news-details

MANGU E-Magazine Issue 246 (15th December 2022) พบกับนักแสดงที่กำลัง มาแรงในตอนนี้ “ต้า อธิวัตน์ แสงเทียน” และ “บอม ธนวัฒน์ อุทัยกิจวานิช” จากซีรีส์ “พี่จะตีนะเนย (I Will Knock You)”

นักแสดงดาวรุ่งคลื่นลูกใหม่

บทสัมภาษณ์ ต้า – บอม นักแสดงนำจากซีรีส์เรื่อง พี่จะตีนะเนย (I will knock you)

ในปลายปี 2022 ได้มีซีรีย์ไทยเรื่อง “พี่จะตีนะเนย” ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย ซึ่งในทวิตเตอร์ก็มีการติดแฮชแท็กกันอย่างต่อเนื่อง ซีรีส์เรื่อง “พี่จะตีนะเนย” เป็นผลงานของค่ายบรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น ผู้สร้างละครไทยจนดังไปไกลทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง “บุพเพสันนิวาส” ดังนั้นจึงทำให้ผู้ชมตั้งตารอคอยกันอย่างมาก ซีรีส์เรื่องนี้จะพูดถึง “ทิวา” นักศึกษามหาวิทยาลัยปี 3 ที่รับ Job สอนพิเศษ รับบทโดยบอม ธนวัฒน์ และ “เนย” เด็กมัธยมปลายตัวแสบที่รับบทโดย ต้า อธิวัตน์ ซึ่งตัวละครของทิวาในซีรีส์จะเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยที่รักการเรียน และเป็นที่รักของคนอื่น ๆ ส่วนเนยจะเป็นเด็กมัธยมปลายที่จะทำตัวเท่ตลอดเวลา เรื่องราวของคนสองคนที่มีนิสัยแตกต่างกัน แต่กลับมีความสัมพันธ์ที่ทำให้เขาทั้งสองได้มาเจอกันได้

เมื่อต้า - บอมออกมาจากบทบาทในซีรีส์ ชีวิตความเป็นจริงของเขาทั้งสองจะเป็นอย่างไร จริง ๆ แล้วต้า - บอมมีนิสัยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งต้าจะมีนิสัยที่สดใสร่าเริง ส่วนบอมจะค่อนข้างสุภาพถ่อมตัว อย่างไรก็ตาม ทั้งสองก็สามารถที่จะทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ทำให้ไม่ว่าจะทั้งในและนอกซีรีส์ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองสนิทต่างกันมาก ต้าเกิดในปี2004 หลังจากที่ถูกแมวมองพาเข้าวงการเมื่อตอนเขาอายุ 13 ปี เขาก็ได้มาแสดงอย่างเป็นทางการในเรื่อง "พี่นาค" ส่วนบอมก็ถือว่าเป็นนักแสดงหน้าใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้เขาได้เป็นนักแสดงโฆษณา แต่เพราะมีความฝันที่อยากเป็นนักแสดง จึงเลือกเดินตามความฝันของตัวเอง และไม่ว่าจะในและนอกซีรีส์ ต้า - บอมต่างก็มีช่องว่างระหว่างวัย แต่ความเข้าใจกันของพวกเขาทั้งสองนั้นไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาสามารถมีได้ เขาทั้งสองจะมาเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งในและนอกซีรีส์ เราไปติดตามเรื่องราวของต้า - บอมพร้อมกันในนิตยสาร ManGu ในฉบับนี้กัน!


ManGu : แนะนำตัว และผลงานที่ผ่านมา

Tar : สวัสดีครับ ต้า อธิวัตน์ แสงเทียน อายุ 18 ปี ผลงานที่ผ่านมามีภาพยนตร์พี่นาค ภาค 1 ถึง ภาค 3 และซีรีส์พี่จะตีนะเนย

Bom : ผมชื่อบอม ธนวัฒน์ อุทัยกิจวานิช อายุ 27 ปีครับ ที่ผ่านมาเป็นนักแสดงโฆษณา ซีรีส์พี่จะตีนะเนยเป็นผลงานซีรีส์เรื่องแรกของผมครับ

ManGu : จุดเริ่มต้นของการเข้าสู่วงการบันเทิง

Tar : ตั้งแต่อายุ 13 ปี มีเพจใน IG เอารูปผมไปลง ผู้กำกับเรื่องพี่นาคได้ติดต่อมาทาง IG ของคุณแม่ให้ผมลองไปแคสภาพยนตร์เรื่องนี้ดู คาแรคเตอร์ตัวละครตรงกับผม เลยมีโอกาสได้เล่นภาพยนตร์เรื่องพี่นาคครับ

Bom : ตอนนั้นช่วงมหาวิทยาลัย คุณอาของผมรู้จักกับ casting และได้มีการส่งรูปผมไปให้ทางนั้น คุณอาได้ถามเราว่าอยากลองไหม เราก็เลยมีโอกาสได้ลอง เป็นการถ่ายภาพนิ่งของแบรนด์หนึ่ง หลังจากนั้นก็เลยเริ่มต้นไป แคสโฆษณา และแคสงานมาเรื่อย ๆ จนได้มาเจอกับพี่แชมป์ผู้กำกับ ให้ผมได้ลองแคสซีรีส์ และได้รับบทเป็นทิวาในซีรีส์พี่จะตีนะเนย

 

ManGu : มีโอกาสได้ร่วมงานกัน ช่วยเล่าความประทับใจของกันและกัน

Tar : พี่บอมเป็นคนที่ acting ชัดมาก เป็นคนส่งอารมณ์ได้ดีมาก ทำให้เราเข้าใจว่าเขากำลังส่งอารมณ์นี้ให้เราอยู่นะ และเป็นคนที่มีระเบียบวินัยมาก

Bom : ต้าเขามีประสบการณ์มากกว่าผม เขาเล่นภาพยนตร์มาก่อนเหมือนเป็นรุ่นพี่ของผม รู้สึกประทับใจเพราะเขาเริ่มทำงานตั้งแต่เด็ก และเขามาเล่นบทเนยวัดพลุ รู้สึกว่าการแสดงของเขาเก่งมาก อินเนอร์ดี ยิ่งเล่นไปเรื่อย ๆ เหมือนได้โชว์ความสามารถของเขาไปเรื่อย ๆ ฉากดราม่าเป็นฉากที่เขาถนัดมาก ๆ ผมประทับใจในความสามารถของเขา และเขาเป็นคนมีวินัยมาก การทำงานกับต้าค่อนข้างง่ายครับ เพราะเราพยายามที่จะศึกษาตัวละคร มีการซ้อมกันด้วย เลยทำให้การทำงานค่อนข้างไปได้ดี

                

ManGu : ตอนรู้ว่าได้เล่นซีรีส์เรื่องนี้ เราทั้ง 2 คนมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

Bom : ต้ารู้ก่อนผมประมาณ 1 ปีครับ

Tar : ใช่ครับ เพราะว่าผมแคสนานแล้ว ก่อนที่เราจะเปิดกล้อง พี่แชมป์ได้ส่งคาแรคเตอร์เนยมาให้ดู ว่าเนยชอบอะไรที่โบราณ ชอบของเก่า ๆ และก่อนเปิดกล้องพี่แชมป์ก็ส่งเพลงยุค 90 มาให้เราได้ซึมซับ ต้องมีการเตรียมพร้อมด้านการขับมอเตอร์ไซค์ด้วย เพราะจริง ๆ แล้วผมขับมอเตอร์ไซค์ไม่เป็น คนสอนคือทีมงาน เวลาซ้อมประมาณ 2-3 อาทิตย์ครับ

Bom : ผมมาหลังจากที่ต้าแคสประมาณ 1 ปี อยู่ในช่วงที่ก่อนจะเปิดกล้องได้ไม่นานทำให้การเตรียมตัวน้อยกว่าต้า และยังอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด ทำให้การ Workshop ค่อนข้างน้อย จะมีแค่เรา 2 คนอ่านบทด้วยกัน และทำความเข้าใจว่าซีรีส์เรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร ตัวละครเป็นยังไง และเราก็มีโอกาสไปเที่ยวด้วยกันเป็นช่วงเวลาที่เราได้ทำกิจกรรมด้วยกันเยอะมาก ทำให้เรารู้จักกันมากขึ้น และพอเริ่มเปิดกล้อง ทุกอย่างก็ง่ายขึ้น เพราะเราไม่มีความรู้สึกเกร็งต่อกันแล้วครับ

 

ManGu : เพราะอะไรตัดสินใจเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง

Tar : ผมรู้สึกว่าเราได้ทำอะไรใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำ รู้สึกท้าทายดี และเราอยากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยว่าเราสามารถทำได้ไหม

Bom : ผมมองว่ามันเป็นโอกาสที่เราได้ลองทำ มีผู้ใหญ่เห็นถึงศักยภาพของเราว่าเราสามารถทำมันได้ และความชอบของเราด้วย เพราะชอบในการแสดงอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ผมแคสโฆษณาเป็นร้อยตัวเลย ผมโดนปฏิเสธงานบ่อยมาก แต่ผมยังรู้สึกมีไฟให้กับงานนี้อยู่ พอเราได้รับโอกาส ในฐานะที่เราเป็นนักแสดงเราก็อยากจะแสดงฝีมือให้เต็มที่ครับ และอีกอย่างหนึ่งคือการแสดงทำให้เราได้ทำอะไรหลาย ๆ ที่เราไม่เคยทำด้วย

ManGu : ส่วนต้าต้องเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย แบ่งเวลาอย่างไรบ้าง

Tar : ตอนนี้ผมเรียนมหาวิทยาลัย สามารถที่จะลงเวลาเรียนเองได้ ผมเลยเลือกเรียนวันที่ไม่มีงาน แต่ถ้าวันไหนมีงานจริง ๆ เราก็จะมาตามเรื่องงาน เรื่องเรียนทีหลัง ซึ่งอาจารย์ก็เข้าใจครับ เขาก็ให้มาตามเรียนตามสอบย้อนหลังได้

 

ManGu : มีเป้าหมายในวงการบันเทิงอย่างไรบ้าง

Tar : เป้าหมายของผมคือการมีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเอง เพราะผมทำเพลงด้วย เลยอยากมีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเอง อยากทำให้ทุกคนร้องเพลงของผมได้

Bom : สำหรับผมตอนนี้รู้สึกเหมือนการได้เริ่มต้นกับวงการบันเทิง ผมเลยอยากลองเล่นซีรีส์หรือภาพยนตร์หลากหลายมากขึ้น ส่วนในด้านของการเป็นนักร้อง ผมไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย แต่เรา 2 คนมีได้มีโอกาสได้ไป OPEN HOUSE CONCERT No.2 มันเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับผมมาก เป็นความรู้สึกที่ดีที่ได้ร้องเพลง และทุกคนร้องตามได้ เลยอยากลองทำเพลงด้วยครับ

ManGu : ถ้ามีโอกาสอยากร่วมงานกับใครในวงการบันเทิงมากที่สุด

Tar : ผมอยากร่วมงานกับธามไทครับ เพราะว่าพี่เขาทำเพลงและผมก็ชอบไลฟ์สไตล์ของเขาด้วย ชื่นชอบเขามากครับ

Bom : ผมชอบพี่เต๋อ ฉันทวิชช์ เพราะผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่มีคาแรคเตอร์ชัดมาก เวลาผมดูเขาเล่นภาพยนตร์ เขาเล่นตลกได้เป็นสไตล์ของตัวเองมาก และเขาไม่ได้เป็นแค่นักแสดงอย่างเดียวแต่เป็นทั้งคนเขียนบท พิธีกร เป็นคนที่เก่งรอบด้านมาก ๆ

 

ManGu : มีอะไรที่ทำให้เรารู้สึกกดดัน หรือท้อบ้างไหม และมีวิธีจัดการอย่างไร

Tar : เรื่องกดดันของผม คือการที่เราเข้ามาในวงการบันเทิง เริ่มมีชื่อเสียง ทำให้เราต้องระมัดระวังตัวเองมากขึ้น ทำอะไรต้องมีสติตลอด แต่ถ้าเราทำผิดจริง ก็ต้องยอมรับและนำมาแก้ไข ถ้าผมท้อก็จะฟังเพลงหรือทำเพลง เพื่อเป็นการระบาย

Bom : การเข้ามาในวงการผมคิดว่ามันมีความคาดหวังค่อนข้างสูงและกดดันด้วย เพราะเราได้พาตัวเองมาอยู่ในจุดที่คนหลายคนมองเห็นเรา และเราก็ต้องยอมรับในเสียงวิพากษ์วิจารณ์นั้นด้วย เลยต้องพยายามที่จะปรับเปลี่ยนความคิดของตัวเอง ต้องรับฟังแล้วมาพัฒนาตัวเอง หรือถ้าเครียดมาก ๆ การแก้ปัญหาของผมคือฟังพอดแคสต์ ทำให้เราได้ฟังปัญหาของคนอื่น ๆ ว่าเขาเจออะไรมา และมีวิธีแก้ไขปัญหายังไง ผมเอามาปรับใช้กับตัวเอง ซึ่งมันช่วยได้ครับ

ManGu : ตัวละครมีอะไรที่เหมือนหรือแตกต่างกับเราทั้ง 2 คนบ้างไหม

Tar : สิ่งที่เหมือนกันคือ คาแรคเตอร์เนยจะกวน ๆ ซึ่งเหมือนกับผม เลยไม่ต้องปรับอะไรมาก แต่ความแตกต่างคือ เนยชอบของโบราณเก่า ๆ และค่อนข้างหลงตัวเอง ซึ่งตรงข้ามกับผมเลย

Bom : ทิวาในซีรีส์ค่อนข้างใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย และเป็นเด็กเรียนคล้าย ๆ ผม ทำให้ผมรู้สึกว่าไม่ยากที่จะทำความเข้าใจกับตัวละคร แต่ที่ไม่เหมือนกันคือตัวทิวา ตอนที่เขาอยู่ในกรอบ หรือเวลาที่เขาเจออะไรใหม่ ๆ เขาจะกลัว แล้วเขาเป็นคนโก๊ะ ๆ ชอบคิดไปเอง จินตนาการเก่ง ซึ่งในส่วนนี้ก็จะไม่เหมือนกับตัวเรา

 

ManGu : ขอเรื่องที่คิดว่าแฟน ๆ ยังไม่รู้เกี่ยวกับตัวคุณ

Tar : ผมไม่ชอบกินมักกะโรนีครับ อันนี้คือสิ่งเดียวที่ทุกคนไม่น่าจะรู้ เพราะตอนที่ผมเรียนประถม ข้าวกลางวันคือมักกะโรนี พอกินไปแล้วก็ทำให้อาเจียนออกมา ผมเลยรู้สึกฝังใจว่าไม่เอาแล้ว

Bom : ผมเป็นคนกินจืด เช่น ข้าวผัด ขนมก็หวานน้อย ๆ ชาใสไม่ใส่นม หรือกาแฟดำไปเลย ไม่ชอบกินอาหารรสจัดมาก เช่น พวกมัสมั่น หรือแกงกระหรี่ ถ้าเป็นขนมไทยผมก็ชอบ แต่ไม่ชอบที่หวานเกินไป และอีกเรื่องคือเวลานอนผมต้องใส่ถุงเท้าตลอดเวลา เพราะถ้าไม่ใส่ถุงเท้าผมจะนอนไม่หลับ เท้าจะเย็น ซึ่งเป็นตั้งแต่เด็กแล้วครับ

ManGu : ทั้ง 2 คนมีบทบาทไหนที่อยากท้าทายมากที่สุด

Tar : ผมอยากเล่นบทโรคจิตคล้ายโจ๊กเกอร์ เพราะรู้สึกท้าทายมาก

Bom : ผมอยากเล่นบทออทิสติก เพราะผมรู้สึกว่าการที่เรารับบทนี้ เราต้องศึกษาบทบาทเยอะมากและมันก็ฉีกตัวตนของเราไปเลย อีกแนวคือไซไฟ ซึ่งโอกาสที่จะเล่นในเมืองไทยน้อยมาก แต่อาจจะมีโอกาสในอนาคตก็ได้ครับ

 

ManGu : คุณมีศิลปินต้นแบบไหม

Tar : ศิลปินต้นแบบของผมคือ คริส บราวน์ เป็นนักร้อง R&B ในต่างประเทศ ผมรู้สึกว่าเขามีสไตล์เป็นของตัวเอง และสามารถพรีเซนต์ออกมาให้ทุกคนเห็นได้ชัดเจน การทำเพลงของเขาก็สุดยอด เราเลยชื่นชอบมาก ส่วนแนวเพลงที่ผมชอบทำคือแนวฮิปฮอปครับ แต่บางครั้งก็อยากทำแนว R&B บ้าง และฮิปฮอปในประเทศไทยที่ชอบคือ Twopee ครับ

Bom : คนที่ผมชื่นชอบคือคุณบี้ ธรรศภาคย์ หรือบี้ KPN เพราะเขาเริ่มต้นจากการทำงานในไทย และไปโด่งดังในต่างประเทศ เลยรู้สึกว่าเขาต้องมีวินัยสูงมาก แต่เขาสามารถทำออกมาได้และเป็นที่ยอมรับด้วยทั้งสองประเทศ และอีกคนคือคุณมิว ศุภสิทธิ์ เขาเก่ง และเขาก็เริ่มต้นจากซีรีส์วายเหมือนกัน แต่ตอนนี้พัฒนาตัวเองไปเป็นศิลปินที่ร่วมงานกับต่างประเทศเยอะมาก

ManGu : ฉากไหนในซีรีส์ที่คิดว่าไม่ควรพลาด

Tar : ฉากดราม่าครับ เพราะเป็นฉากอารมณ์ล้วน ๆ เลย ตัวละครส่งอารมณ์กัน 100% เลย

Bom : จริง ๆ ไม่ควรพลาดทุกฉากครับ เพราะทุก ๆ ตอนจะมีการหักมุมตลอดเลย แต่คนที่อ่านนิยายมาน่าจะรอฉากงานวัด ซึ่งเป็นฉากที่น่าจะใหญ่ที่สุดแล้วในเรื่อง เราจัดเหมือนงานวัดทุกอย่างเลย วันที่ผมเดินเข้าไปในกอง ผมตกใจมาก เพราะมันเหมือนจริงและใหญ่มาก ๆ ฉากนี้น่าจะเป็นอีกฉากที่จะทำให้ทุกคนประทับใจ

 

ManGu : ถ้าไม่ได้เป็นนักแสดง คุณอยากทำงานอะไร

Tar : อยากเป็นนักร้องครับ แนวฮิปฮอปแนวเดียวเลย แล้วก็ควบคู่ไปกับธุรกิจขายเสื้อผ้า ตั้งร้านขายออนไลน์ประมาณนี้ครับ

Bom : ผมเรียนจบบริหารมาก็เลยอยากทำธุรกิจ ถ้าอยู่ในช่วงตอนมหาวิทยาลัย ผมจะอินกับคาเฟ่ ร้านกาแฟ อยากมีร้านเป็นของตัวเอง ร้านแนวสวน ให้คนมานั่งชิลได้ มาถ่ายรูปได้ หรืออาจจะเป็นพ่อค้าก็ได้ครับ เพราะที่บ้านผมเป็นพ่อค้าแม่ค้าขายพวกเสื้อผ้า

ManGu : เร็ว ๆ นี้จะมีผลงานอะไรให้แฟนติดตามกันอีกบ้าง

Tar : ผมก็ทำเพลงเรื่อย ๆ ครับ

Bom : ตอนนี้จะเป็นการโปรโมทซีรีส์เรื่องนี้เป็นหลักเลย และจะมีงานมีอีเวนท์ แฟนมีตติ้งทั้งไทยและต่างประเทศครับ ซึ่งจริง ๆ เรื่องแฟนมีตติ้งมีคุยไว้บ้างแล้วด้วย

ManGu : สุดท้ายฝากอะไรถึงแฟนคลับทั้งชาวไทย และชาวจีนที่ติดตามและซัพพอร์ตเรามาตลอด พร้อมฝากช่องทางการติดตามของทั้งคู่

Tar : ขอบคุณมากครับที่ติดตามกัน และขอฝากซีรีส์พี่จะตีนะเนยด้วยครับ รับรองว่าต้องชอบแน่นอน เป็นซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ น่ารักใส ๆ ครับ ช่องทางการติดต่อของผม IG ชื่อ atiwat_tar ครับ ทาง twitter จะเป็นชื่อ taratws ในส่วนของ tiktok คือ taratiwat และทาง youtube ช่อง taratiwat นะครับ

Bom : อยากขอบคุณแฟนชาวไทยและชาวจีนที่มาติดตามซีรีส์ของเรา ถือว่าเป็นโปรเจคที่นักแสดงใหม่ค่อนข้างเยอะด้วย ขอบคุณที่เปิดใจยอมรับพวกเรา เราเองก็จะพัฒนาและสร้างผลงานที่ดี ๆ ให้กับทุกคนครับ ฝากพวกเราและฝากปั่นเทรนด์ทวิตเตอร์ด้วยนะครับ ช่องทางการติดต่อของผม จะมี IG ชื่อ bomm.u และทาง twitter ชื่อ bomm_u ครับ

 

Thank you.

Atiwat Saengtien (Tar) / อธิวัตน์ แสงเทียน (ต้า)

IG : atiwat_tar

Twitter : taratws

Tiktok : taratiwat

youtube : taratiwat

 

Tanawat Uthaikijvanich (Bom) / ธนวัฒน์ อุทัยกิจวานิช (บอม)

IG : bomm.u

Twitter : bomm_u

 

Make up : Korranat Khonton @dezu_makeup

Hair Stylist : wutthipong binyafun @bkaehair_gallery

Costume : @Verasalonstudio

Location : Bella&Bello

Special Thanks : 

Natthanicha Phunsumrit (June)
Broadcast Thai Television

 

Photographer : Nawapon Saenuwong facebook : IPonz Saenuwong

Graphic Designer : Satamed Kunawattana @Pdillustrator

Coordinator / Interviews : Yanida Nualnoon @yn.noon

Column Writer : Sheldon Chan @sheldonchan1116 / Zou SiYi @joy_zz97

 

You can share this post!

MANGU E-Magazine Issue 247 (1st January 2023) พบกับนักแสดงจากซีรีส์ " 2 Moons The Ambassador "

MANGU E-Magazine Issue 245 (1st December 2022) พบกับมอส ภาณุวัฒน์ โสประดิษฐ และแบงค์ มณฑป เหมตาล นักแสดงนำจากซีรีส์ “Big Dragon The Series”