news-details

MANGU E-Magazine Issue 277 Cover Star ( 1st May 2024)บทสัมภาษณ์ โชกุน ปารมี และ คุณเฟิร์ส ปิยังกูร นักแสดงซีรีส์ เรื่อง “Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา”

บทสัมภาษณ์ โชกุน ปารมี และ คุณเฟิร์ส ปิยังกูร

 นักแสดงซีรีส์ เรื่อง Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา

 

เตรียมพบกับบทสัมภาษณ์ “โชกุน ปารมี” และ “เฟิร์ส ปิยังกูร” สองนักแสดงนำจากซีรีส์เรื่อง“Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา” ที่จะพาคุณได้รู้จักโลกของบาร์โฮสและลุ้นไปกับความรักและกฎเหล็ก ถึงซีรีส์จบแล้วแต่ยังมีเรื่องราวต่างๆ ที่คุณยังไม่เคยรู้จากที่ไหน สามารถดูซีรีส์ย้อนหลังครบทุกตอนได้บน iQIYI (อ้ายฉีอี้) และสามารถติดตามบทสัมภาษณ์ได้ใน ManGu Magazine issue 277

ManGu: แนะนำตัวเองคร่าวๆ และผลงานที่ผ่านมาให้เรารู้จักหน่อยค่ะ

โชกุน ปารมี : สวัสดีครับ ผมโชกุน ปารมี อายุ 24 ปี พึ่งจบการศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผลงานที่ผ่านมาจะมีโฆษณา โค้ก , ดีน่า , C-vitt ครับ

เฟิร์ส ปิยังกูร : สวัสดีครับ ผมเฟิร์ส ปิยังกูร อายุ 23 ปี กำลังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยกรุงเทพปีที่ 4 ใกล้จะเรียนจบแล้วและกำลังฝึกงานอยู่ครับ ผลงานที่ผ่านมาจะมีซีรีส์เรื่อง Y Destinyและ War Of Yครับ

ManGu: ทราบว่าก่อนจะได้มาแสดงซีรีส์เรื่องนี้มีการออดิชั่นด้วย อยากจะความรู้สึกตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้างคะ

โชกุน ปารมี : จริงๆ ก่อนที่ผมจะมาออดิชั่นเรื่อง Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา ผมก็มีเดินสายออดิชั่นตั้งแต่ผมอยู่ปี 1 แต่ก็ไม่เคยได้เลยสักเรื่องเลย ผมกำลังคิดที่จะถอดใจและเป็นวิศวะตามที่เรียนมา ตอนนั้นกำลังจะเรียนจบด้วยเลยคิดว่าลองมาออดิชั่นซีรีส์เรื่อง Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา ดู เป็นครั้งสุดท้ายและก็ผ่านออดิชั่นจริงๆ ดีใจมากครับ

เฟิร์ส ปิยังกูร : ตอนนั้นผมก็มีไปออดิชั่นหลายเรื่องเลย แต่ก็ยังไม่มีเรื่องไหนเลยที่เขาคอนเฟิร์มเรา และก็มาออดิชั่นเรื่อง Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา ได้เจอพี่ธัญญ่าครั้งแรกด้วย พี่เขามาเป็นกรรมการ ดูการแสดงของพวกเรา จริงๆ ไม่ได้รู้สึกกดดัน แต่ก็รู้สึกตื่นเต้นมากกว่าที่ได้มาเจอตัวแม่ ที่เราติดตามละครเขามาตั้งแต่เด็กๆ ครับ ตัวจริงพี่เขาน่ารักและเฟรนด์ลี่ ไม่ได้กดดันอะไรมากครับ  

ManGu: หลังจากที่ผ่านการออดิชั่นได้มีการเตรียมตัวในการแสดงซีรีส์เรื่องนี้อย่างไรบ้าง

โชกุน ปารมี : มีการเตรียมตัวหนักมาก เพราะตั้งแต่แคสเสร็จก็ประมาณ 8-9 เดือน ตัวผมรับบทเป็น ‘เข็มทิศ ในเรื่องจะเป็นหนุ่มผิวแทน หุ่นล่ำ ซึ่งแรกๆ ผมไม่ได้หุ่นล่ำเท่าไร ผอมและตัวเล็กมาก ตอนนั้นผมก็ออกกำลังกายหนักมากๆ และก็กินเพิ่มเพื่อให้หุ่นตรงกับในเรื่อง จนน้ำหนักขึ้นมาเป็น 10 กิโลและในเรื่องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับบาร์โฮสจะต้องเล่นกายกรรมด้วย ก็ต้องมีเรียนเพิ่มด้วยครับ 

เฟิร์ส ปิยังกูร : และเราก็มีเตรียมในเรื่องของเวิร์กชอปในเรื่องเบสิคของการแสดง ได้มีโอกาสเรียนรู้จากครูร่ม พี่เด่น รวมถึงพี่ชีวิน (ผู้กำกับ) และมีเรียนทำโชว์กายกรรมกับครูเล้ง ราชนิกร มีการฝึกซ้อมหลายเดือน ครูเล้งได้เปิดคลิปที่เป็นเรฟเฟอร์เรนส์ เราต้องโชว์ออกมาประมาณนี้ก็ตกใจมาก เทรนช่วงแรกๆ ก็ช็อกมาก แต่พอฝึกไปเดือนสองเดือนร่างกายก็ชิน

โชกุน ปารมี : ผมรู้สึกว่ากายกรรมยากมากครับเพราะต้องแข็งแรงและต้องยืดหยุ่น เพราะผู้ชายส่วนใหญ่จะตัวแข็ง อย่างเฟิร์สก็ต้องวอร์มร่างกายเอามือแตะเท้าจนตอนนี้ข้อศอกจะเลยเท้าแล้วครับ (หัวเราะ) 

เฟิร์ส ปิยังกูร : ส่วนตัวผมชอบยืดเส้นอยู่แล้ว ได้วอร์มร่างกายก่อนเลยยืดได้เยอะกว่าคนอื่น แต่คนอื่นๆ ก็พัฒนาได้ไกลเหมือนกันครับ

ManGu: ซีรีส์เรื่อง Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เราเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร และแต่ละคนที่ได้รับคาแรคเตอร์เป็นอย่างไรบ้าง

โชกุน ปารมี : ผมรับบทเป็น เข็มทิศ ในเรื่องเป็นลูกของเจ้าของบาร์โฮสที่ชื่อ Deep Night Club เจ้าของก็เป็นพี่ธัญญา หรือ ‘มาดามเฟรญ่า’ เข็มทิศจะมีปัญหากับแม่อยู่แล้วเพราะเขาจะเป็นเด็กดื้อ เอาแต่ใจ อยากได้อะไรก็ต้องได้เพราะแม่สปอยครับ ส่วนเรื่องจะมีเข็มทิศเป็นตัวดำเนินเรื่อง และมีการเล่าเรื่องถึง Deep Night Club ที่มีกฎเหล็กอยู่ 5 ข้อ โดยเฉพาะข้อสุดท้ายสำคัญมากคือเขาห้ามให้พนักงานเป็นแฟนกัน พอเข็มทิศได้เข้าไปทำงานในร้านก็ได้ตกหลุมรักเวลา และตัวละครอื่นๆที่อยู่ในร้านก็มีแอบรักกันแต่ด้วยเหล็กกฎของร้าน แต่ละคู่ก็จะมีทางออกของแต่ละคน บางคนแหกกฎ บางคนกฎ และก็ต้องรอติดตามว่าคู่เราจะมีวิธีรับมืออย่างไง

เฟิร์ส ปิยังกูร :  เฟิร์สรับบทเป็น เวลา ภายนอกเป็นคนเป๊ะ แต่จริงๆเขาเป็นคนโก๊ะๆ ซุ่มซ่าม ไม่ได้เป๊ะอย่างที่เห็น คือเขาอยากให้ทุกอย่างออกมาดี เป็นคนขยันและตั้งใจเรียน และเขายังเป็นตัวท็อปในบาร์โฮสอีกด้วย

ManGu: คาแรคเตอร์ที่ได้กับชีวิตจริงมีความคล้ายหรือแตกต่างกันอย่างไร

โชกุน ปารมี : ผมต่างเยอะเลยครับเพราะในเรื่องเข็มทิศเขาจะเป็นเด็กดื้อ แต่ตัวจริงผมเป็นเด็กดีสุดๆ (ยิ้ม) แต่ก็จะมีความกวนที่จะคล้ายกันนิดหนึ่งครับ

เฟิร์ส ปิยังกูร : แต่ผมว่าโชกุนมีความดื้อแต่ไม่เท่าเข็มทิศครับ ส่วนของผมจะมีความซุ่มซ่ามมากกว่าตัวเวลาอีกครับ

 

ManGu: Deep Night Club จะมีกฏเหล็ก 5 ข้อ แล้วเรามีกฏเหล็กสำหรับตัวเองบ้างไหมคะ

โชกุน ปารมี : ผมมีกฎว่าใครที่นอนกับผมต้องห้ามกรน เพราะผมเป็นคนที่นอนหลับยากมาก

เฟิร์ส ปิยังกูร : แต่ตัวเองนอนกรนนะ ล่าสุดไปญี่ปุ่นเขานอนละเมอตกเตียง ตอนนั้นนึกว่าโดนผีญี่ปุ่นอำ เลยไปดู เอ้ะพี่โชกุนหายไปไหน อ่ออยู่ที่ข้างเตียง  (หัวเราะ)  ส่วนกฎเหล็กถ้าเป็นในเรื่อง ‘เวลา’ ถ้าทำอะไรก็ต้องได้ค่าตอบแทน แต่ถ้าตัวผมเองขึ้นอยู่กับคนเลยครับ อย่างถ้าอยู่กับพี่โชกุนถ้าทำอะไรก็ต้องคอยดูแลซัพพอร์ตกัน ไปไหนไปด้วยกัน ไปได้ไกลครับ

โชกุน ปารมี : ผมก็พึ่งรู้ว่าตัวเองนอนดิ้นตอนนอนกับเฟิร์สนี่แหละครับ

ManGu: นอกจากมีการเวิร์กชอปทั้งสองคนมีลองออกไปเดตกันในชีวิตจริงบ้างไหมคะ

เฟิร์ส ปิยังกูร : ตอนเวิร์กชอปเราได้ลองแสดงให้แอ็คติ้งโค้ชดูว่าเขาต้องการประมาณไหนควรจะลดหรือเพิ่มอะไรหรือป่าว แต่ในชีวิตจริงเราก็เคยชวนกันออกไปเที่ยวด้วยกัน ไปคาเฟ่ กินข้าวกัน

โชกุน ปารมี : จริงๆ ไม่เกี่ยวกับงาน เราเหงาๆ ก็ทักไปคุยเล่นกันชวนกันไปหาอะไรทำครับ ช่วงก่อนถ่ายเฟิร์สก็มีมานอนด้วยกัน มาอ่านบททำการบ้านด้วยกันที่ห้อง

 

ManGu: ฉากที่ชอบหรือประทับใจที่สุด

เฟิร์ส ปิยังกูร : ของผมมีซีนที่เข็มทิศมาซื้อดริ๊งก์เวลาครับเพื่อพาเวลาไปออกเดตข้างนอก ทำให้ผมรู้สึกเขินจริงๆกับซีนนั้นครับ

โชกุน ปารมี : เหมือนกันเลยครับ เป็นการซื้อดริ๊งก์เหมือนกันเพราะเราอยากไปเที่ยวกับเขาเวลาทำงาน อยากพาเขาไปที่ที่ไม่เคยไป เพราะเขาเป็นคนทำงานหนักไม่เคยเจอโลกภายนอก และก็ไม่เคยไปไหนมาไหนด้วยกันด้วย เป็นซีนที่เรามาเจอกันหน้ารถสปอร์ตเป็นการเซอร์ไพรส์ครั้งแรกเอาดอกไม้ไปให้ด้วย ผมว่าซีนนี้น่าจะเป็นตอนที่ทั้งสองคนรู้ตัวว่ารักกันมากๆครับ

ManGu: มุมมองก่อนและหลังจากที่ได้มารับบทบาทหรือสัมผัสกับอาชีพบาร์โฮสของเราเหมือนหรือแตกต่างอย่างไรบ้างคะ

โชกุน ปารมี : ผมไม่ได้รู้สึกต่างขนาดนั้นนะ เราก็รู้จักกันอยู่แล้วว่าอาชีพบาร์โฮสคืออะไรแต่ไม่ได้ลงลึกว่างานที่เขาทำเป็นงานประมาณไหนต้องเอ็นเตอร์เทนยังไง ความคิดกับอาชีพของเขาว่าเขาคิดหรือรู้สึกยังไง พอได้สัมผัสแล้วก็รู้สึกว่าอาชีพนี้ไม่ได้ใช้แค่หน้าตาต้องใช้ความสามารถ ต้องอดทน ความพยายาม จริงๆ แล้วทุกอาชีพก็ต้องใช้ความพยายาม มีการแข่งขันทั้งหมดครับ รู้สึกชื่นชมคนที่เขาทำอาชีพนี้ครับ

เฟิร์ส ปิยังกูร : ผมก็มีความรู้สึกคล้ายๆ พี่โชกุนเลยครับ จริงๆ มันไม่ได้รู้สึกต่างขนาดนั้น เราไม่ได้รู้ลึกขนาดนั้นแต่พอได้รับบทก็มีการรีเสิร์ชว่าเขาเป็นยังไง ไปดูสถานที่จริงไปทุกคนเลย พี่ธัญญ่าเป็นคนพาไปให้เห็นว่าพี่ๆ โฮสเขาทำงานกันยังไง พี่โฮสตัวท็อปเขาทำงานยังไง ส่วนใหญ่พี่โฮสตัวท็อปเขาจะมีลูกค้าจองตัวไว้แล้วจะปล่อยให้โฮสหน้าใหม่หาลูกค้าใหม่  ผมคิดว่าอาชีพนี้ก็มีการแข่งขันสูงเหมือนกันครับ ตอนแรกเรามองภาพว่าโฮสต้องรุกแรงๆ กับลูกค้าเลยหรือป่าว แต่พอมารับบทมาเล่นจริงๆ เราต้องมีการคุยกับลูกค้าก่อนว่าต้องการแบบไหน เราเอ็นเตอร์เทนหรือดูแลลูกค้ายังไง

โชกุน ปารมี : อย่างผมมีรู้จักทั้งคนที่ใช้บริการและคนให้บริการผมก็มีไปสอบถามความรู้สึกเขา คนที่ไปเที่ยวเขาก็บอกว่าถ้าโฮสบางคนมาขอดริ๊งก์อย่างเดียวก็ไม่อยากให้ แบบอยากให้ก็จะให้เอง

 

ManGu: ทราบว่าได้มีนักแสดงแถวหน้าอย่าง "ธัญญ่า ธัญญาเรศ" ซึ่งเป็นผู้จัดของซีรีส์เรื่องนี้ และ "หนิง ปณิตา" ร่วมแสดงด้วยเป็นอย่างไรบ้างคะ

เฟิร์ส ปิยังกูร : ซีนแรกที่เล่นด้วยกันคือเกร็งมากครับ แต่พอเล่นกันบ่อยๆ ก็เริ่มละลายพฤติกรรม พี่เขาน่ารักมากๆ เราก็เห็นเขาเล่นในทีวีตั้งแต่เด็กๆ ก็มีเกร็งๆ นิดนึ่งครับ และชอบเอ็นเนอร์จี้เขาพี่ๆ เขามากครับเพราะต้องรับต้องส่งอารมณ์กับพี่เขา

โชกุน ปารมี : จริงๆ ที่เจอพี่ธัญญ่าพี่หนิงเป็นคิวแรกๆ เลย ไม่ได้เล่นกับที่ละคนแต่มาพร้อมกันสองคนเลยผมก็ยืนช็อกไปแปปนึ่ง พี่ๆ เขาก็ช่วยทำให้ผมหายเกร็งขึ้น มีชวนคุยชวนเล่นให้มีสติและผ่านซีนนั้นๆ ไปได้ด้วยดีครับ

ManGu: ความรู้สึกที่ได้มาร่วมงานด้วยกันในครั้งนี้

เฟิร์ส ปิยังกูร : ความรู้สึกที่ได้มาร่วมงานกับพี่โชกุนก็รู้สึกประทับใจ เราก็มีคุยกันตั้งแต่เริ่มถ่ายจนจะปิดกองเราก็มีรีแคปกันว่าเป็นยังไงบ้าง เราทำงานด้วยกันโอเคไหม เราก็มีการพูดคุยกันส่วนตัวด้วยครับ พอได้คุยมันก็ย้อนไปถึงวันแรกที่เราข้ามไปด้วยกันจนซีรีส์จบ ทำให้เห็นด้วยว่าพี่เขาเป็นคนที่ตั้งใจและขยันมากและรู้สึกดีได้มีพาร์ทเนอร์ดีและเขาก็คอยดูแลและซัพพอร์ตเราเต็มที่มากๆครับ

โชกุน ปารมี : เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของผมพอได้รู้ว่าได้มาเล่นกับเฟิร์สที่เขามีผลงานมาก่อนหน้านี้และมีฐานแฟนคลับอยู่แล้ว ผมก็รู้สึกกดดันกลัวไปถ่วงเขาแต่พอมาเจอกันจริงๆเขาไม่ได้กดดันผมเลย ด้านการทำงานเขาจะช่วยผมตลอด เฟิร์สเป็นคนที่ขยันมากๆ ไม่เคยอู้เลย อย่างตอนไปเรียนกายกรรมบางทีผมรู้สึกเหนื่อยจังเป็นอู้เลยละกัน แต่หันมาเจอเฟิร์สเขาไม่เคยอู้เลยทำให้ผมมีแรงผลักดันที่จะทำต่อเพราะถ้าเราอู้เราก็จะไม่ทันเขา ก็ต้องถีบตัวเองครับ

 

ManGu: แนะนำสถานที่และอาหารไทยให้กับแฟนคลับชาวจีนหน่อยค่ะ

เฟิร์ส ปิยังกูร : ผมชอบกินส้มตำเลยอยากจะแนะนำร้านส้มตำน้องรีจ๊อยส์ โจ๊ะโจ๊ะ มันเผ็ดมันแซ่บมากครับ สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ แนะนำเป็นสวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ ครับ ผมยังไม่เคยไปเลยแต่อยากไปครับ พี่โชกุนก็ยังไม่เคยไปงั้นเดี๋ยวเราไปด้วยกันนะ

โชกุน ปารมี : ผมแนะนำร้านแถวจังหวัดชัยนาท ชื่อร้านอาหารกินปลาเป็นร้านอาหารติดแม่น้ำผมไปมาบ่อย มาก ร้านก็จะมีปลาแม่น้ำ กุ้งแม่น้ำ สดๆอร่อย พ่อค้าก็หล่อลูกพ่อค้ายิ่งหล่อสุดๆ ใช่ครับร้านพ่อผมเองครับ ฝากด้วยนะครับ (หัวเราะส่วนสถานที่ท่องเที่ยวผมเป็นคนชอบเที่ยวแบบธรรมชาติเป็นโซนภาคเหนือบ้านเกิดเฟิร์สเลยเชียงใหม่ผมชอบขึ้นดอยไปไม่รู้จักไม่ใช่ดอยที่เขาฮิตกันผมชอบที่หนาวๆ ขับรถไปกับพี่ชายเตรียมเต้นท์ไปนอนนู้นเลยไปเรื่อยๆไม่มีแพลนครับ

ManGu: สุดท้ายนี้อยากจะให้ฝากอะไรถึงแฟนๆหน่อยนะคะ พร้อมฝากช่องทางการติดตามของเราหน่อยค่ะ

เฟิร์ส ปิยังกูร : ขอบคุณแฟนๆทุกคนที่คอยซัพพอร์ตเฟิร์สและพี่โชกุนด้วย คอยส่งกำลังใจมาให้ ไม่ว่าจะในเทรนด์ X  แท็กสตอรี่มา ไม่ว่าจะเป็นส่งฟู้ดซัพพอร์ตมา ผมก็เห็นความตั้งใจของแฟนๆที่เขาอยากจะให้กำลังใจเราจริงๆครับ  ขอบคุณมากๆครับ ช่องทางการติดตาม IG : @f.piyangkull และ TikTok / X : @piyangkull

โชกุน ปารมี : ผมก็อยากขอบคุณแฟนๆทุกคนที่อยู่กันมาตั้งแต่เรายังไม่มีผลงานอะไรเลย จนถึงวันนี้ที่ทุกอย่างมันเป็นรูปเป็นร่างขึ้น บางครั้งผมก็รู้สึกอยากพอไปหลายครั้งแต่พอเห็นแฟนๆ ที่ให้กำลังใจก็รู้สึกมีแรงขึ้นมาอีกครั้งครับ ช่องทางการติดตาม IG : / TikTok : @shoguunn

 

You can share this post!

MANGU E-Magazine Issue 276 Cover Star ( 15st Apr 2024)บทสัมภาษณ์ “จูเนียร์ กาจบัณฑิต” และ “ฟลุ๊คจ์ พงศภัทร์” นักแสดงนำจาก ซีรีส์เรื่อง “คุณได้ไปต่อ (To be continued)”