ค่าย Warner Music เป็นหนึ่งในสามบริษัทค่ายเพลงที่ใหญ่ที่สุดของโลกในทศวรรษที่ 21 ศิลปินที่อยู่ในค่ายล้วนมีพรสรรค์ และความสามารถที่เต็มเปี่ยม หนึ่งในนั้นคือ Jeff Satur ศิลปินจาก Wayfer Records ภายใต้สังกัดค่าย Warner Music Thailand ศิลปินที่โดดเด่นทั้งด้านดนตรี และการแสดง
ก่อนหน้านี้ผลงานเพลงของเขาก็ฮิตติดกระแส และได้รับความนิยมที่ดีมากๆ อย่างเช่นเพลง คิดถึงเธอแทบจะตายแล้ว , เวลานี้ เป็นต้น ในปี 2564 เขายังได้รับบทบาทจากซีรีส์มาเฟียสุดท้าทาย “KinnPorsche The Series” โดยในปลายปี 2564 เขาได้ออกซิงเกิ้ลใหม่ อย่างเพลง “Highway” ซึ่งเป็นเพลงสไตล์ 80 บวกกับแนว R&B โดยเพลงจะเล่าถึงคนสองที่พบเจอกัน แต่ในบางทีก็อาจจะมีปัญหา และอุปสรรคเหล่านี้ก็เปรียบเสมือนกับก้อนหินที่ขวางทางอยู่ ถ้าไม่เอาก้อนหินก้อนนี้ออก เราก็จะไม่สามารถข้ามผ่านมันไปได้.....
นิตยสาร @ManGu ฉบับนี้จะขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักนักร้องที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพทั้งการร้องเพลงและ การแสดง Jeff Satur จาก Wayfer Records ภายใต้สังกัดค่าย Warner Music Thailand
ManGu : แนะนำตัวพร้อมประวัติการศึกษาคร่าวๆ หน่อยค่ะ
Jeff Satur : สวัสดีครับผม Jeff Satur ครับ จากค่าย Wayfer Records ภายใต้สังกัด Warner Music Thailand จบปริญญาตรี สาขาการเงินการลงทุนครับ
ManGu : ช่วยเล่าถึงจุดเริ่มต้นในการเข้าสู่วงการบันเทิง และวงการเพลงให้แฟนๆ ฟังหน่อยค่ะ
Jeff Satur : วงการเพลงผมเริ่มตั้งแต่ ม.ปลาย คือก่อนหน้านี้ผมได้เล่นดนตรีแนวร็อคกับเพื่อนๆ มานานแล้ว แต่ว่าหลังจากนั้นเพื่อนก็แยกย้ายกันไป แล้วมีเพื่อนชวนไปประกวดในรายการ “Masterkey เวทีแจ้งเกิด” เพื่อนผมตกรอบ แต่ผมได้เข้ารอบไปจนถึงรอบออกอากาศทางทีวี ซึ่งในขณะนั้นก็มีรายการ “The Voice” มาพอดี ผมก็ไปประกวดเหมือนกัน ผมเลยไปเจอพี่จูน ที่เป็นแคสติ้งเพลง ซึ่งตอนนั้นเขากำลังจะมีโปรเจคที่ชื่อว่า Demo Project ซึ่งเป็นโปรเจคหานักร้องหลายคนที่ร้องแนว Acoustic Pop ซึ่งตอนนั้นแคสติ้งค่อนข้างนาน จนสุดท้ายก็เป็นหนึ่งในนักร้อง Demo Project และนี่คือจุดเริ่มต้นของผมครับ
ManGu : อะไรคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ “เจฟ ซาเตอร์” ได้ร่วมงานกับค่ายเพลง “Wayfer Records” ภายใต้สังกัด “Warner Music Thailand”
Jeff Satur : จริงๆ เราชอบฟังเพลงของ Warner Music อยู่แล้วครับ เช่น Ed Sheeran แล้วเรารู้สึกว่าอยากกลับมาทำเพลงแบบศิลปินเต็มตัวครับ เพราะก่อนหน้านี้ได้ทำเพลงละครหรือเล่นซีรีส์มาเยอะมาก แต่ยังไม่มีโอกาสได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ เราเลยคิดว่าถ้างั้นลองมาคุยกับค่ายที่ตัวเองชอบฟังเพลงมากที่สุดหน่อย ว่าเขาจะมีไอเดียยังไง พอเข้ามาคุยทุกคนมีความเป็นศิลปินกันหมดเราชอบมากๆ เลยได้มาร่วมงานกันครับ
ManGu : ซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุดเพลง “Highway” มีแรงบัลดาลใจมาจากอะไรคะ
Jeff Satur : ก่อนหน้านี้เราทำเพลงมาเยอะมาก เช่น “ไม่กล้าบอกชัด” “ไม่หายไป” ผมรู้สึกว่าเพลงที่ทำมาคล้ายกัน หมด Passion หมดไฟ ก็เลยตัดสินใจไม่ทำแล้ว ก็เลยหายไปไม่ทำเพลงเลย ไม่เล่นซีรีส์เลย พอช่วงที่หายไปมันก้าวมาจากเจฟคนเก่าเป็นเจฟคนใหม่ มันคือความกล้าที่จะทิ้งสิ่งเดิมๆ แล้วมาเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ ของ Jeff Satur ในวันนี้ครับ นี่คือแรงบัลดาลใจในการทำเพลงนี้เลยครับ
ManGu : เห็นว่าเจฟลงมือทำเองแทบจะทุกขั้นตอนเลย อยากให้ช่วยเล่าตรงนี้ให้แฟนๆ ฟังหน่อยค่ะ
ManGu : ถ้าให้เลือกหนึ่งประโยคที่ชอบมากที่สุดในเพลง “Highway” จะเลือกเป็นประโยคไหนคะ
Jeff Satur : ผมชอบคำว่า “ถ้าไม่ move เธอ ก็ไม่ move on” คือมันค่อนข้าง Present ความเป็นตัวเรา ถ้ามีหินอยู่ตรงหน้าเรา ถ้าเราไม่ Move มันก็ไปต่อไม่ได้ มันอาจจะไม่ได้เล่าถึงความสัมพันธ์ของแฟนเก่า แต่มันอาจจะเล่าถึงความทรงจำแย่ๆ ที่มันเกิดมาช่วงโควิดก็ได้ ถ้าเราไม่ผ่านมันไปซักที มันก็จะไม่ผ่านไป
ManGu : นอกจากนี้มีแนวเพลงแบบไหนที่อยากลองทำอีกบ้างคะ
Jeff Satur : จริงๆ หลังจากนี้ผมจะทำเพลงที่อยากทำมาตลอดๆ คือจะเป็นหลายๆ แนวเลยครับ เพราะศิลปินหลายคนในหนึ่งอัลบั้มก็จะทำเพลงหลายๆ แนว ผมรู้สึกว่ามัน make sense เพราะคนๆ หนึ่งก็ไม่ได้มีอารมณ์เดียวตลอดชีวิต เราไม่ได้ฟังเพลงแนวเดียวตลอดชีวิต แต่ความเป็น Jeff Satur ก็ยังคงอยู่
ManGu : เจฟเองก็เคยผ่านมาแล้วทั้งการทำเพลง และการแสดง อยากทราบว่าระหว่างการ ร้องเพลง vs การแสดง อะไรที่คิดว่ายาก และชอบอะไรมากกว่ากันคะ
Jeff Satur : จริงๆ ผมคิดว่าทั้งสองยากคนละแบบครับ อย่างเรื่องการแสดง ตอนถ่ายทำมีคนมากมายจับจ้องเราอยู่ เราต้องมีสมาธิกับการแสดง แต่ถ้าสำหรับการร้องเพลง เราอยู่ในห้องอัด เราอยู่กับตัวเอง และสำหรับการแสดงมันเข้าถึงอารมณ์ง่ายกว่าเพราะเราเป็นตัวละคร แต่การร้องเพลง เราต้องเลือกความทรงจำเก่าๆ กลับมาใช้แล้วบางทีมันเฉามาก ผมคิดว่าบางอย่างมันเชื่อมกันหมด ถ้าถามว่าชอบอะไรมากกว่ากัน ผมชอบทั้งคู่ครับ
ManGu : เมื่อไม่นานนี้เห็นพึ่งเปิดตัวซีรีส์ “KinnPorsche The Series” ใช่ไหมคะ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรคะ อยากให้เล่าคร่าวๆ หน่อยค่ะ
Jeff Satur : เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับตระกูลมาเฟียหนึ่ง ที่เป็นตระกูลที่ค่อนข้างใหญ่มีทั้งตระกูลหลักและตระกูลรอง ซึ่งทั้งสองตระกูลเกิดความขัดแย้งกัน ซึ่งเรื่องนี้จะเน้นที่เส้นเรื่องของมาเฟีย แล้วความรักเป็นส่วนประกอบ ซึ่งความมาเฟียต้องถึงจริง เช่นยิงต้องยิงจริง หักหลังก็ต้องหักหลังจริง มันจะไม่มีความเล่นไม่จริง เพราะทุกอย่างสมจริงมากครับ
ManGu : เรื่องนี้เจฟรับบทเป็นใคร คาแรคเตอร์เป็นยังไงบ้างคะ
Jeff Satur : ผมรับบทเป็น “คิม คิมหันต์” เป็นน้องชายของคินน์ คือในตระกูลมี 3 คนเป็นพี่น้องกันคือ แทนคุณ คินน์ และคิม ซึ่งคิมจะเป็นน้องเล็กสุด ไม่ค่อยถูกกับที่บ้าน ซึ่งจะเป็นตัวแทนของวัยรุ่นสมัยนี้ที่ถูกสปอย แล้วมีความฝันของตัวเองที่อยากจะทำให้มันได้ แต่ในพาร์ทหนึ่งก็จะอยู่กับกฎเกณฑ์ของครอบครัวครับ
ManGu : ส่วนตัวเจฟมีไอดอลที่ชื่นชอบไหม หรือว่าอยากร่วมงานกับใครไหมคะ
Jeff Satur : ถ้าไอดอลทางการแสดง ผมอยากทำงานกับ Travis Fimmel ที่เล่นเรื่อง vikings ในบท Ragnar Lothbrok เป็นนักแสดงที่เราชอบมากๆ เราดูเรื่องนี้หลายรอบเพราะอยากดูการแสดงของเขา ส่วนด้านนักร้องอยากทำงานร่วมกับ Billie Eilish รู้สึกว่าเขาเป็นสร้างแรงบัลดาลใจมากในเรื่องการเป็นตัวเอง ทำให้เรากล้าในการทำเพลงสไตล์ตัวเองมากขึ้น แล้วเขาทำเพลงหลายแนวมากในหนึ่งอัลบั้มแต่มันยังมีความเป็นเขาอยู่
ManGu : มาพูดถึงไลฟ์สไตล์กิจกรรมยามว่างของเราบ้าง มีกิจกรรมอะไรที่ชอบทำเป็นพิเศษไหมคะ
Jeff Satur : นอกจากดูหนัง ฟังเพลง อ่านการ์ตูน ผมชอบดูบาสเก็ตบอล ชอบงานเขียน เขียนงาน ชอบงานวางพล็อตนิยาย เราเขียนลง BLOG เรามี BLOG ที่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นของเรา ตอนนี้มีคนตามประมาณ 90,000 กว่าคน ซึ่งเราภูมิใจกับงานนี้มาก ซึ่งเป็นงานสร้างแรงบันดาล ผมรู้สึกว่าชีวิตมันยาก แต่ผมคิดว่าชีวิตมันไม่ได้ยากขนาดนั้น ก็เลยอยากให้แรงบันดาลใจกับคนอื่นครับ
ManGu : เจฟดูเป็นแฟชั่นนิสต้ามากๆ เลย ปกติชอบแต่งตัวแนวไหนคะ
Jeff Satur : เราอยากใส่อะไรก็ใส่ สมมุตว่าเราอยากใส่กระโปรงเราก็ใส่ บางทีก็ใส่เสื้อคุณพ่อ บางทีก็ใส่เสื้อคุณแม่ จริงๆ แรงบัลดาลใจคือน้องชายของผมครับ
ManGu : อยากให้บอก 3 สิ่งที่ขาดไม่ได้ เวลาที่เราต้องออกจากบ้าน
Jeff Satur : 1.กระเป๋า โทรศัพท์ กุญแจรถ 2.ลิปสติก 3.กีตาร์ ผมจะพกกีตาร์ไว้ที่รถตลอดเพราะบางที Inspiration ในการทำเพลงก็เข้ามาในหัวผมตลอด ผมเลยต้องพกติดไว้ครับ
ManGu : เนื่องจากเราเป็นนิตยสารจีน อยากให้เจฟช่วยแนะนำอาหารไทยให้แฟนๆ ได้ลองทานกันหน่อยค่ะ
Jeff Satur : อยากแนะนำอาหารอีสานครับ เช่น น้ำตกหมู ต้มแซ่บ ครับ
ManGu : ก่อนจะไปขอ 1 ประโยค ที่บ่งบอกความเป็นตัวเรามากที่สุด
Jeff Satur : ไร้กฎเกณฑ์ มันเหมือนกับหนังเรื่อง About time คือมันจะพูดถึงว่า ชีวิตมันไม่ได้มีกฎเกณฑ์ใดๆ มันคือเรื่องสมมุต แล้วทำไมเราไม่กล้าออกมาใช้ชีวิต ผมคิดว่าชีวิตมันไม่ได้ยาวขนาดนั้นครับ
ManGu : เร็วๆ นี้จะมีผลงานอะไรให้แฟนๆ ติดตามกันอีกบ้างคะ
Jeff Satur : มีซีรีส์ KinnPorsche The Series แล้วก็ปีนี้จะมีการร่วมงานกับศิลปินต่างประเทศครับ แล้วก็จะมีซิงเกิ้ลใหม่ๆ ออกมาครับ และฝากติดตามงาน Fan meeting ที่ฝรั่งเศสด้วยนะครับ ประมาณช่วงเดือนกรกฎาคมครับ
ManGu : สุดท้ายฝากอะไรถึงแฟนคลับทั้งชาวไทยและชาวจีนที่สนับสนุนเรา รวมถึงฝากช่องทางการติดตามของเราหน่อยค่ะ
Jeff Satur : อย่างแรกเลยขอบคุณที่ติดตามมาโดยตลอด ผมจะตั้งทำงานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ และเพลง Highway ที่เป็นหนึ่งใน Message ที่จะบอกทุกคนว่า หลายคนอาจจะมีโมเมนต์ที่แย่ๆหรือก้าวผ่านอะไรไม่ได้อยู่ ก็หวังว่าเพลงนี้จะช่วยเยียวยาทุกคน และสามารถฟังเพลงของ Jeff Satur ได้ที่ Music Streaming ทุกช่องทาง ฝากติดตามช่อง Youtube : Jeff Satur ด้วยนะครับ และฝาก Social media ชื่อ Jeff Satur ครับ ขอบคุณครับ
Thank you
Worakamon Satur (Jeff) / วรกมล ซาเตอร์ (เจฟ)
IG : @jeffsatur
Youtube : Jeff Satur
Special thanks : @maymaae
Photographer : Sarator Bunkobsongserm @iccesrt
Graphic Designer : Jamjuree Phetcharat @jam_2p
Coordinator / Interviews : Kawinna Penkul @kawintoon
Column Writer : Patthanapong Polpiboon @plyyp