Interview

ManGu Magazine คอลัมน์ Star ปกนี้ (15th June 2021) ขอแนะนำให้รู้จักสองหนุ่มจากซีรีส์วายชื่อดัง EN of Love ที่แม้จะมาจากคนละตอน คือ เหนือพระราม กับ วิศวะมีเกียร์น่ะเมียหมอ แต่พวกเขาก็ได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งใน MV เพลง 'ใยห่วง (why) care'

ManGu Magazine ก็ไม่พลาดพาพวกเขามาถ่ายแบบเท่ ๆ พร้อมบทสัมภาษณ์ที่แฟน ๆ ทุกคนเฝ้ารอ

แนะนำตัว พร้อมประวัติการศึกษาคร่าว ๆ หน่อยค่ะ

เบ้นซ์ :  ชื่อ ณัฐพงศ์ ผาทอง (Natthapong Pathong) ครับ ชื่อเล่น เบ้นซ์ ครับ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะสังคมศาสตร์ สาขาสังคมวิทยาเพื่อการพัฒนา เอกการพัฒนาชุมชนเมือง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปัจจุบันกำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโท คณะนิเทศศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยครับ

โฟล์ค : โฟล์ค ฐิติพัฒณ์ จันทร์แก้ว (Thitiphat Chankaew) กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิชา Brand Communication ขึ้นปีที่ 4 แล้วครับ ก่อนหน้านั้นเรียนที่เชียงใหม่ ที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ครับ

อยากให้เล่าถึงจุดเริ่มต้นในการเข้าสู่วงการบันเทิงหน่อยค่ะ

เบ้นซ์ : จุดเริ่มต้นของเบ้นซ์ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 6 ปีที่แล้วเลยครับ เริ่มต้นจากการเข้ามาประกวด Smart Boy ของช่อง 7 ครับ เป็นรายการเกี่ยวกับการเดินแบบ ปีนั้นผมได้รับคัดเลือกเข้ารอบ 12 คนสุดท้าย ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นของวงการบันเทิง ช่วงมัธยมปลายก็เข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัดที่จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ (G-Vocal) 1 ปีครับ ช่วงมหาวิทยาลัยก็ได้เล่นซีรีส์ EN of Love ตอนเหนือพระรามครับ

โฟล์ค : จุดเริ่มต้นเริ่มต้นเลย โฟล์คเริ่มจากการเป็น Extra โฆษณาธนาคารกสิกรไทยครับ หลังจากนั้นก็ได้มาเป็นนักแสดงละครเวทีที่เชียงใหม่ ช่วง ม.1 - ม.6 ต่อจากนั้นก็มีแคสซีรีส์กับโฆษณามาเรื่อย ๆ ได้เป็น Extra ซีรีส์ต่าง ๆ บ้าง แล้วพอเข้ามาเรียนที่ต่อที่กรุงเทพฯ ก็ได้มาเล่นซีรีส์ EN of Love ตอน วิศวะมีเกียร์น่ะเมียหมอ ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นการเข้าสู่วงการบันเทิงของโฟล์คครับ

สำหรับ "เบ้นซ์" ผลงานที่ทำให้แฟน ๆ รู้จักเรามากยิ่งขึ้น คือ "EN of Love ตอน เหนือพระราม" ใช่ไหมคะ เราได้รับประสบการณ์อะไรจากการถ่ายทำซีรีส์เรื่องนี้บ้างคะ

เบ้นซ์ : ใช่ครับ ได้รับประสบการณ์มากมายเลยครับจากที่ได้มาเล่นซีรีส์เรื่องนี้ เพราะช่วงที่เล่นเหนือพระรามเนี่ยเป็นช่วงที่โควิดระบาดมาก ๆ เลย ทำให้เราต้องทำงานแข่งกับเวลาด้วย ซึ่งเหนือพระรามมีคิวถ่าย 2 วัน  ต้องถ่ายให้เสร็จ และเป็นช่วงเคอร์ฟิวด้วย  ประสบการณ์ที่ได้มาก ๆ เลยคือการจัดการเวลาที่ดี และการเตรียมตัวในส่วนของคาแรคเตอร์และบทบาทที่ได้รับ เพราะเบ้นซ์เล่นเป็นบทแฝดด้วย เลยต้องเตรียมตัวอย่างดีเวลาไปอยู่หน้า set จะได้ทำทุกอย่างให้ออกมาดีและสมบูรณ์ที่สุด และยังได้ประสบการณ์ในเรื่องไหวพริบที่จะต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ในกองถ่าย ณ เวลานั้น ๆ ด้วย

สำหรับ "โฟล์ค" ผลงานที่ทำให้แฟน ๆ รู้จักเรามากยิ่งขึ้น คือ "EN of Love ตอน วิศวะมีเกียร์น่ะเมียหมอ" ใช่ไหมคะ เราได้รับประสบการณ์อะไรจากการถ่ายทำซีรีส์เรื่องนี้บ้างคะ

โฟล์ค : หลัก ๆ ก็คือ ทำให้โฟล์คได้รู้จักเพื่อน ๆ นักแสดง ได้รู้จักพี่ ๆ ทีมงานในกองถ่าย  คุณครูสอนการแสดง  ทำให้เราได้เจอกับสังคมที่กว้างมากขึ้น ได้รับโอกาสมากมายจากบุคคลเหล่านั้น  และที่สำคัญคือโฟล์คได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ได้ทำในสิ่งที่เราใฝ่ฝันอยากจะทำ

ปกติแล้วทั้งสองคนเล่นโซเชียลมีเดียจีนอะไรบ้างคะ หรือมีวิธีไหนในการติดต่อพูดคุยกับแฟนคลับชาวจีนคะ

เบ้นซ์ : หลัก ๆ ของเบ้นซ์คือ Douyin เลยครับ เบ้นซ์พยายามอัพโหลดวิดีโอน่ารัก ๆ ไว้ใน Douyin ครับ  นอกจากนี้ก็ยังมีแฟน ๆ ชาวจีน ส่ง direct message มาหา ไม่ว่าจะเป็น IG หรือ Twitter แฟน ๆ ชาวจีนก็ให้การสนับสนุนเราที่ดีมาก ๆ ก็ดีใจมาก ๆ ครับ

โฟล์ค : โฟล์คเริ่มเห็นแฟน ๆ จีนเข้ามาติดตามทาง Tiktok กับ Douyin ของโฟล์คมากขึ้นครับ เพราะโฟล์คก็เพิ่งเริ่มเล่นด้วย จริง ๆ Douyin น่าจะเป็นช่องทางที่จะทำให้โฟล์คได้สื่อสารกับแฟนคลับชาวจีนมากขึ้นครับ  เพราะเป็นแอปพลิเคชันที่แฟน ๆ จีนกำลังนิยมด้วย

ทราบมาว่าตอนนี้ทั้งสองคนได้เล่น Douyin หรือ Tiktok จีนแล้ว เป็นอย่างไรบ้างคะ ถือว่าเป็นการย่นระยะทางระหว่างตัวเรากับแฟนคลับจีนไหมคะ

เบ้นซ์ : ย่นระยะทางครับ อย่างที่ทุกคนทราบกันว่าช่วงนี้เป็นช่วงของสถานการณ์โควิดระบาด  ทำให้เราไม่สามารถไปต่างประเทศได้ ก็มี Douyin นี่แหละ ที่เราสามารถทำคอนเทนต์ ทำให้แฟน ๆ ที่จีนได้เห็น Benzalert อัพเดทคลิปใน Douyin นะ มีคลิปน่ารักๆ คลิปเท่ ๆ หรือคลิปที่กำลังเป็นกระแสในตอนนั้น  ก็คือว่าเป็นการย่นระยะทางที่ดีมาก ๆ

โฟล์ค : ถือเป็นการย่นระยะทางมาก ๆ เลยครับ เพราะบางทีเราไม่รู้ว่าแฟน ๆ จีน เค้าเล่นแอพไหนกัน เพราะในประเทศจีนบางแอพก็เล่นไม่ได้ โฟล์ครู้สึกมีความสุขมากครับที่ทำให้เรามีฐานแฟนคลับที่กว้างมากขึ้น ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย ยังมีแฟนคลับจากหลาย ๆ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ประเทศจีน  ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และประเทศอื่น ๆ ด้วย

ปกติถ้าเล่น Douyin หรือ Tiktok จีน จะชอบอัดคลิปแนวไหนคะ

เบ้นซ์ : คลิปที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในตอนนั้นเลยครับ ก็ทั้งเต้น ตลก น่ารัก หลายแนวเลยครับ ก็แปลกใหม่สำหรับเบ้นซ์ด้วย

โฟล์ค : ชอบอัดคลิปตลก ๆ ทำท่าแปลก ๆ แกล้งคน คลิปที่กำลังเป็นไวรัลอยู่ เพราะคิดว่าคลิปเหล่านั้นทำให้คนดูไม่เครียดครับ

ผลงานเพลง 'ใยห่วง (why) care' อยากให้ "เบ้นซ์" พูดถึงเพลงนี้หน่อยค่ะ เห็นว่า "โฟล์ค" ได้มาเล่น MV เพลงนี้ด้วย ร่วมงานกันแล้ว เป็นอย่างไรบ้างคะ

เบ้นซ์  : ก่อนอื่นเราต้องเท้าความไปก่อนว่ามันเป็นโปรเจ็คพิเศษที่ได้ร่วมงานกับ Do Concert ซึ่งเบ้นซ์ได้ร่วมงานกับคนเยอะมาก ตั้งแต่พี่แมค ศรันย์ ที่มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ มีพี่หนึ่ง ETC มาแต่งเนื้อร้องร่วมกับพี่แมคด้วย  มีพี่ Jack Raider ดีเจและพิธีกรชื่อดังมากำกับเอ็มวีเพลงนี้ให้ด้วย  ซึ่งเพลงนี้มีความหมายเกี่ยวกับความคิดถึง ความห่วงใย  ถึงแม้ตัวเราจะอยู่ไกลกันแต่เราก็ยังส่งความคิดถึงหากัน นึกถึงใครไม่ออก ก็เลยนึกถึงน้องชายใกล้ตัวของเรา ซึ่งก็คือ Folktagram ครับ ให้มาเล่นเอ็มวีให้ Benzalert หน่อย  ทำให้ได้ร่วมงานกันอย่างเฮฮา  เรารู้จักกันอยู่แล้ว ก็รู้สึก Relax รู้สึกสนุกสนานที่เราได้ร่วมงานกันครับ

โฟล์ค : รู้สึกดีนะครับ เพราะเป็น MV แรกของโฟล์คด้วย  และได้เล่น MV เพลงของพี่เบ้นซ์ที่สนิทกันอยู่แล้วก็ยิ่งตื่นเต้น และก็ต้องขอบคุณพี่เบ้นซ์ด้วยที่ชวนโฟล์คมาเล่นเอ็มวีเพลงนี้ ตอนแรกไม่คิดว่าการเล่น MV จะยากขนาดนี้ เพราะเวลาเล่นซีรีส์จะมีบท แต่เวลาเล่น MV คือ เราเล่นไปตามอารมณ์ ตามคำพูดของเพลงในท่อนนั้น ๆ ก็รู้สึกตื่นเต้น และเป็นประสบการณ์ที่ดีครับ

อยากให้ช่วยแชร์อะไรสนุก ๆ ในกองถ่ายหน่อยค่ะ

เบ้นซ์  : โห...มากมายเลยครับ  เล่นกันบ้าง  แอบนอนกันบ้าง เพราะว่านัดกองเช้ามาก  ทั้งผู้กำกับชวนเล่นมุกบ้าง  โบ๊ะบ๊ะกันสุด ๆ  แต่ก็ยังต้องทำงานแข่งกับเวลา  ในกองมีแต่คนที่สนิทกันอยู่แล้ว ก็เฮฮาปาจิงโกะกันไปครับ

โฟล์ค  : ในกองถ่าย MV นะครับ ทีมงานทุกคนดูแลโฟล์คดีมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหารการกิน แถมพี่ Jack Raider ผู้กำกับ MV ยังเปิดโอกาสให้โฟล์คได้แนะนำเทคนิคการแสดง หรือเรื่องมุมกล้องให้กับเพื่อน ๆ ด้วย 

ถ้าทั้งสองคนมีโอกาสได้ไปเล่นละครที่ประเทศจีน คิดว่าบทบาทแนวไหนที่จะท้าทายตัวเองคะ

เบ้นซ์ : ผมคิดว่าอยากเล่น Action ผสม Comedy มีทั้งความเท่ในตัว แต่ก็ยังตลกด้วย  ท้าทาย Benzalert มาก  แต่จริง ๆ บทไหนก็อยากเล่นหมดครับ ถ้าได้มีโอกาสไปเล่นละครที่จีนครับ
โฟล์ค : ถ้าได้มีโอกาสไปเล่นละครที่ประเทศจีน โฟล์คอยากเล่นบทตัวร้ายครับ ร้ายแบบตอนแรกไม่ได้ร้าย แต่มาพลิกร้ายตอนหลัง  และหน้าตาโฟล์คก็น่าจะเหมาะกับบทร้ายอยู่นะ (หัวเราะ)

ทั้งสองคนเป็นเพื่อนสนิทกัน ย้อนกลับไปตอนนั้นรู้จักกันได้ยังไงคะ ความรู้สึกแรกที่เจอคิดว่าอีกฝ่ายเป็นคนยังไง

เบ้นซ์ : เจอกันตอนถ่ายโปสเตอร์ EN of Love ครับ  จากที่เห็นครั้งแรกน้องโฟล์คเป็นคนนิ่ง ๆ หน่อย ไม่ได้เป็นคนตลกมากนัก  แต่พอรู้จักจริง ๆ คือจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยครับ  น้องเป็นคนเฮฮา หลุดโลก อยู่ไม่นิ่ง  ขัดกับคาแรคเตอร์ที่เรามองภาพไว้กับตอนแรกที่เจอ

โฟล์ค : เจอพี่เบ้นซ์ครั้งแรกคือวันถ่ายโปสเตอร์ ก็รู้สึกว่า เอ๊ะ..พี่คนนี้มีออร่าจัง ตัวสูง (กว่าโฟล์ค) ยังไม่คิดว่าพี่คนนี้จะมาเล่นซีรีส์เรื่องเดียวกัน คิดว่าเป็นคนอื่น เป็นคนในทีมอะไรแบบนี้ พอพี่เบ้นซ์มาแนะนำตัวก็...อ๋อ...พี่คนนี้เองที่จะมาเล่นเป็นพระราม พี่เบ้นซ์เป็นคนดีนะครับ เข้ากันง่าย  พอรู้ว่าเป็นคนเหนือด้วยกัน ก็สนิทกันตั้งแต่วันแรกเลย

ตอนนี้ก็สนิทกันมาก ๆ มีอะไรที่ประทับใจในตัวอีกฝ่ายบ้างคะ

เบ้นซ์ : ผมเชื่อว่าใครอยู่ใกล้โฟล์คจะมีความสุข  โฟล์คจะ take care มอบความสุข มอบเสียงหัวเราะ ให้คนรอบข้าง  เป็นสิ่งที่โฟล์คจะทำให้เราสบายใจ เฮฮาไป

โฟล์ค : ประทับใจที่พี่เบ้นซ์มีความพยายามในการทำอะไรหลาย ๆ อย่าง แบบตั้งใจทำ  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลงานเพลง  การแต่งเพลง  เพราะตั้งแต่รู้จักพี่เบ้นซ์ตั้งแต่เล่นซีรีส์  พี่เบ้นซ์ก็แต่งเพลงเอง  และเพลงพี่เบ้นซ์ก็ยังได้เอาไปประกอบซีรีส์ด้วย ก็รู้สึกว่าพี่เบ้นซ์เจ๋งมาก

และทั้งสองคนคิดว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ของความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนคะ

เบ้นซ์ : น่าจะเป็นการให้พื้นที่ซึ่งกันและกัน โฟล์คเป็นคนที่รับฟังทุกปัญหาของเรา  แต่ก็ยังเว้นพื้นที่ส่วนตัวให้เราด้วย ในส่วนนี้เบ้นซ์รู้สึกว่าโฟล์คเป็นเหมือนน้องชายจริง ๆ ที่รับฟังทุกปัญหาของเราครับ

โฟล์ค : โฟล์คคิดว่าเป็นความเชื่อใจกันครับ เพราะถ้าเราเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก ก็จะต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างที่เราต้องคอยปรึกษา  ซึ่งต้องเป็นคนที่เราไว้ใจจริง ๆ เลยคิดว่าความเชื่อใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน

ที่ประเทศจีน เดือนพฤษภาคมนับได้ว่าเป็นเดือนที่เต็มไปด้วยความรัก ไม่ว่าจะเป็น วันแม่ หรือ 520 วันแห่งการบอกรัก ทั้งสองคนนิยามความหมายคำว่ารักอย่างไรบ้างคะ

เบ้นซ์ : รัก เป็นคำสั้น ๆ ที่มีความรู้สึกที่ดี และหลากหลาย ผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีพร้อมทุกอย่างในคำว่ารัก แค่ต้องการคนที่พร้อมที่จะอยู่ข้าง ๆ เราไปในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเจอทั้งความสุข เจอทั้งความทุกข์ และจับมือไปด้วยกันระหว่างทาง ผมว่าเป็นความสุขในความรักที่ดีเลย (ยิ้ม)

โฟล์ค : นิยามความรักของโฟล์ค  ความรัก คือ "การให้" ครับ ให้ทั้งความรักและให้ความอบอุ่น  ให้ในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ ให้ในสิ่งที่ตัวเองให้ได้ ความรักคือการให้ ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ไม่ว่าจะเป็นให้ครอบครัว ให้เพื่อน ให้พี่ ให้น้อง ให้แฟน ให้ญาติพี่น้อง ให้กับมนุษย์ทุกคนบนโลก

สำหรับทั้งสองคนแล้ว ถ้าเลือกได้จะเลือกคนที่เรารัก หรือเลือกคนที่เขารักเราคะ

เบ้นซ์ : เลือกยากนะครับ  สำหรับผมจะเลือกคนที่เรารักครับ  เพราะแค่เราได้รักเขา  เราก็มีความสุขแล้ว
โฟล์ค : ถ้าเลือกได้ขอเลือกคนที่เรารักครับ เพราะคนที่เรารักก็จะมาจากคนที่รักเรานั่นแหละ เราก็เลยรู้สึกรักเขา

ถ้าให้เราลองให้คะแนนครึ่งปีแรกเราจะให้กี่คะแนนคะ พอใจไหม เพราะอะไรคะ

เบ้นซ์ : ก็พอใจในระดับหนึ่งครับ  ที่พอใจก็คือในส่วนของการเรียนที่ตัวเองเรียนจบแล้ว  ในส่วนของการทำงานยังไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ครับ เพราะรู้สึกว่าตัวเองยังทำงานได้ไม่เต็มที่ เพราะสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด  ไม่ได้เจอแฟนคลับเลย ไม่ได้ทำงานเลย อยู่บ้านเลี้ยงน้องหมา  ทำอาหาร งั้นให้ 50/100 ละกันครับ  ครึ่ง-ครึ่ง

โฟล์ค : ครึ่งปีแรกให้คะแนน 60/100 เพราะคิดว่าถ้าไม่มีโควิด19 เลยทำให้ไม่ได้ทำอย่างตามที่แพลนไว้

และในครึ่งปีหลังเรามีแผนที่จะทำอะไรบ้างคะ จะมีผลงานอะไรใหม่ ให้แฟน ๆ ติดตามกันบ้างคะ

เบ้นซ์ : ที่แน่นอนเลย จะมีซีรีส์เรื่องใหม่ครับ “ทฤษฎีรัก” The Theory Series อยากให้ทุกคนติดตามเลยว่าเบ้นซ์จะได้เล่นบทบาทอะไร  ส่วนเรื่องของเพลง หรือ Vlog ในช่องของ Benzalert Official ทุกคนจะได้ฟังเพลงโคฟเวอร์ทุกวันอาทิตย์แน่นอน  ใน Vlog รายการ “อร่อยกับ Alert” “ALoveAlertTalk” มีแน่นอน  ให้ทุก ๆ คนได้ดูเพื่อให้หายคิดถึงกัน

โฟล์ค : อยากทำอะไรมากมายเลยครับ  อยากไปเที่ยวต่างประเทศแต่ไม่รู้จะไปได้เมื่อไร อยากมี Single เป็นของตัวเอง ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ในระหว่างการพูดคุยเตรียมงานต่าง ๆ ส่วนซีรีส์หรือละครก็ขอให้รอติดตามครับ

สุดท้ายนี้มีอะไรที่อยากจะบอกกับแฟนคลับชาวจีนบ้างไหมคะ

เบ้นซ์ : อยากจะบอกว่าถึงเราจะไม่ได้เจอกัน อยากให้ทุกคนรักษาสุขภาพตัวเองด้วย  ถ้าวันไหนที่สถานการณ์ดีขึ้นเราได้เจอกัน ผมอยากไปประเทศจีนมาก ๆ อยากไปเจอแฟนคลับชาวจีนตัวเป็น ๆ อยากจะไปมอบความสุข  มอบความสนุกให้แฟน ๆ ชาวจีนได้รู้สึกว่า นี่แหละคือ Benzalert นี่แหละคือความรักที่อยากจะมามอบให้กับคนที่มอบความรักให้ผม ถ้าทุกอย่างดีขึ้นเดี๋ยวเราเจอกันนะครับแฟน ๆ ชาวจีน

โฟล์ค : ขอบคุณที่คอยติดตามและสนับสนุนโฟล์คมาตลอดนะครับ แฟน ๆ ชาวจีนน่ารักกับโฟล์คมาก ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีแฟนจีนบินมาตามที่กองซีรีส์ด้วย  แฟน ๆ ชาวจีนเป็นคนทุ่มเทกับศิลปินหรือคนที่ตัวเองรักมาก ๆ ถ้ามีโอกาสนะครับ ประเทศจีนก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่โฟล์คอยากจะไปมาก ๆ เพราะตอนโฟล์ค เรียนมัธยมก็เรียนศิลป์-จีนมา ก็พอมีพื้นฐานภาษาจีนอยู่บ้าง คิดว่าประเทศจีนเป็นประเทศที่น่าท่องเที่ยวมาก ๆ และคนจีนก็น่ารักมาก หากสถานการณ์ดีขึ้นก็อยากไปประเทศจีน อยากมีงานที่ประเทศจีนให้ทุกคนได้ติดตามครับ

Thanks

Benz Natthapong Pathong & Folk Thitiphat Chankaew
เบ้นซ์ ณัฐพงศ์ ผาทอง & โฟล์ค ฐิติพัฒณ์ จันทร์แก้ว
 
Benz
IG : @bbenzalert
Twitter : @Benzalert_np
YouTube : BENZALERT OFFICIAL
Douyin : bbenzalert
 
Folk
IG : @folktagram
Twitter : @folktagram1
YouTube : Folktagram Official
Douyin : folktagram
 
Costume: @karllagerfeld (KARL LAGERFELD)
 
Special thanks : Do Concert Co.,Ltd
 
Photographer : Thanravee Khamthuen @iamjames_tk
Graphic Designer : Satamed Kunawattana @Pdillustrator
Coordinator / Interviews : Kawinna Penkul @kawintoon

Column Writer : Nathanich Srijumnong @myselfworth_