news-details

MANGU E-Magazine Cover Story Issue 208 (15th May 2021) ภณ ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์ และ บัว นลินทิพย์ สกุลอ่องอำไพ คู่พระนางเคมีดี จากละครที่กำลังมาแรง "พราวมุก" ทางช่อง3

ให้ทั้งสองคนแนะนำตัวเอง พร้อมการศึกษาหน่อยค่ะ

Bua : สวัสดีค่ะ บัว นลินทิพย์ สกุลอ่องอำไพ จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ วิทยุโทรทัศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาค่ะ

Pon : สวัสดีครับ ภณ ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์ ครับ จบการศึกษาปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ภาควิชาวิศวกรรมดนตรี และสื่อประสมครับ

ก่อนอื่นเลย เมื่อตอนที่พราวมุกเพิ่งฟิตติ้งละคร แค่มีภาพปล่อยออกมา ก็ได้รับกระแสดีมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับจีน หรือว่าแฟนคลับไทย ใคร ๆ ก็รอดู รู้สึกยังไงบ้างที่ละครได้รับกระแสที่ดีมากขนาดนี้

Bua : ก็ดีใจค่ะ ที่มีคนรอดูละครของพวกเราเยอะเลย วันที่ถ่ายฟิตติ้ง เสื้อผ้า หน้าผม mood tone ทุกอย่างสวยเลยค่ะ ส่วนตัวบัวเองก็ชอบมาก ๆ เลย

Pon : ความรู้สึกแรกเลยคือดีใจครับ ก็คือมีแฟน ๆ อยากให้เราสองคนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ตั้งแต่เรื่องตราบาปสีชมพู ก็ดีใจครับที่ทุกคนรอ แล้วก็คอยสนับสนุนผลงานมาเรื่อย ๆ

แล้วในละครพราวมุก ทั้งสองคนรับบทเป็นใคร และคาแรคเตอร์เป็นยังไงบ้างคะ

Bua : พราวมุกค่ะ เป็นผู้หญิงแกร่งค่ะ เก่งด้วย เป็นคนตรง ๆ เป็นคนมีเป้าหมาย มีวินัยกับชีวิต จริงใจ แล้วก็ชัดเจนกับความรู้สึกของตัวเอง รักใครก็รักจริง ๆ ภายนอกดูแข็งแรง แต่ข้างในจริง ๆ แล้วอ่อนแอ แต่เวลามีปัญหาทุกครั้งก็จะลุกขึ้นมาสู้แบบสุดตัว สโกแลนของพราวมุกคือ ไปให้สุด ถ้าสุดแล้วจะหยุดเอง

Pon : ในเรื่อง พราวมุก รับบทเป็น ชลันธร ครับ ชลันธร เป็นคนที่เก่ง แต่ไม่ได้บอกว่าตัวเองเก่ง เป็นคนคมในฝัก คนอื่นจะคิดว่าเป็นคนไม่เอาไหน แต่จริง ๆ คือมีความสามารถ คาแรกเตอร์ของตัวละครตัวนี้ เป็นคนเชื่อมั่นในตัวเอง ไม่ชอบถูกบังคับ แล้วก็เป็นเพลบอยด้วย (หัวเราะ) ถามว่าร้ายมั้ย เอาจริง ๆ นะไม่ใช่คนร้าย แต่ด้วยเหตุผลต่าง ๆ หลายอย่าง ก็จะดูร้าย ๆ กับตัวพราวมุก ก็จะมีความแบด ๆ

ก่อนการถ่ายทำเรื่องนี้ ทั้งสองคนมีการเตรียมตัวยังไงบ้าง เพื่อให้เข้ากับตัวละครที่ตัวเองได้รับ

Bua : บัวก็มีไปเรียน DJ เพราะในเรื่องเราเป็นดีเจค่ะ ก็ต้องไปเรียนรู้วิธีใช้เครื่องมือต่าง ๆ ให้เป็น ฝึกฟังจังหวะให้ได้ เพราะบัวเป็นคนจังหวะไม่ค่อยได้ พอไปเรียนก็เริ่มฟังออกนะคะ และสามารถเปิดเพลงเองได้จริง ๆ แล้วก็มีไปเรียนเต้นด้วยค่ะ ก็เป็นการฝึกจังหวะอีกนั่นแหละค่ะ แล้วก็ให้เราได้ทำความรู้จักกับร่างกายของตัวเองด้วย แล้วก็ไป workshop กับอ่านบทด้วยกันก่อนค่ะ เป็นการตีความตัวละครให้เข้าใจตรงกันกับคาแรคเตอร์ที่ผู้กำกับเค้าวางไว้ด้วยค่ะ

Pon : ผมต้องทำการบ้านเยอะ แล้วเราเจอพี่นาย (ผู้กำกับ) เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 ซึ่งเรารู้ว่าพี่นายเป็นคนที่ละเอียดมาก เราก็ต้องทำการบ้านไป ก็จะคอยแชร์ความความคิดแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันว่าฉากนี้จะประมาณไหน แบบไหน ยังไง ก็จะมีการพูดคุยกันครับ

ทราบมาว่ากองละครไปถ่ายทำที่ประเทศเกาหลีด้วย ระหว่างการถ่ายทำที่เกาหลี มีเรื่องราวอะไรประทับใจเกิดขึ้นบ้างไหมคะ และตลอดการถ่ายทำที่เกาหลี มีฉากไหนที่รู้สึกว่าท้าทายกับตัวเรามากที่สุดไหมคะ

Bua : ประทับใจมากค่ะ สนุกมากด้วย เพราะว่าเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีด้วย เป็นฤดูที่บัวชอบที่สุดแล้วค่ะ ที่ประทับใจก็คงเป็นสถานที่สวย ๆ แล้วก็การทำงานของทุกคนที่เป็น Teamwork มาก ๆ ค่ะ ทั้งนักแสดงและทีมงานทุกคนทุ่มเทมาก ๆ แล้วก็คอยช่วยกันตลอดถึงแม้ว่าจะไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง มีน้ำใจมากๆค่ะ ฉากที่ถ่ายที่เกาหลีคราวนี้ส่วนใหญ่จะเป็นฉากกลางคืนค่ะ ซึ่งอากาศหนาวมาก สิ่งที่ท้าทายคงไม่ใช่ความยากของบท แต่เป็นอากาศที่หนาวมาก เพราะตอนที่ถ่ายบัวต้องใส่ชุดเดรสบาง ๆ แต่อากาศ 5 องศา แล้วปากก็สั่น สั่นไปทั้งตัวค่ะ ถ่ายหลายเทคมาก ๆ เพราะพูดไม่ได้ค่ะ มันหนาว (หัวเราะ)

Pon : เกาหลีหนาวมาก (หัวเราะ) คือเสื้อผ้าที่เราใส่ก็ต้องคอนตินิวจากเมืองไทย จะใส่กันชั้นเดียว ลองจอนก็คือใส่ไม่ได้ แล้วเราต้องสู้กับอากาศที่หนาวแบบตัวเลขติดลบ จะพูดไดอะล็อกซ์ยังพูดไม่ได้ เพราะปากแข็งลิ้นแข็งไปหมด เพราะหนาวมาก แต่โดยรวม ๆ บรรยากาศสวย สถานที่ต่าง ๆ คือสวยมาก ยิ่งตอนกลางคืนจะสวยมาก เราเห็นจากกล้องคือประทับใจมาก สวยมากจริง ๆ ส่วนฉากที่ท้าทายคือ ซีนบู๊กับคนร้ายที่เกาหลี ถ่ายนานพอสมควร ไหนจะหนาวจัด ต้องสู้กับสภาพอากาศที่หนาวแบบสำหรับเรานะ (หัวเราะ) เพราะของบ้านเค้าอากาศแบบนี้ยังไม่ใช่อากาศหนาว แต่สำหรับบ้านเราเรียกว่าหนาวมาก (หัวเราะ) แล้วตอนถ่ายก็ถ่ายกันตอนเที่ยงคืน ชาวบ้านเค้านอนกันไป ส่วนเราก็บู๊กันไป (หัวเราะ) ก็คือต้องถ่ายทำกันอย่างระมัดระวังมาก ทำงานกันลำบากนิดนึง

ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้วที่ทั้งสองคนได้ร่วมงานกัน พูดได้เลยว่าระหว่างการถ่ายทำทั้งสองคนคงรู้ใจกันมาก ๆ พอสมควร ถ้าสมมติว่าต้องให้คะแนนความรู้ใจกัน ทั้งสองคนจะให้เท่าไหร่คะ

Bua : ให้เป็นคะแนนเลยหรอ เท่าไรดีล่ะ คืออันนี้ก็ต้องชื่นชมภณนะ เค้าเป็นคนตั้งใจแล้วก็มีวินัยมากๆ เวลาจะเข้าฉากคือไม่ต้องห่วงเลยเพราะเค้าทำการบ้านมาแน่ ๆ หรืออย่างฉากไหนที่มีความเสี่ยงหรือต้องนัดแนะคิวกันให้ถูก ก็จะช่วยกันซ้อมจนคิดว่าปลอดภัยแล้วจริง ๆ ถ้าเป็นเรื่องความเชื่อใจ ให้ 9 เลย หัก 1 คะแนนเพราะเล่นจริงมาก แรงเยอะมาก ฝากร่องรอยกลับบ้านทุกรอบเลย (หัวเราะ)

Pon : ร่วมงานกันเป็นเรื่องที่ 2 กับบัวง่ายขึ้น เพราะเราถ่ายเล่นด้วยกันในตราบาปสีชมพูมาแล้ว ก็ชิลขึ้น พอมาเล่นเรื่องนี้ก็สบายละ รับส่งอะไรกันรู้ฟิลกันหมดละ ไม่ต้องมาจูนมาปรับตัวกันใหม่เหมือนตอนเล่นเรื่องแรกด้วยกัน ถ้าให้คะแนนความรู้ใจ อันนี้โอ้ย บางเรื่องก็ไม่รู้ครับ (หัวเราะ) เท่าไรดีอ่ะ ยากอ่ะ ถ้าเต็มสิบก็ให้ซัก 7 ละกัน เพราะเราเข้าฉากด้วยกันเยอะ

แล้วในละครเรื่องนี้ทั้งสองคนประทับใจฉากไหนมากที่สุด หรือฉากไหนที่อยากให้แฟน ๆ รอชมมากที่สุดคะ

Bua : จริง ๆ เรื่องนี้ฉากประทับใจมีเยอะมาก ๆ เลยค่ะ  แต่ถ้าต้องเลือก 1 ฉาก ให้เป็นฉากขึ้นบอลลูนตอนจบของเรื่องเลยค่ะ เพราะเราไปถ่ายที่เค้าจัดงานเลยจริง ๆ แล้วก็เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ขึ้นบอลลูนด้วย พอเสร็จงานก็ได้ดูคอนเสิร์ตต่อด้วย สนุกมากค่ะตอนนั้น แต่อยากฝากฉากเปิดตัวของดีเจพราวด้วยนะคะ ตอนแรกเลย

Pon : ประทับใจฉากไหนที่สุดเหรอ อืม ประทับใจฉากเปิดเรื่องครับ คือฉากเปิดเรื่องมันจะมีความน่าสนใจ เป็นฉากบินไปร่วมงานดีเจ ไม่ใช่คอนเสิร์ตแบบที่เราเคยเห็น จะมีการใช้เทคโนโลยีในการฟังเพลงที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นอะไรที่แปลกใหม่ คือทุกคนเอารถเข้าไปจอดต่อ ๆ กัน แล้วทุกคนก็เชื่อมต่อสัญญาณเครื่องเสียงรถตัวเอง คือแบบนี้ที่เมืองนอกเค้าทำกัน แต่ที่เมืองไทยผมยังไม่เห็นนะ แล้วฉากนี้ต้องเล่นกับ CG ด้วย เป็นฉากใหญ่เลย ฉากที่อยากให้แฟน ๆ รอก็ฉากนี้เลยครับ เป็นต้นเรื่อง เป็นการเปิดตัว ที่สำคัญเป็นจุดเริ่มต้นระหว่าง พราวมุก กับชลันธร ด้วย

ให้บอกความน่าติดตาม หรือเหตุผลที่ไม่ควรพลาดละครเรื่อง พราวมุก หน่อยค่ะ

Bua : เป็นละครที่มีทุกแนวค่ะ สนุกแน่ ๆ อยากให้ได้ดูค่ะ ถ้าอยากได้ความฟินมีให้ดูแน่ ๆ แอคชั่น ดราม่า คอมเมดี้มีหมดค่ะ ตัวละครทุกตัวบทสำคัญและมีมิติหมดเลย ผู้ชายก็งานดีมากทุกคนด้วยค่ะบอกเลย และสุดท้ายพวกเราทุกคนตั้งใจมากๆกับละครเรื่องนี้ค่ะ อยากฝากทุกคนติดตามและเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะคะ

Pon : ไม่ควรพลาดจริง ๆ นะ คือเรื่องนี้มันมีหลายเส้นเรื่อง หลายรสชาติมาก อย่างที่เห็นคือมีทั้งโรแมนติก ดราม่า คอมมาดี้ บู๊ก็มี เอาสิ แล้วก็จะมีกึ่ง ๆ Y หน่อย ๆ ครับ

เมื่ออยู่คนเดียวชอบทำกิจกรรมอะไร จะมีแว็บนึงที่คิดไหมว่า ทำไมเราถึงอยากเป็นนักแสดงกันนะ

Bua : กิจกรรมจะเป็นช่วง ๆ ค่ะว่าช่วงนั้นเราอินกับอะไร อย่างตอนนี้จะชอบหาอะไรที่ช่วยฝึกสมาธิทำค่ะ อย่างเช่น ระบายสี ปลูกต้นไม้ค่ะ แล้วก็พาพ่อออกไปข้างนอก หาที่สวย ๆ ให้พ่อถ่ายรูปให้ ดูซีรี่ย์บ้างก็เป็นการหา passion แล้วก็ความรู้เอาไว้ไปพัฒนาตัวเองด้านการแสดงค่ะ

Pon : ถ้าอยู่คนเดียว ผมชอบฟังเพลง เป็นคนฟังได้ทุกแนว ก่อนหน้านี้ก็มีคิดอยากเป็นโน่นนี่ เป็นซาวน์เอนจิเนียร์ตามสายที่เรียนมา แต่อาชีพนักแสดงคือตอนแรกไม่ได้คิดว่าอยากจะเป็นนักแสดง แต่พอได้ลองเข้ามาแล้วรู้สึกว่าเป็นอาชีพที่มีเสน่ห์ ท้าทาย ทำแล้วมีความสุขครับ

ทั้งสองคนให้คำนิยาม นักแสดง ไว้ยังไงบ้างคะ คิดว่าถ้าเป็นนักแสดงที่ดีควรมีคุณสมบัติยังไงบ้าง

Bua : นักแสดงคือ คนที่สามารถเล่นแล้วทำให้คนที่ดู ดูแล้วเชื่อได้ว่าเค้าเป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ สำหรับบัว นักแสดงที่ดีต้องตั้งใจ มีวินัย และไม่หยุดพัฒนาตัวเองค่ะ

Pon : นิยามของอาชีพนักแสดงคือ เป็นร่างทรงให้ตัวละครตัวใดตัวหนึ่งที่เราจะรับเล่น มีหน้าที่ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของตัวละครนั้น ๆ ออกมาให้คนอื่นรับรู้ให้ได้ คุณสมบัติของนักแสดงข้อแรกเลย คือ ความรับผิดชอบครับ เบื้องต้นเลยคือรับผิดชอบบทของตัวเอง อันนี้ทำง่ายสุดเพราะทุกอย่างที่กองมีคนเตรียมให้หมดแล้ว เราก็ควรทำส่วนของเราให้ดีที่สุด แล้วก็รับผิดชอบต่อเวลา เพราะทุกวินาทีมีค่า มีวินัยกับตัวเองและมีวินัยต่อส่วนรวม เพราะงานละครไม่ได้สำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว ทุกอย่างคือทีมเวิร์ค

ในฐานะที่เป็นนักแสดง เคยตั้งเป้าอะไรให้กับตัวเองไหมคะ ตอนนี้เป้าหมายสูงสุดคืออะไร

Bua : สำหรับบัว ถ้าเราเล่นละครเรื่องไหน แล้วคนพูดถึงเรา เชื่อให้ตัวละครที่เราเล่น คนชื่นชอบ ก็ถือว่าเรื่องนั้นเราประสบความสำเร็จในฐานะนักแสดงแล้วนะ ทำให้เรามีกำลังใจในการเล่นละครเรื่องอื่น ๆ ต่อไปค่ะ

Pon : เป้าหมายสูงสุด ก็คือการแสดงครับ ผมอยากแสดงบทบาทที่ท้าทายขึ้นเรื่อย ๆ อยากได้บทที่แปลกใหม่เรื่อย ๆ ตลอดเวลา อยากก้าวข้ามขีดจำกัดความสามาถตัวเอง แล้วก็ทำออกมาให้ดีที่สุด

ตั้งแต่เล่นละครมาจนถึงปัจจุบัน ความตั้งใจแรกเริ่มที่อยากเป็นนักแสดง มีการเปลี่ยนแปลงอะไรไหมคะ เหตุผลที่รักอาชีพนี้คืออะไร

Bua : ก็ถือว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปแบบที่ดีขึ้นมากๆเลยนะคะ เหตุผลที่บัวรักอาชีพนี้ เพราะบัวชอบที่ได้เจอสิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา ได้เป็นอีกคนที่ไม่ใช่ตัวเอง ได้ไปสถานที่ใหม่ ๆ ได้เรียนรู้อะไรต่าง ๆจากคนที่หลากหลาย แล้วอีกอย่างที่บัวดีใจ คือ อยู่ ๆ ก็มีคนที่เค้าไม่ได้รู้จักเรา เราไม่ได้เป็นครอบครัวเค้า แต่เค้าก็มารักเรา คอยมาหา มาให้กำลังใจ บัวต้องขอบคุณแฟนคลับทุกคนมากๆเลยค่ะ ที่เค้าเป็นกำลังใจที่ดีและคอยซัพพอร์ตบัวมาตลอด

Pon : เอาจริง ๆ นะตอนแรกที่เล่นยังไม่ได้คิดอะไรเท่าไหร่ ยังเรียนหนังสือด้วย แต่พอเรียนจบปุ๊บ ได้มาทำเต็มตัว ถ่ายละคร 7 วัน รู้สึกว่ามันเริ่มหลงรักการแสดง เริ่มชอบ ความเปลี่ยนแปลงจากตัวเราคือตรงนี้ จากเฉย ๆ เริ่มติดใจ เริ่มหลงรัก มีพัฒนาการทางความคิดมาเรื่อย ๆ รู้ตัวอีกทีก็คือรักอาชีพนี้ไปแล้ว เหตุผลที่รักอาชีพนี้ คือมันเหมือนเราได้ทำอะไรแปลกใหม่ตลอดเวลา ได้เรียนรู้พฤติกรรม เรียนรู้นิสัยคน บางครั้งอาจจะไม่ได้อยู่ในชีวิตประจำของเรา หรืออาจเป็นชีวิตของคนอื่น ที่ต้องเราต้องถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดออกมา แล้วต้องทำให้คนเชื่อในตัวละครนั้น ๆ เป็นความท้าทาย เป็นสิ่งที่เราต้องทำได้

หากไม่ได้เป็นนักแสดง อยากทำอาชีพอะไร เคยคิดบ้างไหมว่าชีวิตของตัวเองจะเป็นยังไง

Bua : อยากทำธุรกิจค่ะ อะไรซักอย่างนึงที่เป็นสิ่งที่เราชอบค่ะ คือบัวรู้สึกว่าเราทำงานเราต้องหาความสุขกับสิ่งที่เราทำให้เจอด้วยค่ะ เราถึงจะมีแรงผลักดันให้เราอยากทำสิ่งนั้นต่อไปเรื่อย ๆ

Pon : ถ้าไม่ได้เป็นนักแสดง ก็คงไปทำสายที่เรียน อย่างซาวน์เอ็นจิเนียร์ครับ คือเป็นอาชีพที่เราตั้งใจจะทำครับ ก็เลยเลือกเรียนสาขานี้

เดือนพฤษภาคม เป็นเดือนแห่งความรักของคนจีน ในเดือนนี้ที่จีนจะมีวันแม่ วันบอกรักด้วย ทั้งสองคนคิดว่าอะไรคือคำบอกความรัก หรือการบอกรักที่ยอดเยี่ยมที่สุด

Bua : การกระทำค่ะ บางคนอาจจะเป็นคนขี้อาย หรือไม่ใช่คนหวานที่จะคอยบอกรักตลอดเวลา แต่บัวรู้สึกว่าการกระทำจะทำให้คนที่เรารัก เค้าสามารถรับรู้ได้ค่ะว่า เรารักเค้าค่ะ

Pon : ผมว่าการบอกรักมันคือการกระทำ บางอย่างเราไม่ต้องพูดก็ได้ การบอกรักด้วยคำพูดสำหรับผมก็สำคัญ แต่การกระทำที่สื่อออกมาก็สำคัญเหมือนกัน อะไรก็ตามที่เราทำด้วยความรัก คนรับจะซึบซับได้ การบอกรักที่อยากจะพูดให้แฟน ๆ คือ ขอให้ทุกคนมีความรักดี ๆ มีความรักรอบ ๆ ตัวตลอดไป ทั้งรักจากครอบครัว จากคนรัก จากเพื่อน จากเจ้านายลูกน้องและมีความสุขกับรักที่มีครับ

ถ้ามีเรื่องเข้าใจผิดกับคนรัก ครอบครัวหรือเพื่อน ๆ ทั้งสองคนมีวิธีจะปรับความเข้าใจยังไงบ้างคะ

Bua : ก็ต้องคุยกันค่ะ บัวจะค่อย ๆ พูด ค่อย ๆ เคลียร์ ใช้เหตุผลอธิบายให้เค้าเข้าใจค่ะ

Pon : อย่างแรกเลยคือต้องคุยกัน ผมว่าปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดความเข้าใจผิดคือการพูดคุย การสื่อสาร ถ้าเราเปิดใจคุยกันด้วยความเข้าใจ ปัญหาต่าง ๆ น่าจะจบกันด้วยดี

ทั้งสองคนนิยามความรักไว้ยังไงบ้างคะ

Bua : คือความเข้าใจ เชื่อใจ ให้เกียรติ และวางใจ คือการทำทุกสิ่งทุกอย่างจากใจ เพื่อให้ใครคนนึงได้มีความสุข ได้รับสิ่งที่ดี ๆ แล้วก็เป็นพลังใจที่ทำให้เรามีแรงทำสิ่งดี ๆ และมีความสุขให้กับตัวเองด้วย

Pon : นิยามความรัก คือความเข้าใจ ความเชื่อใจ ความเป็นห่วงเป็นใย ความรักคือทุกอย่าง ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ มันแล้วแต่ตัวบุคคลว่าจะมองความรักแบบไหน แต่สำหรับผมความรักคือการอยากเห็นคนที่เรารักมีความสุข ประสบความสำเร็จ ถ้าคนดีก็ดีใจด้วย ถ้าเค้าทุกข์เราก็คอยให้กำลังใจ ถ้าเค้าทำหลงทำผิดเราก็ต้องช่วยเตือนและช่วยเค้าปรับให้เข้าที่เข้าทาง ให้กลับมาสู่เส้นทางที่เหมาะสมถูกต้อง

นอกจากพราวมุกแล้ว จะมีผลงานอะไรให้แฟน ๆ ได้ติดตามกันอีกบ้างคะ

Bua : มีเรื่อง “แค้นรักสลับชะตา” ค่ะ ที่น่าจะได้ดูเร็วๆนี้เหมือนกัน แล้วก็อีกเรื่อง “อ้อมฟ้าโอบดิน” ค่ะ ยังถ่ายอยู่ เรื่องนี้น่าจะได้ดูปีหน้าเลย

Pon : มี “พราวมุก” ที่เล่นกับบัว “เก็บแผ่นดิน” ของเป่าจิ่นจง เล่นกับอุ้มอิษยา แล้วก็ไอซ์ ภาณุวัฒน์ แล้วก็ที่ยังถ่ายอยู่เรื่อง “คู่เวร” ของพี่คิง ครับ ซึ่ง 2 เรื่องหลังน่าจะออนแอร์ปีนี้ แล้วก็ “สะใภ้สายสตรอง” ที่เพิ่งฟิตติ้งไปครับ

สุดท้ายนี้มีอะไรอยากจะบอกกับแฟนคลับที่ชื่นชอบเราไหมคะ รวมถึงช่องทางการติดตามต่าง ๆ

Bua : ขอบคุณมาก ๆ ค่ะสำหรับทุกอย่างเลย ทุกคนเป็นกำลังใจที่ดีมาก ๆ สำหรับบัว บัวก็ขอฝากพราวมุกด้วยนะคะ ช่องทางติดต่อก็มี IG : buanalinthip ค่ะ แล้วก็บัวมี Weibo แล้วด้วยนะคะ buanalinthip_official ค่ะ บัวก็จะคอยอัพเดตผลงานต่างๆ ให้เรื่อยๆ นะคะ แล้วก็ที่สำคัญมาก ๆ ในช่วงนี้ บัวมีทำสเปรย์แอลกอฮอล์ด้วยค่ะ สามารถมาอุดหนุนกันได้นะคะ IG : sandy.365days เป็นห่วงทุกคน ดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ สุดท้ายก็ขอขอบคุณมาก ๆ ค่า

Pon : ขอบคุณที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอดครับ ก็อยากให้ติดตามผลงานของเราต่อไปเรื่อย ๆ สำหรับคนที่คิดถึงกันนะครับ ช่องทางการติดตามก็มีทาง IG : pon_nawasch ครับ Twitter : Pon_Nawasch แล้วก็ TikTok : pon_nawasch ครับ

Thanks

ภณ ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์ & บัว นลินทิพย์ อ่องอำไพ

Pon Nawasch Phupantachsee & Bua Nalinthip Sakulongumpai

IG : @pon_nawasch & @buanalinthip

ขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จากละคร พราวมุก

Graphic Designer : Satamed Kunawattana @Pdillustrator

Coordinator : Kawinna Penkul @kawintoon

Column Writer : Nathanich Srijumnong @myselfworth_

You can share this post!

MANGU E-Magazine Cover Story Issue 209 (1st June 2021) พบกับ คุณนราทิพย์ รัตตประดิษฐ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานปฏิบัติการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้อยู่เบื้องหลังการบริหารงานธุรกิจศูนย์การค้าในเครือสยามพิวรรธน์

MANGU E-Magazine Cover Story Issue 207 (1st May 2021) ไมค์ ภัทรเดช สงวนความดี และ มุกดา นรินทร์รักษ์ คู่พระนางสุดฮอตจากช่อง 7 HD จากละครคู่แค้นแสนรัก