news-details

MANGU E-Magazine Issue 271 (1st Feb 2024) พบกับบทสัมภาษณ์ของสองนักแสดงจากซีรีส์ 7 Days Before Valentine (7 วันก่อนวาเลนไทน์) นำโดย"เจตน์ - สมเจตน์ แซ่จาง" และ "อะตอม - ณฐาภพ เคนจันทึก"

ManGu: แนะนำตัวพร้อมผลงานคร่าวๆให้เรารู้จักหน่อยค่ะ

อะตอม : สวัสดีครับ ผมอะตอม - ณฐาภพ เคนจันทึกครับ ผลงานที่ผ่านมาส่วนมากผมอยู่วงการนายแบบแบรนด์กีฬาเป็นส่วนใหญ่ครับ ละครก็ที่ผ่านมา “มวยสะดิ้ง หมัดซิ่งสายฟ้า” “วิญญาณแพศยา” ซีรีส์ Bake Me Please กับทางช่อง 8 ครับ

เจตน์: สวัสดีครับ ผมเจตน์ - สมเจตน์ แซ่จางนะครับ ซีรีส์ที่ผ่านมาเรื่องวุ่นรักนักจิ้น Why You… Y Me? ผลงานส่วนใหญ่จะเป็นเดินแบบมากกว่าครับ

ManGu:  ซีรีส์ 7 Days Before Valentine (7 วันก่อนวาเลนไทน์) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรและได้รับบทเป็นใครบ้างคะ

อะตอม :  เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับคนๆหนึ่งที่ศึกษาจบการแสดง มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และมีความฝันที่จะโด่งดังในวงการบังเทิงแต่พอทำงานจริงๆกลับสวนทางกับความคิดของตัวเองเพราะไปทำแล้วเงินก็ไม่ได้เยอะ งานก็ไม่ได้ก้าวหน้า และแฟนยังบอกเลิกอีก ชีวิตตกอับมากๆจนได้มาเจอกับยมฑูตคิวบิก ซึ่งความสนุกจะอยู่ตรงที่คิว ยมฑูตคิวบิกจะให้โอกาสเราลบใครก็ได้ที่คิดว่าเรนจะกลับมาหาเรา ในแต่ละคืนเราจะลบได้หนึ่งคนซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องนี้ในทุกๆคืน และในวันต่อมาโลกอาจจะเปลี่ยนเหตุการณ์ตอนนั้น มันน่าลุ้นตรงนั้นครับ ผมรับบทเป็นซันไชน์ ซึ่งมีคาแรคเตอร์ ดื้อ เอาแต่ใจ นิสัยยังเด็ก มีอีโก้และมีโรคส่วนตัวสูง ผมว่าตัวซันไชน์ มีความเหมือนผมตรงที่เป็นเด็กจบใหม่ เป็นเด็กที่พึ่งเข้าวงการครับ

 

เจตน์: เจตน์รับบทเป็นคิว ยมฑูตคิวบิกในมุมคิวเหมือนเป็นการให้โอกาสคนๆหนึ่งครับ เพราะเมื่อก่อนเขาก็เป็นเด็กคนหนึ่งที่เดินตามความฝันและมีเหตุการณ์ที่ทำให้ผมต้องกลายมาเป็นยมฑูตคิวบิก เพื่อที่จะมายุ่งเรื่องความรักของซันไชน์กับเรนและได้มาสอนให้ซันไชน์ ได้เรียนรู้ เข้าใจผู้คน มองเห็นสิ่งเล็กๆน้อยของตัวเอง คิวไม่อยากให้ซันไชน์ต้องมาเดินซ้ำรอยที่คิวเคยผ่านมาก่อนครับ  คาแรคเตอร์ของคิวที่คล้ายผมจะเป็นคนนิ่งๆตัวคิวจะมีความนิ่งมากกว่าครับ ก่อนที่ผมจะเข้าใจบทนี้ก็มีไปปรึกษาผู้กำกับเพื่อที่ได้เข้าใจบทมากยิ่งขึ้นครับ

อะตอม :  ผมคิดว่าตัวคิวมีความเหมือนพี่เจตน์อยู่นะครับเพราะเขาเป็นคนที่ผ่านประสบกาณ์ชีวิตมาระดับหนึ่งพอมาเจอใครพี่เขาก็จะคอยสอนกับสิ่งที่เขาเจอความคิดเห็นของโลกใบนี้ด้วยครับ

ManGu: ซีรีส์ดัดแปลงมาจากนิยายมีการสร้างความแตกต่างอย่างไร

เจตน์ / อะตอม: ซีรีส์จะดีเทลมากที่ขึ้นกว่าในนิยายครับ ครูตู่ผู้กำกับของเราเอามาตีความให้มากขึ้นกระจายดีเทลให้มันมีต้นมีปลายมากขึ้น ไม่งั้นเราจะไม่เข้าใจเนื้อเรื่องเลยครับ จริงๆก่อนจะมีเรื่องนี้มันมีเนื้อเรื่องแยกของคิวมาก่อนครับแต่เขาข้ามเรื่องตรงนั้นและลงดีเทลในเรื่องแทนครับ

 

ManGu: คุณมีความกดดันไหมและมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้างคะ

เจตน์: เป็นความกดดันตัวเองมากกว่าครับด้วยความที่นิยายเขาเคยมีคนดูมาก่อนแล้ว ก็กดดันว่าเราจะเล่นออกมาดีไหม ซึ่งพอเราเริ่มเข้าใจตัวละครก็จะกดดันอีกว่าเราจะเล่นดีพอไหม

อะตอม: ส่วนผมเป็นจะกดดันเรื่องแอคติ้งมากว่าครับ มันจะมีช่วงที่เราแอคติ้งไม่ค่อยดีเท่าไร ครูตู่ผู้กำกับก็จะเป็นคนสอนเรื่องแอคติ้งด้วย เวลาที่เราจับจุดไม่ถูกเขาก็จะสอนเราตลอดเวลาช่วงไหนแอคติ้งไม่ดีก็จะเครียดๆนิดหนึ่งครับ

เจตน์: ผมว่าโชคดีที่ว่าพอเราไม่เข้าใจบท ทุกครั้งก่อนถ่ายก็จะมีมิตติ้งระหว่างทั้งอาทิตย์เราก็จะมาต่อบทกัน ซีนนี้จะเล่นยังไงลองเอามาเสนอผู้กำกับดูว่าโอเคไหมครับ

ManGu: ความท้าทายของการเล่นซีรีส์เรื่องนี้

อะตอม:  ผมว่าเป็นตัวบทที่มีความแฟนตาซีมากๆ เรื่องราวเป็นอะไรที่แปลกใหม่เป็นอะไรที่ท้าทายของนักแสดงมากๆเพราะเป็นอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อน ทุกครั้งที่ก่อนเข้ากองจะมีความตื่นเต้นทุกครั้งเพราะทุกคนเต็มที่กันมาก ทุกครั้งที่เล่นเหมือนเราได้เรียนรู้และพัฒนาตลอดเวลาครับ

เจตน์:  สำหรับผมทุกอย่างท้าทายทั้งหมดเลยครับ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สองของผม และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่หาไกด์ไลน์ยากด้วยครับ ยิ่งรับบทเป็นยมฑูตคิวบิกแฟนตาซีนแนวอย่างนี้ที่ไทยไม่ค่อยมีให้เห็นด้วยครับ เราจะเล่นยังไงจะต้องใช้น้ำเสียงประมาณไหนยังไงท้าท้ายมากครับ อีกเรื่องหนึ่งจะเป็นเรื่องของบล็อกกิ้งหน้างานครับ ด้วยความที่ครูตู่เคยเป็นครูละครเวทีมาก่อนเขาจะเป๊ะในเรื่องนี้ครับ บางครั้งเรามั่วแต่กังวลจนเรื่องบล็อกกิ้งจนลืมบทก็มีครับ ผมว่าเรื่องมีสติสำคัญมาก

ManGu: มีซีนที่ชอบหรือประทับใจที่สุด เพราะอะไร

เจตน์:   จริงๆผมชอบหลายซีนนะ แต่ละซีนมีความหมายมากๆด้วยบทคำพูดที่ครูเขาเขียนมาด้วย ไม่ได้มีแค่ซีนเดียวแต่เราต้องดูทุกซีนเพื่อจับใจความเนื้อเรื่องให้ได้จะได้คอยต่อเนื้อเรื่อง ผมว่าทุกซีนมีความหมายหมดเลยอยู่ที่ว่าซีนไหนที่เราสื่ออารมณ์ได้เต็มที่ อย่างเช่นซีนบาร์แจ๊สที่เราสองคนนั่งมองกันและมีเปิดเพลงจักวาลสองเราขึ้นมา ถึงกล้องจะยังไม่จับหน้าเราแต่เรารู้สึกได้ว่าอารมณ์ที่เราสื่อมันถึงด้วยสายตาทั้งสองคน

อะตอม:  จริงๆผมก็ชอบซีนบาร์แจ๊สเหมือนกัน แล้วก็มีซีนที่เราทะเลาะกันที่ได้ฟีดแบคมาก และซีนที่ชอบคือสิ่งที่ในชีวิตจริงผมไม่ค่อยได้ทำพวกกินเค้ก กินมาม่า ปกติผมจะคุมอาหารเลยไม่ค่อยได้กิน พอเล่นเสร็จก็เครียดเพราะต้องลงน้ำหนักอีก

 

ManGu: คิดว่าซีนที่ผู้ชมชอบน่าจะเป็นซีนที่คิวแช่อ่างน้ำนะคะ ทำไมในเรื่องคิวถึงได้ถอดเสื้อแช่น้ำบ่อยๆคะ

เจตน์:   ซีนนั้นเป็นซีนแรกๆที่ถ่ายครับ ถ้าคนชอบก็น่าจะชอบเลยแต่ถ้าคนไม่ชอบก็ไม่เป็นไรครับ (หัวเราะ) ถ้าคนสังเกตช่วงแรกผมจะใส่ชุดขาว และในตอนที่เขาอธิฐานให้ใครหายไป ชุดของเขาก็จะค่อยๆเปลี่ยนสีไปเพราะในการที่เขาตัดสินให้ซันไชน์ลบใครก็ได้ ทำให้ตัวคิวเองก็จะเปื้อนบาปไปด้วย การที่ผมถอดเสื้อบ่อยเพราะผมเชื่อว่าการแช่น้ำจะเป็นการล้างบาปครับ

 

ManGu: กระแสตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง

เจตน์ /อะตอม  :   ตามที่ไทยยังไม่เป็นไปตามที่คาดหวังเท่าไรมันอาจจะแปลกใหม่ที่ตลาดไทยด้วยครับ กระแสที่ฟีคแบคมาจะเป็นที่ต่างประเทศมากกว่าครับ ผมได้รู้ตอนไปสิงค์โปรมาเขาได้มีการเช็คกระแสเราได้เรทเต็มสิบเราได้ 8 อัพถึง 9 เลยครับ และก็มีเช็คเรทติ้งกันตลอดครับ

 

ManGu: ถ้ามีพลังวิเศษลบหนึ่งคนได้คุณอยากจะลบใครออกไปจากชีวิตไหม

อะตอม  :  ผมได้เรียนรู้บทเรื่องจากในหนังแล้ว ผมไม่ขอลบใครดีกว่าครับ

เจตน์:    ผมขอลบอะตอมคนแรกเลย ล้อเล่นครับ (หัวเราะ) ถ้าชีวิตจริงผมไม่ขอลบใครเหมือนกันครับ อย่างในเรื่องที่ลบใครไปเราก็จะเห็นสิ่งเล็กน้อยๆที่เรามองข้ามไปครับ

ManGu: ความรู้สึกที่ได้มาร่วมงานกันในครั้งนี้

เจตน์ :  จริงๆเราค่อนข้างที่จะสนิทกันทั้งแก๊งเลย เพราะเหมือนเราได้ทำลายกำแพงที่มีไว้ตั้งแต่เวิร์คช๊อป เข้ามันแล้วเรารู้สึกเคมีเข้าด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่รู้ อยู่ด้วยกันแล้วเราสบายใจครับ

อะตอม  :  รู้สึกโชคดีที่ได้มาร่วมงานกับพี่ๆทุกคนครับเพราะทุกคนมีไลฟ์สไตล์ที่คล้ายๆกันพออยู่ด้วยกันมีความเข้ากันได้ คุยกันรู้เรื่องครับ

 

ManGu: เหตุผลที่ไม่ควรพลาดของซีรีส์ 7 Days Before Valentine (7 วันก่อนวาเลนไทน์)

เจตน์ :  เป็นซีรีส์ที่ครบรสทุกด้าน ไม่ว่าจะด้านแฟนตาซี ดราม่า โรแมนติก ถ้าได้ชมก็อยากให้เปิดใจดูแนวแฟนตาซีแปลกใหม่ในประเทศไทยครับ

 อะตอม  :  นอกจากความแปลกใหม่แล้ว ยังได้ลุ้นว่าในแต่ละคืนใครจะโดนลบไปบ้างและลบแล้วจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างคนที่โดนลบไปจะกลับมาได้ไหม เพราะการจะอยู่หรือการจะไปของใครมันจะมีผลกระทบหลายๆด้าน มารอลุ้นในซีรีส์กันนะครับ

 

ManGu: อยากให้แต่ละคนช่วยแนะนำอาหารไทยหรือสถานที่ท่องเที่ยวในไทยให้ชาวจีนหน่อยค่ะ

เจตน์ /อะตอม  :  ผมอยากจะแนะนำอาหารที่ผมชอบกะเพราหมูสับ หรือไม่ก็ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ บะหมี่ กะเพราเนื้อ

 มันเป็นอาหารที่เบสิกที่ได้โปรโมทจนบางทีคนจีนอาจจะยังไม่รู้จักเมนูพวกนี้ครับ สถานที่ท่องเที่ยวถ้าเป็นในเรื่องเป็นแถวทรงวาด เยาวราช และสะพานพุทธผมคิดว่าชาวต่างชาติน่าจะยังไม่ค่อยได้ไปกันตอนนี้มีเทรนที่ซื้อดอกไม้และไปถ่ายรูปกันตรงสะพานพุธกัน อย่าลืมซื้อดอกไม้และไปถ่ายรูปกันนะครับ

ManGu:  สุดท้ายนี้ฝากอะไรถึงแฟนคลับที่ติดตามและซัปพอร์ตเรามาตลอด พร้อมฝากช่องทางการ

ติดตามของเรา

เจตน์ :  ขอบคุณแฟนคลับที่ซัปพอร์ตเราตลอดเลยและอยู่ซัปพอร์ตพวกเราไปนานนะครับ ผมฝากซีรีส์ 7 Days Before Valentine (7 วันก่อนวาเลนไทน์ ) ด้วยนะครับนักแสดงทุกตั้งใจแสดงกันมากๆ  ช่องทางการติดตาม IG:@somjetjetp

 

อะตอม  :  ขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่คอยซัปพอร์ตสนับสนุนกันเสมอมาครับ ฝากติดตามซีรีส์ 7 Days Before Valentine (7 วันก่อนวาเลนไทน์ ) และพี่ๆนักแสดงด้วยนะครับ ขอบคุณครับ ช่องทางการติดตาม IG:@atom_nathaphop

_____________________________________________

Thank you.
คุณสมเจตน์ แซ่จาง (เจตน์) / Somjet Saejang (Jet)
IG: @somjetjetp

คุณณฐาภพ เคนจันทึก (อะตอม) / Nathaphop Kanjanteak (Atom)
IG: @atom_nathaphop

Location: THE TIMES | Sathorn 12
_____________________________________________

Photographer : Jinghao Luo @alovelylance
Graphic Designer : Natchaphol Jin Srijun @Banshy.j
Coordinator : Narumon Sripool @poo_ler 
Column Writer : Sheldon Chan @sheldonchan1116
_____________________________________________

You can share this post!

MANGU E-Magazine Issue 272 (15th Feb 2024) พบกับบทสัมภาษณ์ของนักแสดงนำซีรีส์เรื่องลางสังหรณ์ (The Sign) (บิลลี่ - ภัทรชนน , เบ้บ - ธนทัต ,แทค - พงศกร ,ภูม - ณัฐภาสน์ , แก๊ป - จักริน ,เฮง - อัศวฤทธิ์ , เซอร์ไพรส์- ปิฐิกร )

MANGU E-Magazine Special พบกับบทสัมภาษณ์ของสองนักแสดงนำจากละครเรื่อง "แม่โขง (MEKONG)" นำโดย "มิกค์ ทองระย้า" และ "เปรี้ยว ทัศนียา"