news-details

MANGU E-Magazine Cover Story Issue 220 (15th November 2021) สัมภาษณ์ คุณณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ ประธานบริษัท ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (TOAVH)

สัมภาษณ์คุณณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ ประธาน บริษัท ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (TOAVH)

บริษัท ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด หนึ่งในเครือบริษัท ทีโอเอ กรุ๊ป ที่สร้างอาณาจักรอันยิ่งใหญ่และโดดเด่นเป็นอย่างมาก ด้วยธุรกิจอันหลากหลายและมีมากถึง 18 บริษัท ใน 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจสีอุตสาหกรรมและชิ้นส่วนยานยนต์ กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ กลุ่มบริหารจัดการและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มธุรกิจผู้จำหน่ายรถยนต์อย่างเป็นทางการ ทั้งยังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จำหน่ายรถยนต์ Mercedes-Maybach ในประเทศไทย จากบริษัทแม่ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)” โดยมี คุณณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ บุตรชายคนที่ 3 ของคุณประจักษ์ ตั้งคารวคุณ นั่งตำแหน่งหัวเรือใหญ่ ในการขับเคลื่อนธุรกิจดังกล่าวให้ก้าวหน้าสู่ความสำเร็จ

ManGu : ขอให้แนะนำตัวสักเล็กน้อย

คุณอาร์ต ชื่อ ณัฎฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ เป็นประธาน บริษัท ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (TOAVH) จบการศึกษาระดับปริญญาโท Science in Engineering Management University of Southern California ประเทศสหรัฐอเมริกา, ปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังเรียนจบปริญญาตรี ได้เข้าทำงานตำแหน่งวิศวกร ด้านสายการผลิต บริษัท นครไทย สตริปมิล จำกัด เป็นโรงงานเหล็กรีดเย็น ในจังหวัดชลบุรี ซึ่งไม่ใช่ธุรกิจของครอบครัว

 

ManGu : การทำงานในบริษัทที่ไม่ใช่ธุรกิจครอบครัว คุณเป็นคนเลือก หรือทางครอบครัวอยากให้ไปฝึกฝนการทำงาน?

คุณอาร์ต ผมเลือกเอง หลังเรียบจบการศึกษา ผมอยากไปทำงานต่างจังหวัด และได้ปรึกษากับครอบครัว ซึ่งการทำงานที่โรงงานเหล็กรีดเย็น ทำให้ผมเข้าใจถึงสภาพการทำงาน มุมมองความคิดที่แตกต่างออกไป และความต้องการของพนักงานเหล่านั้นอย่างแท้จริง สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผมเข้าใจการบริหารงานมากขึ้น เมื่อขึ้นมานั่งในตำแหน่งเป็นผู้บริหาร

ManGu : อะไรทำให้คุณตัดสินใจลาออกจากงานที่ชลบุรี และกลับมาทำงานใน TOA?

คุณอาร์ต เพราะวิกฤต "ต้มยำกุ้ง" ผมจึงกลับมาช่วยคุณพ่อ คุณอา และพี่ชาย ทำงานที่ TOA และก็สามารถก้าวผ่านวิกฤตินั้นไปได้ด้วยดี หลังจากนั้น ผมไปเรียนต่อระดับปริญญาโท เมื่อเรียนจบจึงกลับมาทำงานใน TOA อีกครั้ง และรับหน้าที่ดูแลในส่วนสายการผลิต บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ และ Resin plant บริษัท ทีโอเอ เคมิคอล ครั้งนี้ ได้เข้ามาสู่บทบาทการบริหารธุรกิจครอบครัวอย่างแท้จริง

 

ManGu : ธุรกิจสีเริ่มต้นในยุคของคุณหรือไม่? คุณวางแผนและบริหารธุรกิจของคุณอย่างไร?

คุณอาร์ต ไม่ใช่ครับ ธุรกิจสีทำมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ ช่วงผมทำงานใน TOA ได้มีโอกาสทำโปรเจ็คบุกเบิกธุรกิจสีที่เวียดนาม ผมเข้าไปทำ ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งโรงงานและบุกเบิกตลาดที่นั่น

ผมอยู่เวียดนาม 2 ปี ทำให้ได้เห็นและเรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย ทั้งชีวิตความเป็นอยู่ และสภาพการทำงาน รวมถึงหลักการและวิธีคิดของพนักงาน ซึ่งผมให้ความสำคัญกับการปลูกฝัง และสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของบริษัทร่วมกัน เมื่อเกิดความรู้สึกแบบนี้ จะทำให้พนักงานทุ่มเทและเต็มใจในการทำงาน ทั้งให้ความร่วมมือในการพัฒนาบริษัท ซึ่งส่งผลดีและเป็นประโยชน์ต่อบริษัทอย่างมาก

ManGu : คุณเริ่มธุรกิจผู้จำหน่ายรถยนต์เมื่อไหร่?

คุณอาร์ต ประมาณ 10 ปีที่แล้ว รัฐบาลออกนโยบายรถคันแรก และเวลานั้นเราเป็นผู้จำหน่ายแบรนด์ Suzuki (บจก.ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย)) เน้นทำตลาดรถอีโคคาร์และรถกระบะขนาดเล็ก ซึ่งได้รับการตอบรับและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 7-8% ปัจจุบัน เรามีโชว์รูมซูซูกิทั้งหมด 3 สาขา คือ ที่ศรีราชา ชลบุรี และพัทยา

จากนั้น เรามีโอกาสเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์แบรนด์ MG (บจก.เอ็มจี เซลล์ (ประเทศไทย)) เราได้ไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถยนต์ MG ในจีน เป็นโรงงานที่มีเทคโนโลยีระดับสูง ประกอบกับ MG มีการเปิดตัวรถยนต์ Smart SUV ที่เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของแบรนด์ ทำให้เราเชื่อมั่นและพร้อมจะเดินหน้าขยายตลาดในไทย โดยทำตัวเลขยอดขายสูงสุดและมีส่วนแบ่งตลาด 14% ทั้งได้รับรางวัลระดับโลก “MG Five Star Award" เป็นรางวัลผู้จำหน่ายยอดเยี่ยมในทุกด้าน ระดับ 5 ดาว ที่งานประชุมผู้จำหน่ายนานาชาติของบริษัทแม่ “SAIC Motor” เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน และได้รับเชิญขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ความสำเร็จในการสร้างยอดขาย MG สูงสุดระดับโลก ปัจจุบัน เรามีโชว์รูมรถยนต์ MG ทั้งหมด 10 สาขา กรุงเทพฯ 3 สาขา ชลบุรี 4 สาขา และอีก 3 สาขา ที่เชียงใหม่

ต่อมา เราได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์รถยนต์หรูระดับโลก ด้วยการขยายการลงทุนเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์ Mercedes-Benz และ Mercedes-AMG (บจก.เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ภายใต้ชื่อ ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ เราได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 15 โชว์รูมต้นแบบระดับโลก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “MAR 2020” และเน้นการดำเนินการตามแนวคิด “ลูกค้าเป็นจุดศูนย์กลาง” (Customer Centric) เพื่อมอบประสบการณ์ระดับพรีเมี่ยม และความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ ล่าสุด เราได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้จำหน่ายรถยนต์ Mercedes- Maybach รถยนต์ระดับ Ultra Luxury ภายใต้ Sub-Brand ของ Mercedes-Benz ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ของผู้จำหน่ายในประเทศไทย ทำให้เราเป็นผู้จำหน่ายแห่งแรกและแห่งเดียวของกรุงเทพฯ ชั้นใน ที่มีผลิตภัณฑ์ครบทุกเซกเมนต์ และการบริการหลังการขายครบวงจร

 

ManGu : ในฐานะผู้จำหน่ายรถยนต์ คุณมีแนวทางการทำตลาดอย่างไร?

คุณอาร์ต ในฐานะผู้จำหน่ายรถยนต์ เราให้ความสำคัญกับการบริการทั้งด้านการขายและบริการหลังการขาย มุ่งเน้นความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก โดยพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง พร้อมบริการครบถ้วนสมบูรณ์แบบในทุกมิติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มความไว้วางใจที่ลูกค้ามีต่อเรามากขึ้น

ManGu : ทำไมคุณจึงสนใจทำธุรกิจผู้จำหน่ายรถยนต์ ที่มีความแตกต่างจากธุรกิจสี?

คุณอาร์ต กลุ่มบริษัท TOAVH เราอยู่ในธุรกิจต้นน้ำ ผลิตสินค้าป้อนให้อุตสาหกรรมรถยนต์ทั้ง OEM และ After market มายาวนานกว่า 30 ปี อาทิ ถุงลมนิรภัย เข็มขัดนิรภัย พวงมาลัยรถยนต์ สีชุบกันสนิมรถยนต์ สีพ่นล้อแม็ก กระดาษทราย เป็นต้น และอุตสาหกรรมรถยนต์ ถือเป็นอุตสาหกรรมหลักของไทย ทำให้เห็นศักยภาพของตลาดกลุ่มนี้ นับเป็นโอกาสดีที่เราขยายธุรกิจทางด้านนี้ เริ่มจากการเข้าสู่ธุรกิจผู้จำหน่ายรถยนต์ เมื่อ 12 ปีที่ผ่านมา ด้วยการเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิ และขยายไปยังแบรนด์ MG กับ Mercedes-Benz ตามลำดับ

 

ManGu : แนวคิดการบริหารงานแบบผู้จำหน่าย กับการจัดการโรงงานแตกต่างกันอย่างไร?

คุณอาร์ต สำหรับการบริหารงานในส่วนของการเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์ และการบริหารงานโรงงาน มีแนวนโยบายเหมือนกัน คือ เรามีผู้บริหารมืออาชีพ เน้นการกระจายอำนาจการบริหารและตัดสินใจให้แก่ผู้บริหารระดับสูงของทุกองค์กร เพื่อความคล่องตัวและรวดเร็วในการดำเนินธุรกิจ โดยมีการกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดความสำเร็จ

ส่วนความแตกต่างของการบริหาร คือ การเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์ จะใช้รูปแบบ B2C เน้นการสร้างแบรนด์ และการทำตลาด เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรงและมุ่งเน้นการสร้างยอดจำหน่าย ขณะที่การบริหารงานแบบโรงงาน จะใช้รูปแบบธุรกิจ B2B เน้นกลุ่มลูกค้าองค์กร ที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งโรงงานเรามีความเชี่ยวชาญการผลิตสินค้าตามมาตรฐาน ในปริมาณและความต้องการของลูกค้า

ManGu : คุณมีเคล็ดลับการบริหารให้บริษัทเติบโตได้อย่างไร

คุณอาร์ต เคล็ดลับการบริหารงาน คือ การมองไปข้างหน้า และไม่หยุดนิ่ง ต้องมองหาโอกาสและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เราจึงได้มีนโยบายการลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่หลากหลาย เพื่อแสวงหาโอกาสใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา มีการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น เวียดนาม เมียนมาร์ มาเลเซีย และกำลังจะขยายธุรกิจไปยังกัมพูชา

 

ManGu : คุณจะใช้นานแค่ไหน ในการเริ่มธุรกิจใหม่?

คุณอาร์ต ระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี ช่วงแรก ผมจะเข้ามาดูแลและบริหารงานด้วยตัวเอง เพื่อเรียนรู้การดำเนินงาน รับรู้ปัญหา และร่วมหาแนวทางการแก้ปัญหา เมื่อธุรกิจสามารถดำเนินการได้อย่างมั่นคง ผมก็จะเริ่มปล่อยมือและมองหาธุรกิจใหม่ๆ ต่อไป

ManGu : การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีผลกระทบต่อธุรกิจของคุณหรือไม่?

คุณอาร์ต เราได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่ไม่รุนแรงเท่ากับธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม เรามองว่า ในวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ ผู้นำต้องมีวิสัยทัศน์ทางธุรกิจ มองการณ์ไกล และพร้อมรับมือกับวิกฤตต่าง ๆ ซึ่งช่วงโควิด-19 ระบาด เราได้มีการบริหารการจัดการด้านการผลิต การสต็อกสินค้า และการขนส่ง เพื่อรองรับกับการดำเนินธุรกิจของคู่ค้า ที่สำคัญเราเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร โดยจัดซื้อและฉีดวัคซีนให้แก่พนักงานทุกคน มีการบริหารจัดการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ ตามนโยบายของรัฐ ทำให้ธุรกิจดำเนินได้อย่างต่อเนื่อง ช่วงที่มีการล็อคดาวน์

ด้านธุรกิจผู้จำหน่ายรถยนต์ เรามีการปรับตัวด้วยการนำกลยุทธ์ O2O (Online to Offline Strategy) ผ่านการสื่อสารแบบ Digital Media เพื่อกระตุ้นให้เกิดการรับรู้และเข้ารับบริการต่างๆ ภายในโชว์รูมและศูนย์บริการ พร้อมกันนี้ ยังมีบริการรูปแบบใหม่ๆ อาทิ บริการรับ-ส่งรถเข้าศูนย์บริการ, บริการรถยนต์ทดลองขับที่บ้าน หรือบริการส่งมอบรถถึงบ้าน เพื่ออำนวยความสะดวกสบายและสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าในช่วงสถานการณ์โควิด

 

ManGu : คุณคิดว่า ขณะนี้ มีธุรกิจส่วนใดที่มีศักยภาพในการพัฒนาได้อีก?

คุณอาร์ต เรายังพัฒนาและขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ผมมองว่า ทุกอย่าง คือ โอกาส และบางครั้งวิกฤต ก็เป็นจุดเปลี่ยน หรือเป็นโอกาส ได้เช่นกัน ผมให้คุณค่ากับอุตสาหกรรมใหม่ๆ เพราะโลกปัจจุบัน เราจำเป็นต้องลองสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ซึ่งผมเป็นคนชอบความท้าทายด้วย

 

ManGu : การเติบโตในครอบครัวที่มีเชื้อสายจีน คุณได้นำวัฒนธรรมจีนมาใช้สำหรับการบริหารงานบริษัทอย่างไร

คุณอาร์ต : ผมมองว่า คนจีนให้ความสำคัญกับคุณค่าของความกตัญญู และความพากเพียร ซึ่งผมนำมาใช้ในการบริหารงาน นั่นคือ ความพากเพียรและการไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคต่าง ๆ

ManGu : คุณเคยศึกษาวัฒนธรรมจีนบ้างหรือไม่?

คุณอาร์ต : ผมชอบอ่านนิยานจีน เพราะได้เรียนรู้วัฒนธรรม และกลยุทธ์การวางแผน รวมทั้งปรัชญาในการใช้ชีวิต ทำให้ได้ประโยชน์สำหรับการบริหารเป็นอย่างมาก

 

ManGu : ปกติคุณมีงานอดิเรกอะไรหรือเปล่า?

คุณอาร์ต : ปกติผมชอบวิ่งออกกำลังกาย และตีกอล์ฟ ส่วนใหญ่จะออกรอบกับคู่ค้า หรือเพื่อนๆ ในวันหยุด ส่วนวิ่งออกกำลังกาย ผมชอบไปร่วมกิจกรรมงานวิ่ง ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ได้เที่ยวสถานที่ต่างๆ และเรียนรู้ขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่นเดียวกับเราเดินทางไปต่างประเทศ ก็สามารถเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศนั้น ๆ ด้วยเช่นกัน

ManGu : สุดท้ายนี้อยากฝากอะไรถึงผู้อ่านชาวจีน?

คุณอาร์ต : ปัจจุบัน การค้าของจีนมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และเป็นผู้นำอันดับต้นๆ ในหลายธุรกิจ ปัจจุบัน นักธุรกิจจีนเข้ามาลงทุนทำธุรกิจในไทยมากขึ้น และเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่คนไทยก็ให้การยอมรับว่า สินค้าจีนมีคุณภาพมากขึ้น ทำให้มีโอกาสการขยายธุรกิจเพิ่มขึ้น สามารถทำตลาดในประเทศ และเป็นฐานส่งออกสำหรับประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น ผมจึงอยากเชิญชวนให้คนจีนเข้ามาทำธุรกิจ หรือเข้ามาท่องเที่ยวในไทย มีสถานที่ท่องเที่ยวและอาหารไทย ซึ่งน่าจะเป็นที่ชื่นชอบของคนจีน

You can share this post!

MANGU E-Magazine Cover Story Issue 221 (1st December 2021) สัมภาษณ์ คุณสุวิมล อัศรัสกร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด นิคมอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี

MANGU E-Magazine Cover Story Issue 219 (1st November 2021) สัมภาษณ์ คุณจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท  และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group