Interview

       MANGU E-Magazine Issue 207 (1st May 2021) คอลัมน์ Star พบกับ เก้า นพเก้า เดชาพัฒนคุณ & อัพ ภูมิพัฒน์ เอี่ยมสำอาง สองนักแสดงนำจากซีรีส์สุดน่ารัก "นับสิบจะจูบ Lovely Writer" ซีรีส์วายที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ กับเคมีระหว่าง เก้า และ อัพ หรือที่แฟน ๆ รู้จักกันดีในบทบาท "นับสิบ" และ "จีน" มาทำความรู้จักกับตัวตนของทั้งเก้าและอัพให้มากขึ้น กับบทสัมภาษณ์ในคอลัมน์ Star กันได้เลย

แนะนำตัว และจุดเริ่มต้นในการเข้าวงการให้ฟังหน่อยค่ะ

อัพ : สวัสดีครับ อัพ ภูมิพัฒน์ ครับ ความจริงถ้าพูดถึงตอนเข้าวงการต้องย้อนกลับไปนานมาก ตั้งแต่ผมเรียนอยู่ปี 1 ครับผม ที่คณะนิเทศน์ศาสตร์ ซึ่งตอนนั้นยังไม่แน่ใจว่าจะทำงานด้านนี้จริง ๆ รึเปล่า แต่พอได้ทำมาเรื่อย ๆ มันก็ทำให้เรารู้ว่าสิ่งนี้ก็เป็นแพสชั่นของเราเหมือนกัน แล้วเราก็อยากจะทำให้ออกมาดีเหมือนกัน ก็นานแล้วครับหลายปี น่าจะ 7 ปีแล้วครับ ตอนแรกจะไม่ใช่ซีรีส์ แต่จะเป็นพวกไวรัล โฆษณาต่าง ๆ ครับ แล้วก็ค่อย ๆ ขยับมาจนได้เล่นซีรีส์ครับ

เก้า : ผม เก้า นพเก้า ครับ จุดเริ่มต้นของผมคือไม่ได้จะทำจริงจังอะไร เรียกว่าเป็นอาชีพเสริมของผมครับ เหมือนกำลังหารายได้เพื่อการเรียน แต่พอเริ่มเข้าวงการมาก็มีฐานแฟนคลับเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเป็นแรงผลักดันในตัวเราที่อยากผลิตผลงานให้แฟน ๆ เห็นเรื่อย ๆ ก็เลยทำให้เรารักในจุดนี้ไปเองครับ ซึ่งผลงานเรื่องแรกคือ "สะใภ้กาฝาก" ครับ ตอนนั้นอยู่กับ TV Thunder อยู่กับทางพี่ตุลย์ พี่แม็กซ์ ก็มีโอกาสจากทางผู้ใหญ่ครับ ได้ลองเล่นละคร

แล้วทำยังไงถึงได้มาเล่นซีรีส์เรื่อง "นับสิบจะจูบ Lovely Writer"

อัพ : อย่างแรกเลยต้องขอขอบคุณทางผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นทางพี่ก้อง ปิยะ หรือว่าพี่คิง สมจริงครับ รวมถึงทาง DeeHub House ที่ให้โอกาสพวกเรามาแคสต์ แล้วก็เลือกพวกเรามารับบทนี้ครับ ก็ขอขอบคุณทาง DeeHub ด้วยครับ

แนะนำหน่อยว่า ในซีรีส์เรื่องนี้แต่ละคนรับบทเป็นใคร และคาแรคเตอร์เป็นยังไงบ้าง

เก้า : ผมรับบทเป็น “นับสิบ” ครับ ภายนอกก็จะเป็นคนที่ค่อนข้างนิ่ง เงียบ ลุคเจ้าชาย ตามที่นิยายเขียนเลย แต่ภายใต้ความนิ่ง เงียบ ลุคเจ้าชายของเขาเนี่ย จะแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ ทำอะไรต้องมีแผนการตลอดเวลา เวลาพูดจาก็ไม่เหมือนกัน ถ้าอยู่กับคนอื่นจะเป็นบุคลิกนึง แต่เวลาอยู่กับคนที่เราชอบก็จะเป็นอีกบุคลิกนึง

อัพ : ส่วนผมก็รับบทเป็น “จีน” นะครับ ซี่งจีนเนี่ยเป็นนักเขียน โดยตัวจีนเอง จะเขียนนิยายแนวแฟนตาซีสยองขวัญ แต่ด้วยแรงกดดันจากทั้งสำนักพิมพ์และบ.ก. รวมทั้งรอบตัวจีน ทำให้จีนถูกผลักให้มาเขียนนิยายวาย แล้วพอนิยายวายที่จีนเขียนดังขึ้นมา ก็ถูกนำมาทำเป็นซีรีส์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นให้จีนได้พบกับนับสิบครับ

คาแรคเตอร์ในเรื่องเหมือนหรือแตกต่างจากชีวิตจริงเราอย่างไรบ้าง

อัพ : ด้วยความที่จีนเป็นนักเขียน เลยมีความติสท์ มีความซับซ้อนทางด้านความคิด พูดจาค่อนข้างขวานผ่าซากก็ว่าได้ คิดอะไรพูดเลย แต่ก็มีความซับซ้อนในความคิด เลยมีความย้อนแย้งในตัวเอง ถามว่าเหมือนไหม ก็ไม่เหมือนซะทั้งหมดครับ น่าจะอยู่ระหว่างกลาง ๆ สามารถปรับขึ้นลงได้ แต่ถ้าถามว่ายากไหม ตอบเลยว่ายาก

เก้า : ส่วนผมค่อนข้างแตกต่างมาก เพราะนับสิบอายุน้อยกว่าผมตอนนี้ ในเรื่องนับสิบอายุแค่ 20 ปี ซึ่งแตกต่างตรงที่นับสิบเป็นคนกะล่อน มีความเจ้าเล่ห์ แพรวพราวเวลาอยู่กับคุณจีน ส่วนตัวผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย ก็ต้องมาเรียนรู้ในการเข้าหาคุณจีนว่าต้องเข้าหาแนวไหน รุกประมาณไหน แต่ส่วนที่คล้ายคือบุคลิกที่มีความขรึม ความเงียบก็จะใกล้เคียงกันนิดนึงครับ

เรื่องนี้ได้ร่วมงานกับผู้กำกับ ตี๋ บัณฑิต รู้สึกอย่างไรบ้าง

อัพ : อย่างแรกเลยคือพี่ตี๋เป็นคนที่ละเอียดมาก คือทุกซีนที่ออกมา ถ้ามันไม่ดีจริง ๆ พี่ตี๋ก็จะไม่ปล่อยให้ผ่านไป คือต่อให้เวลาจะ Limit ขนาดไหน ถ้าไม่ดีจริงพี่ตี๋ก็จะให้เล่นใหม่ ให้ทำใหม่ ซึ่งทางเราที่เป็นนักแสดง ก็อยู่ด้วยความเชื่อใจกันละกันว่าเขาเห็นภาพแบบนี้ก็แปลว่ามันยังไม่ดี เลยให้เล่นใหม่ ด้วยความที่เวลาจำกัด เลยไม่ได้เข้าไปเช็คมอนิเตอร์บ่อย เราก็เลยทำงานกันด้วยความเชื่อใจกันมากกว่าครับ

เก้า : อย่างที่อัพบอกเลยครับ คือเวลาเราทำงานเราทำด้วยความเชื่อใจ เพราะเราไม่มีเวลาไปเช็คหน้ามอนิเตอร์เลย เวลาเราเล่นออกไปเขาเลยอยากให้เราเล่นอย่างที่เตรียมกันมา แล้วจะปรับแก้ตรงไหนเดี๋ยวเขาจะวอมาบอก เพราะว่าเขาเป็นคนเห็นหน้าเซ็ท ถ้าเขาบอกว่าดีก็คือดี

ซีนไหนที่เข้าฉากด้วยกันแล้วรู้สึกเขินที่สุด

เก้า : โห เยอะมากเลย

อัพ : เยอะครับเยอะ

เก้า : จริง ๆ ของผมเนี่ย เขินทุกซีนเลย

อัพ : ครับ ผมก็เหมือนกัน

เก้า : ด้วยตัวผมเป็นคนค่อนข้างเกร็ง ๆ อยู่แล้ว ยิ่งเวลาทำงานกับคนอื่น แรก ๆ ก็จะเขินไปหมดเลย แต่พอหลัง ๆ ก็เล่นกันสมูทขึ้น เราสนิทกันมากขึ้น

อัพ : ใช่ครับ

เก้า : ถ้าต้องเลือกฉากที่เขินที่สุดน่าจะเป็นซีนที่เราต้องเข้าไปใกล้กันมาก ๆ เลย ในช่วงแรก

อัพ : ใช่ ๆ ครับคือสปอยไม่ได้จริง ๆ แต่จะมีซีนที่เราสองคนเขินกันมาก แล้วเราก็เอาความเขินนั้นน่ะ มาใช้เป็นเครื่องมือของนักแสดงเนอะ ว่าความรู้สึกที่เรารู้สึกจริง ๆ เราก็พยายามถ่ายทอดมันออกมา

อยากให้เล่าถึงความรู้สึกที่มีต่อ จีน และ นับสิบ หน่อยค่ะ

อัพ : ถ้าจะให้ผมพูดถึงจีน คือจีนเนี่ย... ต้องรู้ได้แล้วนะ ว่านับสิบจะมาแบบไหน (หัวเราะ) เอาจริง ๆ จะซื่อไปไหนนะจีน ส่วนถ้าจะให้ผมพูดถึงนับสิบนี่ คือคุณก็รุกแรงเหมือนกันนะ คุณก็เอาจริงนะ

เก้า : ส่วนผมขอพูดถึงตัวนับสิบก่อนเลยละกัน ก็อยากจะขอบคุณนับสิบที่เข้ามาในชีวิตทำให้ได้เรียนรู้ประสบการณ์อะไรหลาย ๆ อย่าง ได้พบเจอกับทีมงานดี ๆ นักแสดงดี ๆ รวมถึงแฟนคลับของทั้งนับสิบและคุณจีนเอง ส่วนถ้าจะให้พูดถึงจีน ก็อยากบอกกับคุณจีนว่า รู้ตัวซะทีเถอะ ผมเหนื่อยแล้ว (หัวเราะ)

เจอกันครั้งแรกตอนไหน เหตุการณ์เป็นยังไง ตอนนั้นรู้สึกอย่างไรบ้าง แล้วหลังจากร่วมงานกันแล้วเป็นอย่างไรบ้าง สนิทกันแค่ไหน                     

อัพ : เจอกันครั้งแรกที่ห้องเวิร์คช็อปเลย เพราะตอนแคสติ้งมากันคนละเวลาเลยไม่ได้เจอกัน บอกเลยว่าครั้งแรกคือเกร็งทั้งคู่ แล้วเราก็ไม่รู้จะเข้าหาเขายังไง ยิ่งต้องมาจับคู่กับเขาด้วย ตอนแรกคิดหนักมากว่าจะยังไงดี จะเข้าหายังไงดี แต่พอได้เปิดปากคุยกันเท่านั้นแหละ ก็เรียบร้อยสบายเลย สบายใจมากครับ เพราะเป็นคนรั่ว ๆ อยู่แล้ว คือเวลาผมให้สัมภาษณ์ทุกครั้งผมจะบอกเลยว่าเก้าเป็นคนจริงใจมาก ๆ สำหรับผมนะ รู้สึกว่าเก้าเป็นคนที่ผมสามารถคุยได้ทุกเรื่อง เป็นเพื่อนที่ดีมาก ๆ จริงใจมาก ๆ ก็ขอขอบคุณมากจริง ๆ คือถ้าไม่ได้เก้าก็คงเล่นออกมาไม่ได้แบบนี้ครับ

เก้า : ขอบคุณครับ ส่วนผมขอเล่าบรรยากาศวันแรก ๆ เลย รู้สึกเกร็งมาก ๆ ยังไม่เคยร่วมงานกับเขามาก่อนเลยนะครับทั้งพี่ตี๋ พี่บอส ตอนแคสติ้งยังไม่ได้คุยอะไรกันมาก พอนัดเจอนักแสดงทุกคนวันนั้นอย่างแรกที่เรามองหาคือคนที่จะมาเล่นคู่กับเรา ก็คืออัพ พออัพเดินเข้ามา เราก็คิดในใจว่า "คนนี้เหรอ ที่จะมาเล่นกับเรา" เราก็สังเกตเขาก่อนว่าเขาเป็นยังไงนะ บุคลิกนิสัยเขา ทุกคนที่มาวันนั้นคือเงียบขรึมหมดเลย เพราะว่าเกร็งกันอยู่ แต่พอหลังจากที่เอ่ยปากพูดกันอย่างที่อัพบอก ก็รู้เลยว่านี่ก็รั่ว ผมก็รั่ว ไปกันได้ หลังจากนั้นก็สนิทกันมากขึ้น พอคุยกันได้ทุกเรื่องก็ทำให้เราสนิทกันไวขึ้น ง่ายต่อการทำงานของผมด้วยครับ

นอกเหนือจากเรื่องงานปกติคุยกันเรื่องอะไร หรือมีทำกิจกรรมอะไรร่วมกันบ้างไหม

เก้า : เยอะเลยครับ แต่ส่วนใหญ่เราจะเจอกันเพราะว่าเรื่องงานก่อน

อัพ : ใช่ ทำงานแล้วก็ไปกินข้าวไหม ไปนู่น ไปนี่ไหม แล้วก็ได้นั่งคุยกันมากขึ้นเกี่ยวกับชีวิตของแต่ละคน

เก้า : อย่างพอเราจะมีงาน แบบวันนี้ที่เราจะมา เราก็ไปช่วยกันเลือกเสื้อผ้าแบบนี้ครับ

อัพ : ความจริงเก้าก็เป็นเหมือนเพื่อนสนิทคนนึงเลยก็ว่าได้ครับ ปรึกษากัน ฝากซื้อของก็มี (หัวเราะ)

แต่ละคนมีสิ่งที่ไม่ชอบหรือกลัวไหม แล้วมีสิ่งที่ชอบมาก ๆ หรือแพ้ทางบ้างไหม

เก้า : จริง ๆ สิ่งที่ชอบกับสิ่งที่ไม่ชอบของผมเนี่ย คือสัตว์ทั้งคู่เลย ผมเป็นคนรักสัตว์มาก ๆ แต่ก็แพ้สัตว์บางชนิดเหมือนกัน คือกลัวเลยแหละ ถ้ามีอยู่ในบ้านคือต้องเผาบ้านทิ้ง (หัวเราะ) ผมกลัวตุ๊กแกครับ กลัวมาก ๆ เลย เพราะว่ามีความหลังกับตุ๊กแกมาก ตอนเด็ก ๆ บ้านผมอยู่ต่างจังหวัดครับ หลังบ้านเราจะมีต้นไม้เยอะ แล้วก็จะมีแก๊งตุ๊กแกแบบนี้ (หัวเราะ) บางวันพอเราหิวตอนดึก ๆ ก็ต้องเดินไปหลังบ้านไปทำกับข้าวกิน เดินไปมืด ๆ พอเปิดไฟปุ๊บ มันอยู่ใกล้ไม้ใกล้มือไปหมด ก็เลยกลัวมาตั้งแต่เด็ก สิ่งที่ชอบก็สัตว์เกือบทุกชนิดเลย ใช่ เราเห็นสัตว์ก็รู้สึกน่ารัก อยากเลี้ยงไปหมด

อัพ : สิ่งที่ชอบ ก็ชอบหมานะแต่ไม่ได้ขนาดแพ้ทางครับ ส่วนสิ่งที่กลัวไม่ค่อยมี ไม่รู้ว่าตัวเองกลัวอะไรด้วยซ้ำครับ อาจจะยังไม่เจอสิ่งที่กลัว ให้แฟน ๆ ลุ้น เอามาจ๊ะเอ๋ได้ จะได้รู้ว่าอันไหนกลัว

เก้า : เดี๋ยวช่วยหาเอง แต่หาสิ่งที่กลัวนะ (หัวเราะ)

มีงานอดิเรกที่ชอบ หรือกีฬาที่ชอบเล่นไหม

เก้า : Activity ต่าง ๆ ใช่ไหมครับ ผมก็ชอบความท้าทาย เวลาว่างก็จะเจียดเวลาไปหาอะไรทำเสมอ อย่างกีฬาที่เล่นเป็นประจำคือฟุตบอลครับ ส่วนเวลาว่างถ้ารวมแก๊งเตะฟุตบอลไม่ได้ ก็จะไปหาอะไรใหม่ ๆ ทำดูบ้าง

อัพ : ผมก็จะมีไลฟ์สไตล์ที่ค่อนข้างแตกต่างกับเก้านิดนึง คือผมชอบอยู่เฉย ๆ อ่านหนังสือครับ

เก้า : แต่ไปด้วยกันได้นะ

อัพ : ใช่ แต่ไปด้วยกันได้ ชอบอ่านหนังสือครับ ส่วนกีฬาที่ชอบเล่นคือ บาสเก็ตบอลครับ เล่นมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ

ตอนนี้ทั้งสองคนมีแฟนคลับเพิ่มมากขึ้น ชีวิตเปลี่ยนไปบ้างไหม เปลี่ยนไปยังไงบ้าง

เก้า : ส่วนตัวผมเปลี่ยนนะ จากเดิมก็พอมีคนรู้จักอยู่บ้างแล้วตอนนั้นรู้สึกว่าเปลี่ยนแล้ว แต่พอก้าวเข้ามารับบทนับสิบเนี่ย ก็รู้สึกเปลี่ยนไปอีกระดับนึง เหมือนคนรู้จักเราเพิ่มมากขึ้น เราเป็นที่สนใจเพิ่มขึ้น ก็รู้สึกดีใจครับ เพราะว่าผลลัพธ์ที่เราเหนื่อยจากการทำงาน ค่อย ๆ ส่งผลมา ทำให้เรารู้สึกประทับใจในตัวเองครับ แต่การใช้ชีวิตก็ปกติครับ เวลาเราไปไหนเจอผู้คนที่รู้จักเรา เขายิ้มให้เราก็ทำให้เรารู้สึกดีใจที่เห็นเรามีบทบาทมากขึ้น มีวิวัฒนาการที่ดีขึ้นก็รู้สึกดีใจครับ

อัพ : ก็เปลี่ยนอยู่แล้วครับ แต่ว่าอยากจะขอบคุณทุกคนที่มาสนับสนุนกัน ทั้งคนที่อยู่ด้วยกันอยู่แล้ว และคนใหม่ ๆ ที่เพิ่งเข้ามารู้จักกัน ถามว่าเปลี่ยนไปเยอะไหม ก็เปลี่ยนไปเยอะครับ ทำให้เราได้รู้ว่า เขาให้ความรักเราขนาดนี้ เราก็อยากจะมอบความรักกลับไปให้เขาเหมือนกันครับ อยากมอบผลงานดี ๆ กลับไปให้เขาเป็นการตอบแทน

มีอะไรที่แฟน ๆ ทำให้เราแล้วรู้สึกเซอร์ไพรส์หรือประทับใจที่สุดบ้างคะ

เก้า : แค่เขามาหาก็รู้สึกดีใจแล้ว

อัพ : ใช่ แค่มาหาก็รู้สึกดีใจแล้วครับ

เก้า : ไม่ต้องเอาของ เอาอะไรมาฝาก บางทีเราออกงานเกือบทุกวัน แต่เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่เขาเอาเวลาไหนมาหาเรา มาอยู่กับเรา มาเฝ้าเราตั้งแต่เช้ายันค่ำขนาดนี้ แค่นี้เราก็รู้สึกดีใจแล้วเนอะ

อัพ : ใช่ แค่ได้เจอก็ดีใจแล้วครับ

เร็ว ๆ นี้จะมีผลงานอะไรให้แฟนติดตามกันอีกบ้าง

อัพ : ก็เร็ว ๆ นี้จะมีคอนเสิร์ตนะครับ Million Boy Concert ตอน The Body Guard ครับผม ช่วงใกล้ ๆ นี้ ช่วงนี้ก็กำลัง...

เก้า : กำลังซุ่มซ้อม ทำงานอย่างหนักหน่วงครับ

อัพ : ครับผมหนักหน่วงมากครับ

เก้า : ใครอยากรู้ว่าอัพเอวหวานประมาณไหน ก็อย่าพลาดกันนะครับ คอนเสิร์ตนี้ เราจะได้เห็นเอวคุณอัพเขา...

อัพ : โห เว่อร์ เอวหวานป่ะ

เก้า : ...พริ้วแบบไม่เคยพริ้วมาก่อน (หัวเราะ) แล้วก็อย่าลืม ฝากบทสัมภาษณ์ของเรากับ ManGu ไว้ด้วยครับ

อัพ : ใช่ครับผม

สุดท้ายฝากอะไรถึงแฟนคลับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่สนับสนุนเราหน่อยค่ะ และฝากช่องทางการติดตามของเราหน่อยค่ะ

อัพ : อย่างแรกเลย อยากจะขอบคุณ เอาจริง ๆ ผมรู้สึกมาตลอดว่าขอบคุณเท่าไรก็ไม่พอ คือไม่รู้จะพูดว่ายังไงแล้ว เราอยากขอบคุณเขามากจริง ๆ เพราะฉะนั้น...เราจะเต็มที่กับทุกอย่างที่เราทำ แล้วให้ทุกอย่างที่เราทำมันออกมาดี ให้เขาได้เห็น ให้เขาได้มีความสุขกับสิ่งที่เราทำ ถ้าเราตอบแทนอะไรเขาได้ก็คงเป็นสิ่งนี้แหละ สิ่งที่เราจะพยายามทำให้เต็มที่เพื่อแฟน ๆ ทุกคนครับ

เก้า : ผมก็คล้าย ๆ อัพครับ ถ้าอะไรที่เราจะตอบแทนเขาได้ ก็คือเราจะพยายามทำให้เต็มที่เพื่อให้แฟน ๆ เห็นครับ

------------------------------------------------------

ขอขอบคุณ

เก้า นพเก้า เดชาพัฒนคุณ & อัพ ภูมิพัฒน์ เอี่ยมสำอาง

Kao Noppakao Dechaphatthanakun & Up Poompat Iam-samang

IG : @numberx9th & @uppoompat

Makeup : @tang_tah

Hair : @ggreen.thanakrit

Clothes : @thekooples (The Kooples)

Styling : @real__kati

Special thanks : @lovelywriter.official (Lovely Writer The Series)

感谢拍摄场地：@sivatelbangkok (Sivatel Hotel Bangkok)

Photographer : Thanravee Khamthuen @iamjames_tk

Graphic Designer : Satamed Kunawattana @Pdillustrator

Coordinator / Interviews : Kawinna Penkul @kawintoon