บทสัมภาษณ์ตรี ภรภัทร นักแสดงจากละครเรื่อง “สงครามสมรส”
เตรียมพบกับบทสัมภาษณ์ “ตรี ภรภัทร“ นักแสดงนำจากละคร“สงครามสมรส” ที่จะพาคุณลุ้นไปกับคดีความและร่วมกันเป็นพลังหญิง สามารถติดตามบทสัมภาษณ์ได้ใน ManGu Magazine issue 280
ManGu: แนะนำพร้อมผลงานคร่าวๆ
ตรี ภรภัทร: สวัสดีครับ ผมตรี ภรภัทรเป็นนักแสดงช่อง ONE 31 ผลงานที่ผ่านมีละครภาตุฆาต, เวลากามเทพ, พนมนาคาและผลงานล่าสุดตอนนี้สงครามสมรสครับ
ManGu: ละคร“สงครามสมรส” เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร และรับบทเป็นอะไร
ตรี ภรภัทร: ผมรับบทเป็นทนายภาวินท์ครับ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพลังของผู้หญิงที่มีครอบครัวแต่โดนสามีหักหลังไปแต่งงานกับคนอื่น และก็จะมีเรื่องฟ้องชู้ ฟ้องหย่า แย่งอำนาจการเลี้ยงบุตรครับ
ManGu: คาแรคเตอร์ของทนายภาวินท์เป็นประมาณไหน
ตรี ภรภัทร: คาแรคเตอร์มี 4 แบบที่วางไว้ 1. man in love (รักผู้หญิงคนนี้) 2. father (พ่อของลูก) เพราะผมมีลูกติดในเรื่อง 3. ทนาย 4.ภาวินท์ที่เป็นตัวของตัวเองที่ต้องมีไหวพริบ ชาญฉลาด รู้ทันคน ทันเหตุการณ์ เข้าใจความรู้สึกของคน
ManGu: แบบไหนที่ยากที่สุด
ตรี ภรภัทร: แบบ 3 ทนายครับ เพราะต้องท่องมาตรากฎหมายที่ยาว 7-8 หน้า พูดดีเบตในศาลพูดปกป้องลูกความเรา สืบพยานกับฝั่งตรงข้าม ทำให้ศาลเชื่อในสิ่งที่เราพูด บทที่เราไม่สามารถเปลี่ยนคำพูดได้เลย เพราะเป็นคำศัพท์เฉพาะ ค่อนข้างจะยากและท้าทายครับ
ManGu: แล้วยังมีบทบาทไหนที่เคยเล่นแล้วรู้สึกว่ายากหรือความท้าทายไหมคะ
ตรี ภรภัทร: จริงๆทุกเรื่องที่เล่นมาก็ท้าทายนะอย่างเรื่องที่แล้วก็ได้เล่นเป็นพญานาคที่อยู่มาหนึ่งพันปี อย่างที่บอกทุกเรื่องทุกบทมีความท้าทายที่ต่างกันครับ ถ้าถามว่าอยากลองเล่น psychopaths เป็นโรคจิตครับ บทส่วนใหญ่ที่เล่นมาจะเป็นแนวอบอุ่น ให้ความสุข ให้รอยยิ้ม มากกว่าครับ แต่จริงๆบททนายก็เป็นบทที่ท้าทายๆมากแล้ว
ManGu: และสำหรับบทบาทคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวเป็นอย่างไรบ้าง
ตรี ภรภัทร: ก็สนุกดีนะ น้องที่เล่นด้วยชื่อว่าน้องมะลิ เราตีความพ่อเลี้ยงเดี่ยวแบบหิวก็กินไม่หิวก็ไม่ต้องกิน อยากกินอะไรก็บอกเดี๋ยวพาไปกินเราตีความแบบนี้ ส่งลูกเรียนพิเศษทำกิจกรรมเรียนเต้น ตีแบต สถานะคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่ภาวินท์ทำได้คือมอบความสุขให้ลูกทุกอย่างหมายถึงว่าถ้ามีเวลาก็จะมอบให้ลูกอย่างเดียว เพราะนอกนั้นเราก็จะอยู่กับลูกความ ว่าความในศาลครับ
ManGu: ทราบว่าน้องมะลิแอบกลัวคุณตรีด้วย เรามีวิธีเข้าหาน้องอย่างไรบ้างคะ
ตรี ภรภัทร: แรกๆชวนน้องคุยนู้นนี้ก็ไม่รู้ว่าน้องกลัวพึ่งจะมารู้ตอนสัมภาษณ์ในกองถ่ายครับ ก่อนหน้านั้นก็มีให้ตุ๊กตา 2-3 ตัวเรียกว่าซื้อของมัดใจแต่น้องก็ยังกลัวอยู่ดี (หัวเราะ) ก็พยายามหาคำตอบว่าทำไมถึงกลัวก็ได้ยินว่ามาว่าน้องอาจจะไม่ค่อยได้อยู่กับผู้ชายบวกกับอยู่กับผู้ชายตัวสูงๆเด็กมองมาอาจจะรู้สึกกลัวหรือป่าว
ManGu:มีการเตรียมตัวอย่างไรในการแสดงละครเรื่องนี้
ตรี ภรภัทร: พอรู้ว่าได้รับบททนายผมก็มีแอบไปศาลเยาวชนเด็กคนเดียวก่อนโดยไม่ได้ขออนุญาตคืออยากรู้คาแรคเตอร์ทนายเป็นยังไง ไปสัมผัสบรรยากาศจริงๆ ไปนั่งได้แปปเดียวพี่ยามก็มาไล่ และครั้งที่ 2 ที่ไปได้มีโอกาสไปศาลอาญากับทีมผู้กำกับทีมเขียนบทได้ไปนั่งฟังคำพิพากษาคดีต่างๆ 2 คดีก็รู้สึกตื่นเต้นเพราะเป็นเรื่องใหม่สำหรับเราที่ต้องเข้าไปอยู่ในศาลแต่ศาลจริงๆกับศาลที่เราเซ็ตถ่ายบรรยากาศในละครดูตึงเครียดมากกว่าศาลจริงๆไม่ได้ตึงเครียดขนาดนั้น
ManGu: ได้ร่วมแสดงกับนักแสดงมากความสามารถอย่าง แอฟ ทักษอร และชาคริต แย้มนาม เป็นอย่างไรบ้าง
ตรี ภรภัทร: ผมรู้สึกดีใจและเป็นเกียรติในชีวิตหนึ่งเราได้โอกาสได้ร่วมแสดงกับพี่ชาคริตที่ทุกคนก็รู้ว่าพี่เขาเป็นไอดอลของผู้ชายทุกคนเป็นเหมือนอาจารย์ด้านการแสดงและนักแสดงระดับต้นๆของประเทศเลยก็ว่าได้ ส่วนพี่แอฟก็ถือว่าเป็นนักแสดงระดับต้นๆของประเทศเหมือนกันก็รู้สึกดีใจที่พี่เขาเอ็นดู รัก และสนุกไปกับเราไม่ได้เครียดหรือกดดันอะไร ผิดก็เอาใหม่ช่วยกันเสมอก็รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ร่วมงานกับเขาที่สำคัญพี่เขาใจดีและน่ารักมากครับ
ManGu: เข้าฉากเลิฟซีนกับพี่แอฟ ทักษอรเป็นอย่างบ้างคะ
ตรี ภรภัทร: ผมก็รู้สึกเขิน ตื่นเต้น เกร็ง แต่พอแอ็คชั่นเราก็ต้องสวมบทเข้าคาแรคเตอร์เขาเป็นตัวละครเราเป็นตัวละคร ถ้ามีซีนที่ต้องจูบกันผมก็จะมีขออนุญาตเข้าก่อนและขอโทษพี่เขาเป็นเหมือนให้เกียรติกันและกัน
ManGu: ซีนที่ชอบหรืออยากให้แฟน ๆ ติดตามมากที่สุด
ตรี ภรภัทร: จริงๆชอบทุกซีนนะเพราะรู้สึกว่าทุกซีนเราตั้งใจแสดงและเรารู้สึกกับทุกซีนที่เราเล่น ที่ไม่ได้เลือกมาหนึ่งซีนเพราะแต่ละซีนมีให้ข้อดีข้อคิดในผู้ชมอย่างการว่าความในศาลเป็นการสะท้อนสังคมว่าชีวิตคู่ควรหรือไม่ควรทำอะไร เชื่อว่าทุกคนจะได้เกร็ดความรู้กันบ้างเพราะฉากในศาลก็ใส่เต็มมากครับเพราะผมทำการบ้านหนึ่งเดือนเต็มๆก่อนจะขี้นศาลครับ
ManGu: รู้สึกอย่างไรกับกระแสละครเป็นที่ถูกกล่าวถึงอย่างมากในโซเชี่ยล
ตรี ภรภัทร: คาดไม่ถึงว่ากระแสตอบรับมันจะขนาดนี้เพราะเราตั้งใจทำทุกๆเรื่องและทำออกมาให้ดีที่สุดไม่มีเรื่องไหนที่เราทำเล่นๆเพราะเราคิดว่าทำเป็นหน้าที่และผมถือคติว่าทุกเรื่องที่เล่นเป็นเรื่องสุดท้ายของชีวิตผมเพราะฉะนั้นเราต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้พอมองย้อนกลับไปจะได้ไม่เสียใจ
ManGu: ฉากแร็ปกฎหมาย ฟ้องชู้ ที่ตรีร้องในละคร โดนใจทีมพลังหญิงมากที่การฝึกซ้อมนานไหมคะ
ตรี ภรภัทร: ตอนแรกไม่ใช่แร็ปเป็นพูดประมวลกฎหมายเฉยๆครับ ต้องขอบคุณพี่สันต์ ศรีแก้วหล่อผู้กำกับเขาได้ไอเดียมากจากลูกชายเขา ลูกชายเขาแร็ปท่องศีล 5 เลยเอาไอเดียไปเสนอคนเขียนบทลองเอาประมวลกฎหมายเป็นแร็ปดูไหมจะได้ดูไม่เครียดมาก เขาเลยในน้องที่เป็นเดอะสตาร์ในช่องวันเป็นเขาคิด RHYME ทั้งหมดมาให้ผม ตอนแรกก็งงๆว่าต้องแร็ปด้วยหรอ มีให้ครูสอนร้องเพลงช่วย พอแร็ปได้ก็ไปเสนอก็ได้ครับ ผมใช้เวลาซ้อม 2 วัน วันละประมาณ 2 ชั่วโมงครับ
ManGu: คนดูสามารถรอดูความฟินของพระนาง ได้ระดับไหน
ตรี ภรภัทร: ก็คงไม่ได้ฟินจ๋าเท่าเรื่องที่ผ่านๆมา เป็นเรื่องที่มีอุปสรรคมาด้วยเลยทำให้รักไม่รู้ตัวจุดเริ่มต้นความรักครั้งนี้เริ่มจากความสงสาร เห็นใจ และอยากช่วยเหลือจนกลายเป็นความรักโดยที่ไม่รู้ตัว ถามว่าหวานก็หวานแหละ ถามว่าฟินจิกหมอนไหมอันนี้ต้องรอติดตามครับ ผมว่าผู้ชมจะได้ชมเคมีใหม่ๆของผมกับพี่แอฟโดยที่เราก็ไม่เคยเล่นอะไรแบบนี้มาก่อน จะได้รับชมซีนที่มีความธรรมชาติที่ผมกับพี่แอฟเล่นแต่ไม่ได้คิดว่าจะเล่นอย่างนี้แต่มันออกมาเป็นธรรมชาติที่อยู่ในขอบเขตของคาแรคเตอร์ครับ
ManGu: เหตุผลที่ไม่ควรพลาดของละครเรื่อง สงครามสมรส
ตรี ภรภัทร: เหตุผลที่ไม่ควรพลาดละครเรื่องนี้เชื่อว่าผู้ชมจะได้รับข้อคิดของการใช้ชีวิตคู่แบบฉันและเธอ ฉันและครอบครัว ฉันและเพื่อน ฉันและคนรัก และก็ได้รู้ถึงข้อกฎหมายที่บางคนยังไม่รู้แม้กระทั่งกฎหมายเล็กๆหรือกฎหมายที่ชีวิตคู่ควรจะทำและไม่ทำคืออะไรและทางออกคืออะไร เรื่องนี้จะเป็นเกี่ยวกับพลังงานของผู้หญิง เป็นเรื่องของผู้หญิงต้องดูแลตัวเองไม่ใช่จะยอมอย่างเดียวศักดิ์ศรีของผู้ชายของผู้หญิงเท่ากัน เพราะฉะนั้นเมื่อคุณมีปัญหาคุณควรเปิดใจแล้วมาคุยกันไม่ควรเก็บไว้จนมันบานปลายจนถึงเกิดการฟ้องร้องขึ้นศาล ฟ้องชู้ ฟ้องหย่า แย่งอำนาจบุตร สิ่งพวกนี้เกิดขึ้นล้วนแล้วแต่การที่เราไม่เข้าใจกัน ไม่คุยกัน ไม่ใช่เอาความคิดของใครคนใดเป็นใหญ่ ถ้าเราลองเดินมาตรงกลางลองคุยกันปรึกษากันว่าเป็นอย่างนี้ดีไหม ปัญหาพวกนี้ก็จะไม่เกิด ดังนั้นผู้ชมก็จะได้ข้อคิดเรื่องครอบครัวมากที่สุด เรื่องกฎมาย ความรัก ที่ควรจะเป็น
ManGu: แฟนๆชาวจีนฝากถามว่าจะมีละครแนวพีเรียดออกมาให้ติดตามบ้างไหมและอยากเห็นตรีรับบทเล่นเป็นตัวร้ายด้วย
ตรี ภรภัทร: จริงๆเรื่องที่ผ่านมาที่อยู่มาพันปีจนถึงปัจจุบันเป็นเรื่องที่ย้อนไปย้อนมาระหว่างอดีตกับปัจจุบัน ถ้าผลงานในอนาคตจะมีอีกไหมก็ยังตอบไม่ได้ครับ ส่วนบทตัวร้ายนี้อารมณ์แบดบอยใช่ไหมครับจริงๆผมก็เล่นได้นะครับถ้าเขาให้เล่นนะครับ
ManGu: แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและอาหารไทยให้นักท่องเที่ยวชาวจีนหน่อยค่ะ
ตรี ภรภัทร: อากาศช่วงนี้ก็ควรจะไปทะเล ภูเก็ต กระบี่ ถ้าไม่ชอบร้อนมากก็ไปเดินอัมพวาก็ได้มีให้นั่งเรือ ช่วงนี้ภูเขาฝุ่นเยอะไม่แนะนำเท่าไรครับ อาหารผมแนะนำเป็นข้าวซอยไก่ครับ
ManGu: อยากไปเที่ยวประเทศจีนไหมคะ
ตรี ภรภัทร: ผมอยากไปเซี่ยงไฮ้ไม่เคยไปแต่อยากไป แม่ผมพึ่งไปมาเห็นบอกว่าอาหารอร่อยคนน่ารักนิสัยดี เมืองสวยครับ
ManGu: แล้วชอบอาหารจีนไหมคะ
ตรี ภรภัทร: หม่าล่าก็ชอบครับ ซาลาเปา เต้าหู้ทรงเครื่อง Mapo Tofu ก็อร่อยครับ
ManGu: เร็ว ๆ นี้จะมีผลงานอะไรให้แฟนติดตามกันอีกบ้าง
ตรี ภรภัทร: ตอนนี้อยู่ในขบวนการเตรียมบทครับ และก็ฝากละครเรื่องสงครามสมรสด้วยครับ
ManGu: สุดท้ายฝากอะไรถึงแฟนคลับที่ติดตามและซัพพอร์ตเรามาตลอด พร้อมฝากช่องทางกาติดตามของเรา
ตรี ภรภัทร: ฝากถึงแฟนคลับที่ติดตามหรือคนไม่ได้ติดตามแต่ดูละครผมก็ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่คอยซัพพอร์ตและเชียร์อัพกันเสมอ ถ้าสมมุติไม่มีคนให้กำลังหรือแฟนคลับก็คงไม่มีแรงทำอะไรได้ถึงทุกวันนี้เพราะแฟนคลับเป็นกำลังใจสำคัญในการทำงานจริงๆครับ เวลาเราทำงานมีผลงานและมีคนคอยซัพพอร์ต คอยอยู่ข้างๆเรามันเป็นพลังทางกายและใจที่เป็นพลังบวกอยากทำงานต่อไปเรื่อยๆ ทำให้คนดูได้เอ็นจอยไปกับเรา ยังไงก็ก็ขอบคุณทุกแรงใจแรงเชียร์ครับ และสามารถติดตามได้ที่ IG: @treporapat