Interview

ManGu : แนะนำตัวคร่าวๆให้เรารู้จักหน่อยค่ะ

คุณไมค์ ภัทรเดช : สวัสดีครับผม คุณไมค์ ภัทรเดช สงวนความดี เป็นนักแสดงช่อง 7HD ครับ

ManGu : ละคร “ในรอยทราย” เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร

คุณไมค์ ภัทรเดช : ละครเรื่องนี้เกี่ยวกับภารกิจลับที่ไม่สามารถบอกใครได้ แม้กระทั้งคนที่เรารัก เป็นภารกิจที่ยากและอันตรายและใช้เวลานานกว่าที่เราคิดไว้ครับ เลยทำให้เกิดความรักที่มันเลยเถิดถึงจุดที่มันออกมาไม่ได้ ถ้าให้คำนิยามเรื่องนี้ก็คือ “ความรัก ภารกิจลับ ความอันตราย”

ManGu : ในเรื่องต้องเล่นบทฝาแฝดด้วย มีการทำการบ้านทำความเข้าใจบท “ทิวา” และ “ตะวัน”อย่างไร

คุณไมค์ ภัทรเดช : ก่อนถ่ายเราก็จะมีเวิร์กช็อปกันก่อน ให้เราได้รู้จักตัวละครที่ได้รับบทได้เยอะที่สุด นักแสดงทุกคนต้องทำแบ็คกราวด์ตัวละครตั้งแต่เกิดมา มีครอบครัวยังไง เติบโตมายังไง เราก็จิตนาการตามตัวละคร อย่างตัวตะวันเขาโตมากับคุณแม่ของเขาสองคน สถานะครอบครัวไม่ได้มีเงินมากแต่ก็มีความสุขมาก วันหยุดพากันขับรถเก่าๆพาลูกไปกินไอศครีมและพอวันหนึ่งแม่เริ่มทำธุรกิจจนไม่มีเวลาให้ลูกเลย เขาก็หวังว่าเมื่อธุรกิจประสบความสำเร็จแล้วแม่จะกลับมามีเวลาให้เขา ลูกตัวเล็กๆก็หวังว่าเมื่อธุรกิจประสบความสำเร็จแล้วจะกลับมาเป็นตะวันกับแม่เหมือนเดิม แต่เมื่อธุรกิจได้ประสบความสำเร็จแม่กลับมากับผู้ชายหนึ่งที่หน้าตาดีและอายุน้อยกว่าแม่ เราไม่อยากจะเชื่อว่าจะเป็นรักจริงของแม่ เวลาที่แม่ให้เรายังไม่มีเลยแต่แม่กลับเอาเวลาไปให้คนอื่นก็เลยเป็นปมของตัวละครและเขาก็หนีไปเรียนเมืองนอก และมีทำการบ้านโดยการทำตัวเองกับความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละตัว เช่น ทิวาเขาโตมากับนางเอกยังไง ตอนเด็กๆมีกิจกรรมเล่นกันยังไง ก้อนความรู้สึกตอนนั้นเป็นยังไง โตมาด้วยกันจนพ่อแม่บอกเธอไม่มีใครฉันก็ไม่มีใครเธองั้นก็คบกันไปเลยละกัน ทิวาก็คิดว่าตัวเขาก็ไม่มีใครมีแต่วิเป็นเพื่อนมาตั้งแต่เด็กเลยไม่คิกอะไรก็เลยตัดสินใจคบกัน จนตัวละครตัวนี้ไปเจอกับผู้หญิงอีกคนในภาระกิจลับเลยทำให้เกิดความรักเลยเถิด เราก็จิตนาการต่อไปว่าความรู้สึกที่เจอกับผู้หญิงคนนี้เป็นยังไงต่อไป คือต้องทำแบ็คกราวด์สตอรี่ตัวละคร ความสัมพันธ์ตัวละครเรากับตัวละครตัวอื่นๆเติบโตมาด้วยกัน เหมือนตัวร้ายผมเจอเขาครั้งแรกตอนเขาเป็นเด็กผมรู้สึกยังไงต้องก้อนความรู้สึกจริงๆตรงนั้นให้เจอนั้นคือการบ้าน แล้วก็มาทำร่วมกันกับตัวละครจริงๆกับฐิสาและสกายมานั่งคุยกันและตรงเล่นบทละครว่าเราจิตนาการตรงกันไหม

ManGu : คาแรคเตอร์ของทิวาและตะวัน มีความแตกต่างกันอย่างไร

คุณไมค์ ภัทรเดช : ตะวันจะเป็นหนุ่มนักธุรกิจมาดกวน เป็นคนที่ใจร้อน ฉลาด คิด ทำ อะไรเร็ว ออกจะเป็นหนุ่มเพลย์บอย อย่างที่รู้เขาขาดความอบอุ่นจากแม่ เลยดูเป็นคนที่ต้องการความรักและเรื่องการทำภารกิจทำให้เขาได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งและได้รู้จักว่าความรักจริงๆเป็นยังไง ส่วนทิวาเป็นหน่อยปฏิบัติการพิเศษ มีมาดสุขุมพูดน้อยแต่ดุดันไม่เกรงใจใคร ทำภารกิจลุยเดียวตัดสินใจเร็วแต่อ่อนเรื่องความรัก

ManGu : คิดว่าตัวละครคนไหนที่มีนิสัยคล้ายตัวเราที่สุดคะ

คุณไมค์ ภัทรเดช : ผมว่าคล้ายทั้งคู่แล้วแต่มุม อย่างถ้าผมตอนเด็กจะคล้ายตะวันมีความคิดเร็วทำเร็ว แต่พอโตขึ้นก็มีความคล้ายทิวา นิ่งขึ้นคิดและไตร่ตรองมากขึ้นครับ เพราะผิดพลาดจากการเป็นตะวันเยอะแล้วครับ

ManGu : ก่อนเข้าฉากมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้างคะ

คุณไมค์ ภัทรเดช : บางครั้งก็มีสับสนตัวละครบางเพราะถ่ายหนักมากคือเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แฝดเข้ากันเยอะมาก แล้วเวลาเข้ากันสมาธิต้องดีมากเพราะว่าหนึ่งเลยผมต้องรีบไปเปลี่ยนชุดและทรงผม เราต้องมานั่งหลับตาทำสมาธิเพื่อจะเล่นตัวละครอีกตัวหนึ่ง แต่โชคดีผมมีคัมภีร์ตัวละครของผมคือมันจะเป็นกระดาษที่เวลาเข้าบททิวาหรือตะวันผมก็จะหยิบใบนั้นมาดูเพื่ออ่านทบทวนคาแรคเตอร์ครับ ความยากของแฝดคือตอนเล่นเราต้องเป็นคนคุมเกมร้อยเปอร์เซ็นต์ เหมือนฉากที่ต้องตอบโต้กันเราเล่นบททิวาพอเปลี่ยนเป็นเล่นกับตะวันเราต้องดึงความรู้สึกและตอบกลับอย่างไร ถือว่าท้าทายมากครับ ผมพยายามที่จะเข้าใจตัวละครร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะเราเป็นเขา สองตัวละครจะมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว อย่างถ้าทิวาได้ยินคำนี้ก็จะรู้สึกแบบนี้ ถ้าตะวันได้ยินก็จะรู้สึกอีกอย่างหนึ่งครับ

ManGu : ความรู้สึกที่ได้เล่นประกบ 2 นางเอก อย่าง ฐิสา วริฏฐิสา และสกาย มาเรีย และช่วยพูดถึงนางของเราหน่อย

คุณไมค์ ภัทรเดช : ผมก็รู้สึกดีใจได้เล่นกับนางเอก 2 คนและผมเป็นพระเอกคนเดียว จริงๆฐิสาเป็นรุ่นพี่ในวงการของผม อายุเท่ากันแต่เข้าวงการก่อน และได้มีโอกาสได้ทำงานเข้าร่วมกันรู้สึกเขาเป็นคนเก่งและตั้งใจมากยิ่งมาเล่นบทเป็นทนายบทเขาเป๊ะมาก ต่างจากผมที่ไม่ชอบจำบทยาวๆแต่ใช้ความรู้สึกและทำความเข้าใจตัวละครมากกว่า ภายนอกเขาดูเป็นคนเรียบร้อยผมกลัวว่าเล่นบทเลิฟซีนจะไม่กล้าเล่น แต่ถึงเวลาเขาเข้าบทได้มืออาชีพมากครับ ส่วนน้องสกายเรามีติดตามดูผลงานเขาเป็นเจนใหม่ที่มีอิสระมูฟเมนต์ในการเล่นละคร  ตอนเข้าฉากผมมีเซอร์ไพร์สกับน้องเขาเยอะเหมือนกัน บางทีผมเล่นละครอารมณ์มันมาแล้วเราอยากจะพูดแต่มันไม่มีในกระดาษ แต่ความรู้สึกเรามาแล้วมันต้องพูดออกไป พอคัทแล้วผมก็รู้สึกอึดอัดว่าทำไมผมไม่พูดออกไป แต่นักแสดงบางคนพอนอกบทเขาก็จะว่าไมค์เล่นอะไรไม่เห็นมีในบทเลย แต่ผมคิดว่ามันเป็นความรู้สึกของตัวละครที่ไปได้มากกว่ากระดาษคุณไม่เซอร์ไพร์สเหรอ แต่พอเล่นกับสกายผมพูดไปสกายพาผมไปเรื่อยเลยจนผู้กำกับต้องพูดคัทเป็นกำไรของผมและคนดูมากครับ คือมันเป็นการที่เราอินและเข้าใจตัวละครมากจนทำให้อารมณ์พาไปครับ

ManGu : ซีนที่ชอบหรือประทับใจที่สุด

คุณไมค์ ภัทรเดช : มีฉากที่ผมประทับใจอยู่ประมาณกลางเรื่อง เป็นซีนที่ตัวละครไปปฏิบัติการลับ ตัวละครหนึ่งก็มาอยู่ตรงนี้ด้วยสติที่ไม่สมประกอบแต่พอรวบรวมสติได้ เขาก็จำได้แล้วว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาไม่ใช่คนที่เขาคิดแต่ก็ได้รักคนนี้ไปแล้ว เป็นช่วงเวลาที่ตัวละครรู้ตัวแล้วว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนของเขา วันหนึ่งในอีกไม่นานเขาต้องจากตรงนี้ไปและเหลือเพียงภาพความทรงจำแต่ตัวผู้หญิงไม่รู้มันและมันเป็นความทรมานครับ เป็นละครที่ผมประทับใจมวลอารมณ์ของฉากมากที่การสื่อมันกำลังบอกอะไรบ้างอย่าง ผมชอบซีนนี้ที่มันดราม่าโรแมนติกมาก และเรื่องนี้ยังมีฉากบู๊ที่โหดมากครับ

ManGu : เล่นบู๊หนักแบบนี้ได้มีทำการบ้านหรือเตรียมตัวในการเข้าฉากอย่างไรบ้างคะ

คุณไมค์ ภัทรเดช : ก่อนเล่นละครนี้ผมได้เล่นเรื่อง มธุรสโลกันตร์ และผมได้ไปเรียนบู๊มา 6 เดือน วันหนึ่งเรียน 8 ชม. เลยได้เอาความรู้ตรงนี้มาต่อยอดกับเรื่องนี้ครับ แต่เรื่องนี้เป็นการเล่นบู๊ที่สมจริงมาก ผู้กำกับเขาชอบบู๊ที่สมจริง เตะ ต่อยก็ต้องโดนจริงๆครับ กว่าจะมาเป็นละครเรื่องนี้ได้ก็ถือว่าหนักจริงๆครับ

ManGu : ทราบว่าละครได้ออนไลน์ไปแล้ว ไมค์ได้ติดตามฟีคแบคและเป็นไปตามที่คาดหวังไว้ไหม

คุณไมค์ ภัทรเดช : เรียกได้ว่าหายเหนื่อยครับ คือเราทำละครเรื่องนี้กันต้องขอบคุณผู้จัดมากๆที่ให้นักแสดงได้มีส่วนร่วมเหมือนเราได้ลงเรือลำเดียวกันและเอาความสามารถของทุกคนมาใส่เต็มที่กันในละครเรื่องนี้ ทั้งนักแสดงทุกคนที่สร้างบทตัวละครของตัวเอง ผู้กำกับ ผู้เขียนบทมานั่งฟังนักแสดงสร้างตัวละคร กว่าจะเปิดกล้องได้ทุกคนต้องไปในทิศทางเดียวกัน เต็มที่กันมากจริงๆ แน่นอนว่าต้องความคาดหวังว่าคนดูต้องเห็นในสิ่งที่เราตั้งใจทำ ตั้งพอวันแรกที่ละครออนแอร์เราไปรวมกันดูละครผมตื่นเต้นมากเพราะกลัวว่ามันจะออกมาไม่ดี มือหนึ่งก็เปิดดูฟีคแบคไปด้วย แต่สรุปว่าละครออนแอร์ไป 1 ชม. เรทติ้ง 3.4 ถือว่าเรทติ้งดีมากๆ กระแสเทรนด์ X ขึ้นเป็นอันดับ 3 เชื่อว่าตอนต่อๆไปจะสนุก เข้มข้น คุยกันมันมากขึ้น

ManGu : งานในวงการนอกจากด้านการแสดงแล้ว ยังมีด้านไหนที่ยังอยากทำไหมคะ

คุณไมค์ ภัทรเดช : ตั้งแต่เด็กเลยผมอยากเป็นนักแสดงและนักร้องครับ นักแสดงเราก็เป็นมา 10 ปี และปีที่แล้วผมเลยตัดสินใจทำเพลง แล้วก็ออกเพลงมาได้ไปร้องที่ Miss Thailand World และได้ไปออกรายการเยอะเลยครับ เป็นก้าวใหม่ของชีวิตที่มีความสุขมากครับ ผมใช้ชีวิตแบบให้ได้ทำสิ่งที่อยากทำและทำมันออกมาให้ดีที่สุดมันจะอยู่จุดไหนไม่สำคัญ แต่ถ้าไม่ได้ทำเพราะเรามั่วแต่กลัวไม่กล้า เราไม่ลงมือทำเราก็จะไม่รู้หรอกว่ามันจะออกมาดีหรือไม่ดีครับ ผมมีออกไปโปรโมทเพลงตามรายการต่างๆ ผมใช้ชีวิตเหมือนที่ผมฝันเลย รู้สึกว่ามันสนุกดีครับ มีวันหนึ่งผมนั่งฟังเพลงศิลปินที่ชอบแล้วมีฟีลที่อยากจะทำเพลงแนวนี้บ้าง เลยตัดสินใจโทรไปหาเพื่อนสมัยเรียนทำดนตรีให้และหาคนแต่งเพลง จนออกมาเป็นเพลงรางวัลที่หนึ่งครับ ผมได้ค้นพบความสามารถใหม่ของตัวเองนิดหนึ่งด้วยครับ

ManGu : สิ่งที่ไม่ควรพลาดของละครนี้เรื่องนี้

คุณไมค์ ภัทรเดช : ละครเรื่องนี้เป็นมิติใหม่ของพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นโปรดักชั่น ภาพ มุมกล้องแบบใหม่ บทเล่าอีกแบบหนึ่ง เป็นการทำงานแบบใหม่แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเราได้ดีไซน์ตัวละครของตัวเองและได้เอามาจับรวมกันผู้กำกับมีอิสระในด้านความคิด เราทุกคนทำเต็มที่กันมากจริงๆ

ManGu : เร็ว ๆ นี้จะมีผลงานอะไรให้แฟน ๆ ได้ติดตามกันอีกบ้างคะ

คุณไมค์ ภัทรเดช : ปีนี้จะมีโปรเจคเพลงและได้ร่วมถ่ายทอดบทเพลงในคอนเสิร์ตสุนทราภรณ์ ตอนแรกผมก็ไม่กล้าไปร่วม เพราะเพลงสมัยก่อนเนื้อมันไม่ซ้ำกันผมกลัวจำเนื้อไม่ได้ แต่พอลองซ้อมรู้สึกว่ามันมีเสน่ห์ตรงที่เนื้อเพลงเหมือนเป็นการเล่าเรื่องที่ดีมาก

ManGu : อยากให้ฝากอะไรถึงแฟนๆทั้งชาวไทยและชาวจีน และฝากช่องทางการติดตามหน่อยค่ะ

คุณไมค์ ภัทรเดช : ขอบคุณแฟนๆผมก็อยู่ในวงการมา 10 ปีแล้ว อยู่ทุกวันนี้ได้เพราะแฟนๆที่คอยให้กำลังใจและซัปพอร์ตเรา คอยตำหนิติชมให้เราได้พัฒนาตัวเอง ขอบคุณมากๆที่ติดตามกันทั้งแฟนคลับไทยและแฟนคลับชาวจีนครับ จะตั้งใจพัฒนาตัวเองและมีผลงานให้แฟนๆคอยติดตามต่อไป สุดท้ายก็ฝากละครเรื่องในรอยทราย ออนแอร์ทุกวันจันทร์ถึงพฤหัสบดี เวลา 20.40 น. ทางช่อง 7HD กด35 ดูย้อนหลังได้ที่แอปพลิเคชัน Bugaboo ครับ และช่องทางการติดตาม IG: @mike_pattaradet

____________________________

Thank you.
คุณภัทรเดช สงวนความดี (ไมค์) / Pattaradet Sa-Nguankwamdee (Mike)
IG: @mike_pattaradet

Location: Ch7HD

Hair：@auddy_paiboon 

Makeup：@hollyhua

____________________________

Photographer : Natchakrit Wichiensarn @ktpx.kritt
Graphic Designer : Natchaphol Jin Srijun @Banshy.j
Coordinator : Narumon Sripool @poo_ler
Column Writer : Sheldon Chan @sheldonchan1116