News & Event

ชาดำลิ่วเป่าเป็นชาเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงของประเทศจีน ซึ่งผลิตในตำบลลิ่วเป่า อำเภอชางอู๋ เมืองอู๋โจว เขตฯ กว่างซีจ้วง ประเทศจีน ตั้งแต่หลายร้อยปีก่อน ชาดำลิ่วเป่าเมืองอู๋โจวก็ได้ออกจากภูเขา ข้ามมหาสมุทร ส่งออกไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น และอเมริกาเหนือผ่าน "เส้นทางการค้าชาทางเรือโบราณ" และกลายเป็นสินค้าสำคัญอย่างหนึ่งของเส้นทางสายไหมทางทะเล

ในฐานะประตูทิศตะวันออกของเขตฯ กว่างซีจ้วง เมืองอู๋โจวอยู่ติดกับมณฑลกวางตุ้ง ฮ่องกง และมาเก๊า เป็นเมืองภาคตะวันตกเฉียงใต้ที่อยู่ใกล้กับสามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูเจียงมากที่สุด ปัจจุบัน ภายใต้แรงหนุนจากข้อริเริ่ม "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" "เส้นทางการค้าชาทางเรือโบราณ"กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง ด้วยอิทธิพลในตลาดมาเลเซีย ชาดำลิ่วเป่าเมืองอู๋โจวได้เข้าสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และ“เป็นที่นิยมมาก”อีกครั้ง และขับเคลื่อนชากว่างซีไปสู่ทั่วโลก

เมืองอู๋โจวมีพื้นที่ป่าไม้ 75.27% ภูเขาและน้ำที่ดีทำให้ผลิตชาที่ดีออกมา ชาดำลิ่วเป่าได้ชื่อนี้มาเพาะผลิตในตำบลลิ่วเป่า อำเภอชางอู๋ เมืองอู๋โจว ภายในพื้นที่เมืองอู๋โจวมีไร่ชาเชิงนิเวศเขียวชอุ่มรวมมากกว่า 200,000 หมู่ ขณะนี้ ไร่ชาใหม่กำลังใส่ปุ๋ยและเพาะต้นกล้า ไร่ชาเก่ากำลังเข้าสู่ฤดูกาลเด็ดใบชาของ "ชาก่อนชุนเซ่อ"

หลังจากเด็ดใบเล็ก ๆ แล้ว จะต้องผ่านขั้นตอนอะไรบ้างจึงกลายเป็นชาดำลิ่วเป่าได้？

ผู้สืบทอดเทคนิคการทำชาดำลิ่วเป่า มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ระดับเขตฯ กว่างซีจ้วง สือ หรูเฟยแนะนำว่า การทำชาด้วยมือจำเป็นต้องผ่านกระบวนการเด็ดใบชาสด ขจัดความเขียว ขยำหยาบ กองทิ้งไว้ ขยำหยาบซ้ำ อบแห้ง ทำเป็นชากึ่งสำเร็จรูป หลังจากนั้นผ่านกระบวนการทำชาดำลิ่วเป่าสมัยใหม่ สุดท้ายให้ทิ้งไว้ระยะเวลาหนึ่งก็สามารถทำเป็นชาดำลิ่วเป่าสำเร็จรูปบรรจุหีบห่อที่พร้อมขายแล้ว

ภายในห้องนิทรรศการเทียนอวี้มีสินค้าที่หลากหลาย สินค้าชาดำลิ่วเป่า"สไตล์จีน"ต่าง ๆ ที่มีการผสม ผสานกับมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ วัฒนธรรมงิ้วกวางตุ้ง วัฒนธรรมชนชาติ และวัฒนธรรมเส้นทางสายไหมทางทะเล ไม่เพียงแต่ได้ส่งไปจำหน่ายที่เขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊าเท่านั้น แต่ยังได้ส่งออกไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนตาม "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" อีกด้วย

อู๋ เยี่นน ประธานหอการค้าอุตสาหกรรมชาเมืองอู๋โจว และประธานบริษัท เทียนอวี้ อุตสาหกรรมชา จำกัดพูดกับผู้สื่อข่าวว่า สินค้าชาดำลิ่วเป่าของพวกเขาเริ่มเข้าสู่ตลาดอาเซียนตั้งแต่ปี 2556 เธอเป็นกลุ่มคนชุดแรกที่ได้รับผลประโยชน์ จากการส่งออกชาดำลิ่วเป่าไปยังหลายประเทศในอาเซียนผ่าน "เส้นทางการค้าชาทางเรือโบราณ" "ตามข้อริเริ่ม ‘หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง’ หลังจากได้ส่งออกไปยังหลายประเทศในอาเซียนแล้ว ก็ได้เจาะตลาดหลายประเทศในยุโรป และบางประเทศในตะวันออกกลาง"อีกด้วย 

ปัจจุบัน ในฐานะชาที่กำหนดให้ใช้ในงานมหกรรมแสดงสินค้าจีน-อาเซียน ชาดำลิ่วเป่ากำลังมุ่งมั่นที่จะขยายช่องทางการจำหน่ายในมาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย บรูไน ศรีลังกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และประเทศอื่น ๆ มากขึ้นโดยใช้ประโยชน์จาก "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” และ RCEP (ที่มา:วิทยุข่าวสาร สถานีวิทยุและโทรทัศน์แห่งเขตฯ กว่างซีจ้วง ประเทศจีน BBR    เจี่ยง เหวินถิง ผู้สื่อข่าววิทยุข่าวสาร สถานีวิทยุและโทรทัศน์แห่งเขตฯ กว่างซีจ้วง ประเทศจีน หลัว จื้อเฉียง ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุและโทรทัศน์แห่งเมืองอู๋โจว)