news-details

MANGU E-Magazine Issue 271 (1st Feb 2024) บทสัมภาษณ์พิเศษกับ นายแพทย์ดนัย ธรรมภิบาล BEQ HAIR CENTER

ManGu :  อยากให้คุณหมอ ช่วยแนะนำตัวและประวัติการศึกษาคร่าวๆ ให้กับพวกเราหน่อยค่ะ

นายแพทย์ดนัย :  สวัสดีครับผม นายแพทย์ดนัย ธรรมภิบาล Medical Director ของ BEQ Group ผมจบการศึกษาคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และได้ศึกษาต่อปริญญาโทเฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย และได้รับรองจากรับรองจาก American Board of Anti-Aging Medicine ปัจจุบันเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผมมาก้าวสู่ปีที่ 9 โดยได้รับการรับรองจาก American Board of Hair Restoration Surgery และเป็นนายกสมาคม Thai Association of Hair Restoration & Trichology

ManGu : คุณหมอคิดว่า ปัญหาหนังศีรษะล้าน เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้างคะ

นายแพทย์ดนัย :   ปัญหาหลักเลยนะครับ จะเป็นเรื่องของผมบางตามกรรมพันธุ์ และ อิทธิพลของฮอร์โมนในร่างกาย นี้เป็นปัญหาส่วนใหญ่เลยที่พบได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย  ส่วนปัญหาอื่นๆ จะมีเล็กๆน้อยๆแตกต่างกันไปครับ ไม่ว่าจะเป็นภาวะความเครียด อาการบาดเจ็บและมีบาดแผลบนหนังศีรษะจนผมบางหรือศีรษะล้าน ในบางคนมีปัญหาบาดเจ็บจนติดเชื้อบางอย่างตั้งแต่สมัยอดีต แล้วก็ส่งผลทำให้รากผมถูกทำลายจนกลายเป็นพื้นที่ว่างบนหนังศีรษะ ทำให้มองเห็นเป็นหนังศีรษะบางหรือล้านจนกระทบมาถึงปัจจุบัน หรือสรุปหลักๆเลยก็คือ ผมบางที่เกิดโดยธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากกรรมพันธุ์และฮอร์โมน และปัจจัยภายนอกนั้นเองครับ

ManGu : แล้วในการรักษาแต่ละเคสคุณหมอใช้หลักเกณฑ์ในการพิจารณาใด ว่าคนไข้ควรรักษาแบบใดหรือควรใช้เทคนิคใดถึงจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด

นายแพทย์ดนัย :  สำคัญที่สุดเลยครับ คือต้องวินิจฉัยก่อนว่า ต้นเหตุที่แท้จริงของปัญหาของคนไข้คนนี้เกิดจากสาเหตุใด พฤติกรรมในปัจจุบัน ลักษณะการใช้ชีวิตของคนไข้เป็นอย่างไร และประเมินไปถึงอนาคตว่าจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง พอรู้ทั้งสามอย่างนี้แล้ว ก็จะเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับคนไข้ โดยหมอจะคำนึงถึงประโยชน์คนไข้เป็นหลักว่าหลังรักษา หรือปลูกผมไปแล้วจะต้องได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ที่สุด และต้องสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เป็นปกติ

ManGu : ที่ BEQ HAIR CENTER มีการปลูกผมกี่ประเภทและแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร

นายแพทย์ดนัย :  ทาง BEQ มี 2 เทคนิคหลักๆ คือ การปลูกผมแบบย้ายรากผม และเทคนิคการฝังสเต็มเซลล์รากผม ซึ่งทั้งสองแบบนี้เหมาะกับคนที่มีปัญหาหัวล้าน และผมบางแตกต่างกัน

เทคนิคปลูกผมแบบย้ายรากผม (Follicular Unit Extraction) เหมาะสำหรับผู้มีปัญหาหัวล้าน ของผมก็จะแบ่งเป็น 3 เทคนิคย่อยๆ  ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากคือ Classic FUE  ซึ่งเป็นเทคนิคพื้นฐานที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เทคนิค DHI ( Direct Hair Implantation ) โดยในประเทศไทยเราเป็นเจ้าแรกที่ใช้เทคนิคนี้ โดยมีข้อดีคือ สามารถทำให้การปลูกผมมีความหนาแน่นของกราฟต์ผมสูง มีความเป็นธรรมชาติในแง่ทิศทางของเส้นผมแต่ละเส้นที่ปลูกลงไป มีอัตราการคงอยู่รอดของกราฟต์ผมสูง และสุดท้ายเป็นเทคนิคที่ล้ำสมัยและทันสมัยที่สุด โดยในการปลูกผมไม่ต้องโกน หรือตัดผมด้านหลังเลย ซึ่งแตกต่างจากสองเทคนิคแรกที่ต้องโกนผมด้านหลังอยู่ ก็คือ Long Hair DHI หรือเรียกว่าการปลูกผมยาว โดยการปลูกผมยาวนี้คนไข้สามารถมีผมได้ทันทีหลังการปลูก ไม่ต้องพักฟื้น บาดแผลน้อยมาก มีความเป็นธรรมชาติสูง

เทคนิคการฝังเสต็มเซลล์รากผม เหมาะสำหรับผู้มีปัญหาผมบาง ไม่ว่าจะเป็นบริเวณกลางศีรษะ หรือผมเส้นเล็กไม่แข็งแรง หลุดร่วงง่าย ซึ่งข้อดีคือไม่จำเป็นต้องโกนผม หรือโกนผมระหว่างการทำหัตถการ ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง ไม่ต้องพักฟื้น ปลอดภัยเนื่องจากเป็นการนำเซลล์รากผมตนเองมาสกัดแล้วนำกลับลงไปรักษาบริเวณที่มีปัญหาโดยไม่ต้องวางยาหรือ ฉีดยาชาใดๆทั้งสิ้น โดยทุกเทคนิคนั้นให้ผลลัพธ์ที่ดี ชัดเจน

ManGu : การปลูกผมแบบ Long Hair DHI มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร

นายแพทย์ดนัย :   แน่นอนครับ ว่าข้อดีผมได้กล่าวไปข้างต้นบ้างแล้ว คือถ้าคนไข้ไม่สามารถที่จะโกนหรือตัดผมได้ เพราะอาจจะกระทบต่อบุคลิกภาพหรือหน้าที่การงาน การปลูกผมแบบ Long Hair DHI ก็จะสามารถเข้ามาแก้ไขในจุดนี้ได้ เพราะการปลูกผมแบบนี้ไม่ต้องตัดไม่ต้องโกนใดๆทั้งสิ้น คนไข้ทรงผมมาอย่างไร ก็สามารถปลูกผมแบบนั้นได้เลยครับ และในขณะที่เราปลูกผมเสร็จครับ พื้นที่ที่ว่างเปล่าไม่มีเส้นผม ก็จะมีเส้นผมและดูเต็มขึ้นมาทันทีครับ พร้อมจะออกไปใช้ชีวิตด้านนอกได้ตามปกติโดยที่ไม่มีใครทราบเลยว่าเราไปปลูกผมมา และได้ความสวยงามเป็นธรรมชาติ

   ส่วนข้อเสีย จริงๆผมก็ไม่อยากจะพูดว่ามันคือข้อเสียไปทีเดียวครับ มันจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ระยะเวลาที่ยาวนานขึ้นไปอีกเล็กน้อย สำหรับคนที่มาปลูกผมด้วยเทคนิคนี้ หากเทียบกับเทคนิคที่มีการตัดโกนผม มันจะใช้ระยะเวลานานกว่า คือเปรียบเทียบง่ายๆว่า คนไข้ที่มาปลูกผมด้วยเทคนิคที่ต้องโกนผมเช่น DHI ปกติ กับคนไข้อีกคนหนึ่ง เข้ามาปลูกผมแบบไม่ต้องโกนผมเลยคือ Long Hair DHI  อาจจะใช้เวลาที่ยาวนานกว่าประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเองครับ 

ManGu : หลังจากปลูกผมเสร็จ ระยะเวลาการพักฟื้นแตกต่างกันอย่างไร

นายแพทย์ดนัย :    โดยปกติถ้าเป็นที่อื่น ภายหลังปลูกผมก็ต้องพักฟื้นอย่างน้อย 3-7 วัน แต่ถ้าเป็นเทคนิคการปลูกผมที่ BEQ HAIR CENTER แทบไม่ต้องพักฟื้นเลย เพราะนวัตกรรมที่เรานำมาใช้ ในทุกๆขั้นตอนการรักษาถูกพัฒนาอย่างเหมาะสมที่สุด จึงส่งผลให้แผลที่เกิดจากการปลูกผมนี้มีขนาดที่เล็กและแผลสมานได้อย่างรวดเร็ว บวมน้อย เลือดไหลน้อย ทำให้คนไข้ที่มาปลูกผมกับทาง BEQ HAIR CENTER ของเรา สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติในวันพรุ่งนี้ได้เลยครับ

ManGu : ในปัจจุบัน ปัญหาผมร่วงเกิดในวัยรุ่นมากขึ้น คุณหมอมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้คะ

นายแพทย์ดนัย :  ก็คือถ้าหากวินิจฉัยเป็นกรณี ผมบางตามธรรมชาติ สามารถที่จะเกิดเพิ่มมากขึ้นก็ต้องไปดูเรื่องของกรรมพันธุ์ที่เกิดขึ้นภายในครอบครัวก่อน ว่าเป็นปัญหาที่ส่งผมกระทบมากน้อยหรือเปล่า ถ้าหากว่า ในครอบครัวของคนไข้ ญาติพี่น้องจำนวนมาก มีปัญหาผมบางกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตัวคนไข้เองก็มีโอกาสผมร่วงบางได้ตั้งแต่อายุน้อยๆ ซึ่งเราก็จะแก้ไขอะไรมากไม่ได้

    แต่มันมีข้อมูลอยู่ส่วนนึงครับ ที่บอกว่า คนไข้ที่มีปัญหาผมบาง และปัญหามีการลุกลามตั้งแต่อายุน้อยๆ อาจเกิดจาก สาเหตุความเครียดสูง ซึ่งในเรื่องของความเครียด ไม่เพียงกระทบกับสภาวะจิตใจอย่างเดียว มันยังส่งผลกระทบทางร่างกาย เช่น พอเครียด ก็กินข้าว แป้ง ขนมปังเยอะ และกินพวกผัก ผลไม้น้อยจนไม่เพียงพอต่อร่างกาย ส่งผลให้ร่ายกายไม่สามารถรับความเครียดที่เกิดขึ้นได้  มันจึงเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ผมที่บางอยู่แล้วยิ่งทวีความรวดเร็วมากขึ้น

         โดยในปีที่ผ่านมา คนไข้ของหมอมีเกณฑ์อายุเฉลี่ยต่ำลง หลายๆเคสผู้ปกครองได้นำบุตรหลานมารักษาตั้งแต่มัธยมปลาย หรือมหาลัย เพราะไม่อยากให้ปัญหาลุกลามทำให้เกิดผลกระทบกับสภาวะจิตใจของพวกเขาครับ

ManGu :   คุณหมอมีคำแนะนำเบื้องต้นให้กับวัยรุ่นที่กำลังประสบปัญหาเหล่านี้บ้างไหมคะ

นายแพทย์ดนัย :    ต้องยอมรับว่าค่อนข้างยาก เพราะว่า ในแต่ละคนมีสภาวะความเครียด หรือประสบปัญหาที่ทำให้เครียดแตกต่างกัน  ยกตัวอย่างเช่น นักเรียน ก็จะมีความเครียดเกี่ยวกับการเรียน ซึ่งเขาก็จะต้องไปแก้ที่ตรงนั้น หรือบางคนมีไลฟ์สไตล์ อย่างเช่นว่า ออกกำลังกายอย่างหนัก เช่นมีกลุ่มคนในติ๊กต็อกบางกลุ่มหุ่นดีมากออกกำลังกายเยอะมาก จนมันหนักเกินไปจนทำให้ร่างกายรับไม่ไหว แน่นอนครับกล้ามเนื้ออาจจะพัฒนาดีขึ้นแต่เส้นผมอาจจะร่วงบางครับ ก็เลยต้องแนะนำเป็นเคสๆไป

   โดยรวมๆ อยากแนะนำน้องๆว่า อย่าทำอะไรที่สุดโต่งจนเกินไปแล้วก็ให้สังเกตสภาพร่างกายเราตลอดเวลา หากเกิดปัญหาให้รีบมาปรึกษาหมอทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลามครับ

ManGu : คนไข้เคสที่คุณหมอคิดว่าเป็นเคสที่ยากที่สุดคือเคสไหน และคุณหมอมีเทคนิคหรือวางแผนการรักษาอย่างไร ให้การรักษามีประสิทธิผล

นายแพทย์ดนัย : ถ้าเป็นเคสที่ยากเลยก็คือ เป็นเคสแก้จากที่อื่น จึงทำให้มีเส้นผมที่คงเหลือในปัจจุบันน้อย รวมถึงการถูกนำกราฟต์ผมที่แข็งแรงออกไปแล้วเกือบทั้งหมด ทำให้เราต้องออกแบบ ประเมิน ตรวจวัดอย่างละเอียดมากกว่าปกติ อีกทั้งในหลายๆกรณีแนวไรผมที่ถูกออกแบบมาในครั้งก่อนๆ ไม่ได้สัมพันธ์กับจำนวนกราฟต์ผมจริงที่สามารถนำไปปลูกได้ จึงทำให้ผลลัพธ์ไม่มีความสวยงาม ไม่แน่น ไม่ธรรมชาติ ปลูกมาแล้วเหมือนไม่ได้ปลูก

  การมีต้นทุนกราฟต์ผมจำกัด พื้นที่ๆต้องทำจำนวนมาก ต้องแก้ไขของเดิมเยอะ คือความท้าทายอย่างสูง ดังนั้น เราต้องให้ความสำคัญตั้งแต่การเลือกเทคนิคการปลูก น้ำยาที่ใช้แต่ละขั้นตอน เครื่องมือ อุปกรณ์ที่ใช้ จำนวนคนที่เข้าช่วยเนื่องจากเราต้องการให้กราฟต์ผมมีความสมบูรณ์มากสุด และสิ่งที่ต้องดูแลบำรุงหลังการปลูกในครั้งนี้ก็ต้องวางแผน และเลือกให้ดีว่าต่อจากการปลูกจะต้องผสมผสานศาสตร์การแพทย์อื่นๆใดบ้างมาช่วยในการรักษาเช่นเดียวกัน เพราะเราจะสูญเสียกราฟต์ผมไปไม่ได้แม้แต่เส้นเดียว เนื่องจากคนไข้มีผมอยู่อย่างจำกัด และมันคือครั้งสุดท้ายที่เค้าสามารถปลูกผมได้ ทั้งหมดคือความหวังของคนไข้เช่นเดียวกัน

 จึงอยากฝากหลายๆท่านว่า การปลูกผมครั้งแรกนั้นสำคัญมาก เลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตนเองครับ

ManGu : อยากให้คุณหมอ ช่วยเล่าเคสที่รู้สึกประทับใจมากที่สุดให้เราฟังหน่อยค่ะ

นายแพทย์ดนัย : จริงๆมีหลายๆเคสมากที่ผมรู้สึกถึงความสุขที่ได้รับหลังการปลูกผมไป แต่ขอยกตัวอย่างเคสที่รู้สึกประทับใจมากๆ อีกเคสหนึ่ง คือ ปัญหาที่คนไข้เป็นเนื้องอกสมอง มีการผ่าตัดรักษาและมีการฉายแสง ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีครับว่า การฉายแสงกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้างมากๆ แน่นอนครับว่าแสงต้องโดนเส้นผมแน่นอน ทำให้คนไข้คนนี้เมื่อรักษาอาการเนื้องอกสมองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปัญหาที่ตามมาก็คือเส้นผมที่ร่วงบางลงจากสาเหตุการถูกฉายแสง ซึ่งทำให้คนไข้เสียความมั่นใจมาก เกิดมีสภาวะจิตใจที่ย่ำแย่ไม่ปกติ ทุกข์ทรมานกับการพบเจอผู้คนภายนอก ไม่อยากออกสู่สังคม กลายเป็นคนเก็บตัวจนเป็นโรคซึมเศร้า ครอบครัวคนไข้ต่างหาวิธีทางออกหลายๆวิธี ไม่ว่าจะเป็นนำไปปรึกษาจิตแพทย์ เข้าวัด กินยา พาไปทำจิตบำบัดและอีกหลายๆอย่าง จนสุดท้ายอาจจะเป็นเหตุบังเอิญที่ได้ไปดูรายการทีวีช่องหนึ่งที่เชิญผมไปให้ความรู้ จึงได้ลองนัดเข้ามาปรึกษาจนถึงวันที่ตัดสินใจเข้ามาปลูกผมกับทาง BEQ HAIR CENTER

  จนตอนนี้ผ่านมาเกือบปี ผลลัพธ์การรักษาดีมาก ปัญหาที่เคยเป็น ปัญหาที่เคยมี เราได้เติมเต็มพื้นที่ปัญหาเรื่องของเส้นผมของเขาอีกครั้ง ทำให้คนรอบข้าง และคนไข้มีความรู้สึกว่าชีวิตของเขาเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ คนไข้มีความมั่นใจมากขึ้น กล้าพูดคุย พบปะผู้คน มีเพื่อน มีความรัก เกิดความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นอย่างดีมากๆ สภาวะความเครียดความกังวลหมดไปอย่างสิ้นเชิง แล้วเค้าเข้ามาขอบคุณพวกเราด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ทรงผมหนาแน่น แววตาที่แบบที่ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความสุขของพวกเค้าเลยครับ

ManGu : อยากจะให้ฝากอะไรถึงผู้อ่านชาวจีนหน่อยค่ะ

นายแพทย์ดนัย : สำหรับผู้อ่านชาวจีนที่น่ารักทุกๆท่านนะครับ ผมเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้ตัวเองมีปัญหาสุขภาพเส้นผม ผมร่วง ผมบาง หรือหัวล้านอย่างแน่นอน นอกจากไม่อยากให้เกิดกับตัวเองแล้วก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับคนที่ตัวเองรักเช่นกัน แต่ถ้ามันเกิดขึ้นมาแล้ว อยากให้รีบเข้ามาปรึกษาหมอเพื่อที่จะร่วมกันวางแผนการรักษาที่ถูกต้องก่อนที่จะสายเกินไป เพราะปัญหาเหล่านี้อาจทำลายความมั่นใจ บั่นทอนสุขภาพจิต ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันรวมไปถึงหน้าที่การงานได้           

 ด้วยนวัตกรรมด้านการดูแลรักษา และการปลูกผมที่ BEQ HAIR CENTER  มีความทันสมัย และมีประสิทธิภาพมาก สามารถทำให้การปลูกผมหรือการรักษานั้นง่ายขึ้น เจ็บตัวน้อยลงและฟื้นตัวได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ผมมั่นใจว่าจะสามารถช่วยแก้ปัญหาของทุกๆท่านได้ ขอบคุณครับ

_______________________________________________________________________________________________________

Thank you.

นายแพทย์ดนัย ธรรมภิบาล / Danai Thampibal, M.D.

_______________________________________________________________________________________________________

Photographer : Natchakrit Wichiensarn @ktpx.kritt 
Graphic Designer : Natchaphol Jin Srijun @Banshy.j
Coordinator : Narumon Sripool @poo_ler 
Ms.Huang Lanjun @Mocy
Column Writer : Ms.Huang Lanjun @Mocy

You can share this post!

พบกับบทสัมภาษณ์ แต๊งค์-เอกดนัย ใจสะอาด นักแสดงจากซีรีส์ “7 Days Before Valentine” (7 วันก่อนวาเลนไทน์)

MANGU E-Magazine Issue 268 (15th Nov 2023) บทสัมภาษณ์พิเศษกับ “นายแพทย์โอม สุดชุมแพ” ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพบำบัดที่ Bangkok Central Clinic