต่งงานหลังจากเรียนจบ งานก็ยุ่ง ในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของชีวิตครอบครัวก็มีมาตลอด ตอนเรียนม.ปลายก็มักสงสัยว่าทำไมผู้หญิงถึงต้องพึ่งผู้ชายตลอดล่ะ? ผู้หญิงไม่สามารถเติบโตอย่างอิสระโดยไม่มีผู้ชายเหรอ? ฉันไม่เชื่อในสิ่งเหล่านี้จึงมีความคิดต่อต้าน ฉันต้องการเป็นผู้หญิงอิสระและต้องการพลังของผู้หญิงที่จะลุกขึ้น ครั้งแรกที่ฉันอยากจะเป็นอิสระคือการบอกพ่อแม่ว่าฉันต้องการไปเรียนต่อต่างประเทศด้วยตัวเอง ตอนแรกพ่อแม่ของฉันไม่ยอมปล่อยฉันไป พวกเขาคิดว่าเป็นเรื่องยากที่เด็กผู้หญิงจะไปเรียนต่อต่างประเทศคนเดียว แต่เนื่องจากความพากเพียรของฉัน หลังจากที่ฉันไปต่างประเทศ ฉันพยายามอย่างมากที่จะไม่ขอเงินจากพ่อแม่และดูแลตัวเองที่นั่น

ManGu : ในฐานะที่เป็นเด็กผู้หญิงที่ไปเรียนในต่างประเทศคนเดียว ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คุณคิดว่าประสบการณ์การอยู่คนเดียวในต่างประเทศทำให้คุณมีการเปลี่ยนแปลงทางความคิดหรือไม่?

คุณเล็ก : ตอนที่ฉันไปซานฟรานซิสโกครั้งแรก อากาศที่นั่นหนาวมาก และฉันรู้สึกอึดอัดมาก ในช่วงเวลานั้น ฉันเห็นสิ่งต่าง ๆ มากมายที่แตกต่างจากประเทศไทย และได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนที่นั่น ฉันเรียนรู้ที่จะมองชีวิตจากอีกมุมหนึ่ง และวิสัยทัศน์ของฉันก็กว้างขึ้นเช่นกัน บุคคลเรียนรู้ที่จะเผชิญกับชีวิต การทำงาน และอารมณ์ ทั้งยังเรียนรู้ที่จะสัมผัสและเติบโตด้วยตัวเขาเอง ในซานฟรานซิสโก ฉันไม่อยากรบกวนครอบครัวและทำงานนอกเวลาขณะเรียนไปด้วย ซึ่งทำให้ฉันมีโอกาสเรียนรู้ที่จะเป็นอิสระและอยู่คนเดียว เวลาเจอปัญหาก็จะหาทางแก้ไขเอง ดังนั้นตอนนี้เวลาเจอปัญหาก็คิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะเมื่อคุณเจออะไรมากขึ้น เจอคนเยอะขึ้น เจอปัญหามากขึ้น คุณจะรู้สึกเลยว่า ไม่ว่าเรื่องจะใหญ่แค่ไหนก็กลายเป็นเพียงเรื่องเล็กได้

ManGu : ตอนที่ทำงานพาร์ทไทม์ที่อเมริกา คุณเจออะไรที่น่าสนใจบ้างไหม?

คุณเล็ก : ฉันทำงานพาร์ทไทม์ในร้านอาหารญี่ปุ่นที่ซานฟรานซิสโก เจ้าของร้านเป็นคนไทย ตอนทำงาน ฉันได้พบว่าอาหารไทยจานหนักกว่า ส่วนอาหารญี่ปุ่นนั้นเบากว่าเยอะเลย

ManGu : งานด้านโฆษณาเป็นงานแรกที่คุณทำ หลังจากกลับมาจากสหรัฐอเมริกาใช่ไหม?

คุณเล็ก : ตอนไปเรียนต่างประเทศที่ซานฟรานซิสโก ฉันมีวิชาเลือก 3 วิชา ไม่ว่าฉันจะอยากเรียนกับครูคนไหน ฉันก็เลือกหลักสูตรของเขา จากนั้นโรงเรียนจะช่วย เพราะฉันสนใจวงการโฆษณา อยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิชาชีพโฆษณา และอยากรู้จักโฆษณาให้มากที่สุด เลยขอให้โรงเรียนช่วยติดต่อ คุณจุรีพร ไทยดำรงค์ และคุณธีรศักดิ์ ธนพัฒนากุล ซึ่งเป็นผู้บริหารงานสร้างสรรค์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เพราะฉันอยากทำงานกับสองท่านนี้ ฉันบอกพวกเขาก่อนกลับ เพราะฉันเคยได้เรียนกับพวกเขา พวกเขาเห็นงานของฉันและเข้าใจสไตล์ของฉัน ฉันเลยได้ทำงานกับคุณจุรีพร ทันทีที่ฉันกลับมาประเทศไทย

ManGu : หลังจากกลับมาทำงานที่ประเทศไทย คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับงานโฆษณาของไทยในขณะนั้น?

คุณเล็ก : สมัยนั้นโฆษณาไทยดังไปทั่วโลกและมีพัฒนาการที่ดีมาก ฝรั่งชอบ "มุกตลกของไทย" โฆษณาไทยยังคว้ารางวัลในวงการโฆษณามาได้หลายรางวัล ไม่ว่าจะเป็นระดับโลกหรือระดับภูมิภาค

ManGu : เพราะอะไรคุณเล็กถึงเริ่มก่อตั้งบริษัทของตัวเอง Sour Bangkok?

คุณเล็ก : ฉันเคยทำงานให้กับคุณจุรีพร ไทยดำรงค์ และคุณธีรศักดิ์ ธนพัฒนากุล เคยทำงานกับบริษัท โอกิลวี่ และวันเดอร์แมน ธอมสัน บริษัทเหล่านี้เป็นบริษัทโฆษณาที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย ฉันได้เรียนรู้อะไรมากมายจากบริษัทเหล่านี้ แต่ในขณะเดียวกัน ฉันพบว่ารูปแบบการทำงานและขั้นตอนการทำงานของบริษัทใหญ่ ๆ เหล่านี้มีความคล้ายคลึงกัน ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกไม่ท้าทาย ฉันต้องการท้าทายปัญหาใหม่ ๆ และลองสิ่งใหม่ ๆ และตอนนั้นฉันก็ให้ความสนใจในเรื่องผู้หญิงเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่เคยได้ใช้ความเป็นผู้หญิงในงานเลย และรู้สึกว่าในขณะนั้นมีโฆษณาเกี่ยวกับผู้หญิงในตลาดน้อยมาก ดังนั้นฉันจึงต้องการเริ่มต้นบริษัทเอเจนซี่ของตัวเองและลองใช้แนวคิดนี้ดู

ManGu : หลังจากก่อตั้งบริษัท Sour Bangkok แล้ว บริษัท Sour Bangkok เติบโตขึ้นมาได้อย่างไร?

คุณเล็ก : ในปีแรกที่ก่อตั้งบริษัท ธุรกิจหลักของเราเกิดจากการร่วมมือกับบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม แต่บริษัทเหล่านี้มีงบโฆษณาที่ไม่สูงนัก เนื่องจากเราเป็นเพียงบริษัทที่เพิ่งเริ่มต้น เราจึงดำเนินธุรกิจต่อไปตราบที่เราทำได้ โดยในปีที่สองเราได้โจทย์ที่ท้าทายมากขึ้น คือได้เริ่มเข้ามาในแวดวงภาพยนตร์และละคร ซีรีส์ทางโทรทัศน์ Entertainment ซึ่งซีรีส์ละครทางโทรทัศน์ในตอนนั้น มีเรื่องราวของผู้หญิงเป็นตัวดำเนินเรื่องเป็นเรื่องแรกที่สร้างขึ้นในเวลานั้น และได้รับความสนใจอย่างมาก ทำให้บริษัทของเรามีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า บริษัทก็เติบโตขึ้น หลังจากที่ได้เห็นผลงานของเราแล้ว บริษัทอสังหาริมทรัพย์และบริษัทประกันภัยก็เริ่มมองหาเราเพื่อโฆษณาเช่นกัน เพราะเราชัดเจนในความเป็นผู้หญิง เรายึดมั่นในแนวคิดและปฏิบัติต่อทุกงานด้วยความจริงใจเสมอมา เพราะเราไม่ใช่ธุรกิจที่ทำเพียงครั้งเดียว ทุกงานเป็น Portfolio ของเรา คนภายนอกจะมองเห็นได้ว่าเอเจนซี่เช่นเรากำลังทำอะไรอยู่ และเราต้องการให้ผู้คนเห็นเรามากขึ้น ในปีที่สาม บริษัทมีขนาดใหญ่ขึ้น ลูกค้าไว้วางใจเรามากขึ้น และงบประมาณการโฆษณาของลูกค้าก็มากกว่าในปีแรกมาก ตัวอย่างเช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งใช้ค่าโฆษณาเป็นจำนวนมากทุกปีเพื่อประชาสัมพันธ์เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติให้มาเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น และต้องการให้เราทำโฆษณาเพื่อเชิญชวนให้ผู้หญิงมาเที่ยวประเทศไทย ก็เป็นการแบ่งงบมาที่เรา แม้ว่าปีนี้เรากำลังเผชิญกับโรคระบาด แต่เรายังไม่หยุดและยังคงทำงานอย่างหนักเพื่อผลิตซีรีส์ทางโทรทัศน์ ซึ่งได้รับความสนใจและกระตุ้นกระแสสังคมเป็นอย่างมาก

ManGu : Sour Bangkok ประสบความสำเร็จในการโฆษณามาก แล้วทำไมคุณถึงต้องการสร้างซีรีส์เกี่ยวกับผู้หญิง?

คุณเล็ก : พอดีมีพี่คนหนึ่งชื่อ เจ๋อ ภาวิต จิตรกร เราเคยทำงานกับเขาที่บริษัทโอกิลวี่ เขาได้มาเป็น CEO ของ GMM และเคยเห็นโฆษณาที่ฉันทำ โฆษณายาว 40 นาทีซึ่งเทียบเท่ากับภาพยนตร์ เขาชอบโฆษณาที่ฉันทำมาก และรู้สึกว่าเนื่องจากฉันสามารถถ่ายทำโฆษณาที่มีความยาวเช่นนี้ได้ มันคงจะดีถ้าจะสร้างซีรีส์ทางทีวี เขาต้องการถ่ายละครด้วยธีมใหม่ และจุดประสงค์ของ Sour Bangkok คือการทำธีมผู้หญิง เขาจึงเชิญฉันให้ทำซีรีส์ทางทีวีด้วยกัน ด้วยแนวคิดนี้ ฉันจึงเริ่มมองหาความคิดสร้างสรรค์ เนื่องจากตัวละครหญิงในละครไทยส่วนใหญ่ในสมัยนั้นอิงจากธีม "ผู้หญิงที่มีสามี มีลูก มีครอบครัวที่บ้าน " ฉันเลยอยากหาธีมที่ต่างออกไป

ManGu : เมื่อคุณสร้างซีรีส์เกี่ยวกับผู้หญิง แรงบันดาลใจของคุณมาจากประสบการณ์การเติบโตของคุณเองหรือสิ่งที่คุณเห็นและได้ยินมา?

คุณเล็ก : ฉันบอกพี่เจ๋อไปว่าถ้าเรามีกลุ่มเป้าหมายเป็น Young Adult งั้นซีรีส์เกี่ยวกับผู้หญิงในโรงเรียนก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ ซึ่งพนักงานของบริษัทส่วนใหญ่ก็เป็นผู้หญิง มีครีเอทีฟผู้หญิงหลายคน แล้วส่วนใหญ่ก็มาจากโรงเรียนหญิงล้วนทั้งนั้นเลย หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นในโรงเรียนหญิงล้วนอยู่เหนือจินตนาการของเด็กผู้ชาย ตอนที่เราเรียนในโรงเรียนหญิงล้วน เรามักได้ยินเกี่ยวกับอาจารย์ชายลวนลามนักเรียนหญิง แต่ไม่มีใครกล้าขัดขืน ซึ่งทำให้นักเรียนหญิงตกใจมาก ฉันหวังว่าจะมีไอดอลของผู้หญิงที่สามารถเป็นแบบอย่างให้กับเด็กผู้หญิงและกล้าที่จะพูดต่อต้านสิ่งเหล่านี้

ManGu : ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาโฆษณาเกี่ยวกับผู้หญิงหรือซีรีส์ จะได้รับความสนใจจากสังคมสูงมาก คุณคิดว่าอะไรคือเหตุผลสำหรับเรื่องนี้?

คุณเล็ก : เราจะทำการบ้านให้มากก่อนที่จะลงมือผลิตผลงานออกมา งานส่วนใหญ่ของเราจะสะท้อนถึงกระแสทางสังคม และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ผู้ชมมองว่าเป็นเรื่องจริง ทุกคนจึงอินกับงานของเราได้ง่ายขึ้น

ManGu : งานเหล่านี้นอกจากจะได้รับความนิยมแล้ว ได้รับแรงต่อต้านบ้างไหม หรือว่ามีการโดนฟ้องร้องเพราะว่านำมาจากเรื่องจริงบ้างไหม?

คุณเล็ก : เวลาสร้างสรรค์ผลงานเราระมัดระวังมาก แม้จะมาจากข่าวจริง แต่เราจะไม่เปิดเผยว่าข่าวจริงคือมาจากข่าวอะไร เพราะเราไม่ต้องการให้คนในเหตุการณ์จากข่าวได้รับผลกระทบอีกครั้ง รวมทั้งเหยื่อในข่าวด้วย เราจะไม่ไปขยี้ว่าเราเอามาจากข่าวไหน

ManGu : คุณทำงานเกี่ยวกับผู้หญิงมามากแล้ว และคุณก็เป็นผู้นำหญิงด้วย มีคนบอกว่าเวลามีผู้หญิงรวมอยู่ด้วยกันมาก ๆ ก็จะมีหลายเรื่องที่ต้องรับมือ ทางคุณเล็กได้เจอบ้างไหม และรับมืออย่างไร

คุณเล็ก : ก็เจอนะคือผู้ชายจะไม่ค่อยคิดมาก เวลาเอ็ดเขาก็จะหัวเราะแล้วบอกว่าจะไม่ทำอีก ไม่นานก็ลืมแล้ว แต่ผู้หญิงจะค่อนข้างคิดมากกว่าผู้ชาย จะมีเรื่องของรายละเอียดเยอะกว่า แต่ฉันมองว่าเป็นเรื่องที่น่ารัก เพราะว่าการที่เราเป็นผู้หญิงมาอยู่ด้วยกันเยอะ ๆ เราก็ต้องใช้ความเป็นผู้ชายในตัวเราที่มีอยู่มาบริหารเขา อย่างเช่นการพูดตรง เพราะโดยปกติผู้หญิงจะขี้เกรงใจ จะอ้อมค้อม รักษาน้ำใจ แต่เรารู้สึกว่าจะต้องให้บริษัทมีความเป็นผู้ชายอยู่บ้าง เพื่อให้ยังคงมีสมดุลย์อยู่ในนั้น

ManGu : สไตล์การบริหารของคุณเป็นอย่างไร?

คุณเล็ก : จริง ๆ เป็นคนพูดตรง ๆ จนพนักงานเริ่มกลัว เพราะฉันคิดว่าเวลามีค่า เลยไม่ชอบให้ใครมาอ้อมค้อม เวลาดีก็บอกว่าดี เวลาต้องแก้ไขก็จะคอมเมนต์แล้วบอกว่าจะแก้ไขตรงไหนยังไง ก็จะเป็นคนที่ค่อนข้างพูดตรงแม้กระทั่งกับลูกค้าด้วย

ManGu : สุดท้ายนี้มีอะไรจะฝากสำหรับผู้อ่านนิตยสาร @ManGu ไหม?

คุณเล็ก : หวังว่าทุกคนจะให้ความสนใจประเทศไทยมากขึ้น เมื่อโควิด-19หมดไป ยินดีต้อนรับเข้าสู่ประเทศไทย และให้ความสนับสนุนกับ Sour Bangkok ต่อไป เราจะผลิตผลงานที่น่าสนใจและสร้างสรรค์ผลงานดี ๆ สำหรับทุกคนต่อไป