news-details

MANGU E-Magazine Cover Story Issue 223 (1st January 2022) สัมภาษณ์ คุณวราวุธ เจนธนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ZENSE Entertainment

  สัมภาษณ์ Cover Story A-Varavuth Jenthanakul / คุณวราวุธ เจนธนากุล (คุณเอ)

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ZENSE Entertainment

ตลาดของรายการวาไรตี้ในเอเชียในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเปรียบเสมือนดอกไม้นานาชนิดบานสะพรั่ง ไม่ว่าจะเป็นประเทศจีน ประเทศเกาหลีใต้และประเทศไทยที่ได้ผลิตคอนเทนต์อย่างมากมาย ในชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบันราวกับความยาวของซีรีส์ วัยรุ่นจำนวนมากสามารถรับชมรายการวาไรตี้เพื่อผ่อนคลายความสบายใจ ช่องทางแพลตฟอร์มออนไลน์ใหญ่ของประเทศจีนได้ผลิตคอนเทนต์มากมาย เช่น รายการ U Can U Bibi , Sisters Who Make Waves , The Exciting Offer รายการวาไรตี้ของประเทศเกาหลีใต้ก็ได้ผลิตคอนเทนต์ต่างๆเช่นรายการ Running Man, Infinite Challenge, PRODUCE 101 ส่วนสำหรับรายการวาไรตี้ในประเทศไทย เหมือนกับว่ามีคนทำงานเก่งอย่างเงียบๆ ขณะที่รายการวาไรตี้คุณภาพสูงจากต่างประเทศที่เป็นการซื้อลิขสิทธิ์มาผลิตใหม่ ก็ยังสามารถมีกระแสที่ดีมากๆ ที่ประเทศไทยมีบริษัทที่ผลิตรายการจำนวนไม่น้อย แต่ว่าทุกรายการที่สามารถดังเป็นพลุแตกได้ ก็คงมีแต่บริษัท ZENSE Entertainment

ในปี 2553 บริษัท ZENSE Entertainment ได้ผลิตรายการ ศึกน้ำผึ้งพระจันทร์ รายการเกมโชว์คู่รักคนดัง โดยมีรางวัลเป็น Honeymoon Trip และได้เข้าชิงรางวัล Asian Television Awards 2011 ตั้งแต่ปี 2554-2561 ทางบริษัทก็ได้ผลิตรายการหลากหลายสไตล์มาตอบโจทย์ให้แฟนๆ ไม่ว่าจะเป็นรายการ เกมเนรมิต , Guess My Age รู้หน้า ไม่รู้วัย, The Bus รถมหาสนุก , เปลี่ยนหน้าท้าโชว์ SING YOUR FACE OFF รายการเรียลลิตี้, ซิทคอม ต่างๆ ซึ่งทุกๆ ผลงานที่ผลิตจะได้รับกระแสและเรตติ้งที่ดีมาโดยตลอด รายการวาไรตี้เหล่านี้กลายเป็นรายการที่ถ้าดาราไทยคนไหนอยากมีชื่อเสียงก็จะผ่านรายการนี้เพื่อโปรโมท จุดเด่นของ ZENSE Entertainment คือการไม่หยุดที่จะผลิตคอนเทนต์ที่แตกต่างและการมีวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ในฐานะผู้ผลิตรายการคอนเทนต์ชั้นนำของประเทศ ZENSE Entertainment ได้ร่วมมือกับทางผู้ผลิตรายการชั้นนำระดับนานาชาติ ในการพัฒนาและผลิตรายการใหม่ๆ หลากหลายรูปแบบ โดยการซื้อรายการทีวีฟอร์แมตซ์ชั้นนำจากต่างประเทศมาปรับใช้ให้เข้ากับความต้องการของผู้ชมชาวไทยมากที่สุด เช่นรายการ Step Right Up Thailand , The Money Drop Thailand, Show Me The Money Thailand ซึ่งรายการเหล่านี้ได้รับความนิยมอย่างมากเมื่อออกอากาศ

การที่บริษัทหนึ่งจะประสบความสำเร็จได้ จำเป็นต้องมีเบื้องหลังที่เหนียวแน่นเก่งกาจ และหัวเรือของบริษัท ZENSE Entertainment นั้นก็คือพิธีกรชื่อดังของเมืองไทย “คุณเอ วราวุธ เจนธนากุล” เขาเป็นนักวิเคราะห์การเงิน แต่ด้วยโอกาสครั้งนั้น หลังจากที่เขาได้พูดคุยกับพิธีกรรุ่นพี่ท่านหนึ่ง ก็โดนรุ่นพี่ท่านนั้นดึงเข้ามากลายเป็นพิธีกรดาวรุ่งแห่งวงการไปโดยปริยาย และนี่คือจุดเปลี่ยนชีวิตของเขา รายการที่เขาทำดังเป็นพลุแตกมากกว่า 10 รายการ เขาถึงขั้นเคยได้รับฉายาว่าเป็น "เจ้าพ่อแห่งวงการเกมโชว์" แต่ความสำเร็จของเขาไม่ได้ทำเพื่อตัวเองเท่านั้น แต่เขายังมีความทะเยอทะยานมากกว่านั้น คนที่สามารถเปลี่ยนชีวิตของตัวเองนั้นเห็นมากนัก แต่คนที่สามารถเป็นต้นแบบของวงการนั้นหาได้ยาก เขามองวงการบันเทิงด้วยมุมมองของนักธุรกิจ มีทั้งสายตาที่กว้างไกลด้วยความเป็นนักธุรกิจ และมีทั้งมุมมองความคิดสร้างสรรค์ด้วยอารมณ์ศิลปิน ในปี 2021 ครบรอบ 12 ปีของบริษัท ZENSE Entertainment ในเวลาเพียงแค่ 10 ปี ภายใต้การกำกับดูแลของคุณเอ วราวุธ ผลงานที่ผลิตออกมานั้นมีมากถึง 50 กว่ารายการ และยังมียอดวิวหลายสิบล้านครั้งจากแพลตฟอร์มใหญ่ต่าง ๆ ตั้งแต่รายการความรัก เกมโชว์ ดาราเรียลิตี้โชว์ ไปจนถึงรายการ "ลูกทุ่งไอดอล" รายการเกมโชว์ต่าง ๆ บริษัท ZENSE Entertainment นั้นไม่เคยหยุดพัฒนาหารายการแนวใหม่ การแข่งขันรูปแบบใหม่ และในขณะเดียวกันก็มุ่งมั่นนำอัตลักษณ์ความเป็นไทยไปสู่สายตาชาวโลกอีกด้วย ในปี 2022 คุณเอ วราวุธก็ได้มีรายการใหม่บนช่องยูทูป โดยใช้ชื่อรายการว่า "A-Mazing เดินหาเรื่อง" รายการที่จะพาไปค้นหาเรื่องราวต่างๆ พูดคุยกับบุคคลที่หลากหลายอาชีพตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ และเชื่อแน่นอนว่าเราจะได้เห็นรายการดีๆ ที่หลากหลายของ ZENSE Entertainment ในปีหน้าอย่างแน่นอน

 

ManGu แนะนำตัวพร้อมประวัติคร่าวๆหน่อยครับ

VARAVUTHสวัสดีครับผมเอ วราวุธ เจนธนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ZENSE Entertainment ครับ จริงๆ ผมเป็นคนกรุงเทพฯ นี่แหละครับเป็นลูกชายคนโตมีพี่น้องทั้งหมด 3 คน จบจากโรงเรียนอัสสัมชัญที่มัธยมต้น พอมัธยมปลายก็ไปต่อที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาครับ ปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีเรียนเกี่ยวกับไฟแนนซ์ แล้วพอจบปุ๊บก็ไปทำงานครับ ทำงานอยู่ประมาณสัก 6 ปี 7 ปีกว่าๆครับ แล้วก็ไปเรียนต่อปริญญาโท MBA มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น เสร็จแล้วก็กลับมาทำงาน ทำงานอยู่ประมาณ 3 ปีครับก็ออกมาทำบริษัท ZENSE Entertainment ครับ

ManGu ทราบมาว่าคุณวราวุธเรียนปริญญาตรีและปริญญาโทด้านการเงิน ทำไมเราถึงตัดสินใจมาเรียนด้านนี้และอะไรคือจุดพลิกผันทำให้เรามาทำงานด้านสื่อครับ

VARAVUTHตอนนั้นมีไอเดียที่อยากจะพาบริษัทที่ทำเกี่ยวกับ Content ไปคุยกับช่องโทรทัศน์ในประเทศจีน ตอนนั้น Content ไทยยังไม่เคยไปต่างประเทศเลย ในมุมองของผมประเทศจีนเป็นประเทศที่มีศักยภาพมาก ตอนนั้นเลยได้ไปประเทศจีนแล้วมีโอกาสพบพี่ตา ปัญญา นิรันดร์กุล และ พี่จิก ประภาส ชลศรานนท์ ผู้บริหารที่ Workpoint ครับ ก็ได้พูดคุยกันจนกระทั่งมาสัก 3 วัน วันที่จะส่งเขากลับที่เซี่ยงไฮ้จำได้เลยตอนไปส่งที่สนามบิน เขาเดินมาบอกว่า “คุณเป็นพิธีกรได้นะ" ผมก็แบบเหรอครับ ขอบคุณยกมือไหว้ ถ้าถามว่าสนใจไหมก็ไม่สนใจ ตอนนั้นยังไม่มั่นใจ ผมยังไม่เคยคิด เราไม่เคยคิดเลยใช้คำนี้ดีกว่า คือเราเรียนการเงินธนาคารเรียนเกี่ยวกับบัญชี Marketing เราก็ไม่เคยรู้จักเลยว่าจะทำยังไงก็เลยไม่เคยอยู่ในหัวจริงๆ ก็ต้องบอกว่าก็เหมือนปฏิเสธเขาไป แต่ว่าพอผ่านไปสัก 3 เดือนผมมีโอกาสกลับมาเจอ CFO ตอนนั้นเขาก็เลยบอกว่า ไปเยี่ยมพี่ตา ปัญญา นิรันดร์กุล และ พี่จิก ประภาส ชลศรานนท์ หน่อย ก็เลยไปเยี่ยมทั้งสองท่าน เขาก็เลยจับเทสหน้ากล้องแล้วบอกกับเราว่า “คุณขึ้นไปเป็นพิธีกรแล้วลองพูดดู” พอมาถึงตรงนี้แล้วก็ลองทำดู ไม่เป็นอะไรหรอก ถือเป็นประสบการณ์อีกแบบ พอผมเทสหน้ากล้องเสร็จ ประมาณ 2 อาทิตย์ เขาแจ้งผมว่าให้มาเป็นพิธีกรเลย ผมก็ปฏิเสธบอกเขาว่าเราไม่ว่าง แต่ว่าสุดท้ายเขาก็บอกว่าภายในเดือนนึงขอสักวันหนึ่งได้ไหม เราก็บอกเขาว่าลองดูครับ นี่คือเป็นก้าวแรกที่ได้มาเป็นพิธีกรของผมครับ

 

ManGuหลังจากนั้นคุณวราวุธก็ได้เปิดบริษัทเลยไหมครับ

Varavuthใช่ครับ อีกประมาณสัก 2 ปีกว่าๆ ผมก็ถือโอกาสมาเปิดบริษัท ZENSE Entertainment ครับ ก็เลยผลิตรายการแรกชื่อรายการ ศึกน้ำผึ้งพระจันทร์ ตอนนั้นก็ต้องบอกว่าเป็นรายการที่เราพัฒนามาเกี่ยวกับเรื่องความรัก คู่รัก แต่ว่าก็พยายามใส่เรื่องราว มี Reality เซอร์ไพรส์ขอแต่งงานซึ่งมันก็เลยเกิดกระแสขึ้นมาแล้วก็ได้รับการยอมรับจากหลายๆ ที่ หาประสบการณ์ในการผลิตรายการมาเรื่อยๆ นะครับ วันนี้ก็ครบรอบ 12 ปีในการก่อตั้งบริษัท ZENSE Entertainment ครับ

ManGu รู้สึกอย่างไรบ้างครับที่ปีนี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในงานมอบรางวัล Asian Television Awards อีกครั้งในสาขา Best Entertainment Present และ Best Game or Quiz Programme จากผลงาน “เตะสู้ฝัน”

VARAVUTHตั้งแต่ตั้งบริษัทมาเราก็พยายามส่งผลงานเข้าประกวดนะครับ กลับไปเมื่อสัก 10 ปีที่แล้วนะเราไม่ได้รางวัล ผมลองส่งผลงานไป 7 ครั้งไม่เคยได้เลย มีโอกาสได้แค่ไปปรบมือให้เขา แต่มันก็เป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้ว่าวันนึงเราจะต้องทำให้ได้ ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปี ก็เพิ่งได้มารางวัลแรก ตอนนั้นคว้าไป 2 รางวัลเลย อย่างที่บอกทุกรางวัลที่ได้เกิดมาจากทีมเวิร์คครับ

 

ManGu สำหรับทุกๆ ปีบริษัทจะผลิตรายการใหม่ออกมา สำหรับคุณวราวุธแล้วจะรับหน้าที่เป็นพิธีกรทุกครั้งไหมครับ

VARAVUTHอย่างที่บอกเราก็ทำงานร่วมกับพิธีกรชื่อดังอยู่แล้ว ก็อยากจะเปิดโอกาสรับพิธีกรหน้าใหม่เข้ามาบ้างครับ แต่ด้วยแพลตฟอร์มที่เกิดขึ้นใหม่ทำให้ น้องๆ รุ่นใหม่เองก็มองหาช่องทางอื่นๆ ด้วยครับ แต่เราเองก็ให้โอกาสเขาอยู่ตลอดครับ

 

ManGu ปัจจุบันผู้ชมไม่ได้รับชมทางช่องทีวีอย่างเดียว แต่ก็มีทาง Social Media หลายช่องทางเลยครับ ทางช่องทางอินเตอร์เน็ต อยากทราบว่าทางคุณวราวุธเองก็มีไปดูเทรนพวกนี้ว่าเขาทำอะไรบ้างใช่ไหมครับ มีอะไรที่ผู้ชมทางโทรทัศน์ต้องรับรู้บ้างไหมครับ

VARAVUTHจริงๆ ต้องบอกว่าเราโฟกัสด้านนี้มาตลอด เรามี Global Partner ที่คอยเสนอรายการ เราพัฒนารายการร่วมกับหลายๆ ประเทศด้วยเหมือนกัน เช่น ประเทศจีน ประเทศเกาหลีใต้ ประเทศญี่ปุ่น เราเลยต้องเรียนรู้และพัฒนาอยู่ตลอดครับ

ManGu ต้นทุนการผลิตรายของประเทศไทยถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆในเอเชียเป็นอย่างไรบ้างครับ

VARAVUTHจริงๆ แล้วเราได้ส่งรูปแบบฟอร์แมตซ์รายการที่คิดและผลิตขึ้นเองและส่งต่างประเทศ เช่นประเทศเวียดนาม ประเทศอินโดนีเซีย แต่ว่าช่วงโควิดทำให้ต้นทุนการผลิตรายการลดลงครับ เพราะมันทำให้ทุกคนต้องปรับตัวหมด ปีนี้ประเทศไทยมีความยากลำบากหน่อยในการผลิต Content เราคงไม่ได้เห็นรูปแบบใหญ่ๆ อีกสักพัก คงไม่ได้เห็นอะไรใหม่ๆ ใหญ่ๆ แบบนั้นแล้ว คงต้องปรับตัวกันสักพักครับ

 

ManGu : คุณวราวุธคิดว่าจุดเด่นของรายการวาไรตี้ในทวีปเอเชียคืออะไรและการผลิตรายการวาไรตี้ในประเทศไทยจะหยิบยกจุดเด่นของรายการวาไรตี้ในประเทศอื่นมาปรับใช่ไหมครับ

VARAVUTHโฆษณาเมืองไทยเป็นโฆษณาที่มีความ Creative จุดเด่นคือผมว่าคนไทยมีความกล้าอยากทำอะไรใหม่ๆ มีความกล้าที่จะทำ จุดนี้เองผมว่ามันก็เลยอาจจะเป็นจุดเด่นขึ้นมาครับ

 

ManGu เวลาคุณวราวุธไปรับชมรายการของประเทศอื่นๆ ปัจจัยแรกที่เราควรสนใจควรโฟกัสคืออะไรครับ

VARAVUTHในมุมมองของผมวิธีที่ผมเลือกรายการจะเป็นเอาตัวเองเป็นเกณฑ์ ดูแล้วเราอยากดูต่อ ว่าเราดูแล้วสนุกไหม รายการนี้น่าสนใจไหม ผมอาจจะเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ผมเป็นคนสนุกกับอะไรยาก ตลกกับอะไรยาก ถ้าภาษาไทยเขาเรียกว่า เส้นลึก 555 แต่ถ้า เราดูแล้วเรารู้สึกตลก ผมคิดว่าอีก 90% ในเมืองไทย ก็น่าตลกน่าสนุกไปด้วย 555 ก็เลยเอาตัวเองเป็นที่ตั้งก่อน อย่างที่สองก็คือคนข้างๆ ดูคนรอบๆ ข้างว่าเขาตลกไหมเขาสนุกไหม

 

ManGu : สำหรับการเป็นพิธีกร ถ้ารายการจะสนุกหรือไม่สนุก เราจะเห็นได้ชัดเลย อยากทราบว่าคุณวราวุธมีวิธีจัดการอย่างไรครับ

VARAVUTH ผมจะอินกับสิ่งที่ผมทำมากกว่า อินแทนว่าผู้ชมเองว่าเขาอยากถามอะไร อยากทราบอะไร ผมให้เกียรติทุกๆ คนที่ผมคุยด้วย ผมคิดว่าการคุยแต่ละครั้งเนี่ยทำให้ตัวผมเองก็ได้ความรู้ไปด้วย เหมือนแลกเปลี่ยนความรู้ความสนุกซึ่งกันและกันด้วยครับ

ManGu : ถ้าเกิดคุณวราวุธไม่ได้มาทำงานด้านนี้ คิดไว้ไหมครับว่าจะทำทางด้านไหน

VARAVUTH: ผมก็คงอยู่กับตัวเลขอยู่กับการลงทุน มันอาจจะเป็นชีวิตที่ Routine กว่านี้ก็ได้ แต่การได้มาทำด้าน Entertainment ผมรู้สึกว่าเป็นอะไรที่ตื่นเต้นและท้าทายอยู่ตลอดเวลา เพราะมันได้เห็น Feedback ที่กลับมาอย่างรวดเร็ว

 

ManGu : ที่ประเทศจีน นอกจากงานพิธีกรแล้ว เขายังเป็นเป็นนักร้อง นักแสดง ใน 10 ปีที่ผ่านมาคุณวราวุธเคยคิดจะลองไปทำด้านนี้ดูบ้างไหมครับ

VARAVUTH: ไม่เคยคิดเลยครับ แค่มาเป็นพิธีกรก็รู้สึกว่ายากสำหรับเรา ถ้าให้เล่นละครด้วยอาจจะไม่ถนัด ถ้าให้ร้องเพลงฟังกันเองอาจจะสนุก 5555 แต่ถ้าให้ไปร้องเป็นมืออาชีพอาจจะสู้ไม่ไหว 555 แค่รู้สึกว่าให้เราอยู่ในพื้นที่ที่เราทำได้ดีก่อนดีกว่า ที่อื่นๆให้น้องๆเขาสนุกสนานกันไปดีกว่าครับ 5555

 

ManGu : ในอาชีพพิธีกรมักจะพบผู้คนมากมาย โดยปกติจะแบ่งเป็น 2 ประเภทคือคนที่มีชื่อเสียงและคนทั่วไปสำหรับคุณวราวุธแล้วระหว่างสัมภาษณ์คนมีชื่อเสียงและคนทั่วๆไป เราสนใจสิ่งไหนเป็นพิเศษครับ

VARAVUTH: คุยกับคนทั่วไปก็สนุกไปอีกแบบนึง บางที่เราก็เจอคนเงียบ บางทีเราก็เจอคนสนุก ผมรู้สึกว่าชอบทั้ง 2 แบบเลยครับ คิดว่าอยู่ที่ Content มากกว่าครับ

ManGu : คนไทยมีวัฒนธรรม ประเพณีต่างๆ คุณวราวุธคิดว่าอยากจะนำสิ่งเหล่านี้ไปเผยแพร่สู่สากลไหมครับ

VARAVUTHผมมีเป้าหมายอยากจะสร้างรูปแบบที่มันเป็นสากลจริงๆ เช่น The voice รูปแบบที่สามารถขยายได้ไปทั่วโลก ผมคิดว่าศักยภาพของคนไทยทำได้ เพียงแต่ว่าเรายังไม่มีโอกาสได้ทำอย่างจริงจัง แต่ถ้าถามว่าวัฒนธรรมไทยไหนที่หลากหลายและได้รับกระแสที่ดี ยกตัวอย่างคือ อาหารไทยครับ แต่ผมหวังว่าไม่ว่าจะเป็นอาหารไทยหรือว่าอาหารพื้นบ้านก็อยากจะทำให้อาหารไทยเหล่านี้มีชื่อเสียงดังก้องโลกครับ

 

ManGu ไม่นานมานี้คุณวราวุธเพิ่งปล่อยรายการออนไลน์ใหม่ในช่องทาง Youtube ช่วยเล่าที่มาที่ไปให้ฟังหน่อยครับ

VARAVUTH: ปัจจุบัน ZENSE Entertainment ได้พัฒนาในหลากหลายแพลตฟอร์ม โดยในแพลตฟอร์ม Youtube มียอดผู้ติดตามกว่า 7 ล้านคน ใน Facebook รวมทุกรายการก็มียอดผู้ติดตามเกือบ 10 ล้านคน รวมถึงผู้ติดตามในแพลตฟอร์ม Tiktok ที่ล้นหลาม ส่วนคอนเทนต์ในยูทูปจะเป็นในส่วนของไลฟ์สไตล์มากขึ้น มีหลากหลายรายการครับ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของผมเอง ชื่อรายการ A-Mazing เดินหาเรื่อง ก็คือเดินไปหาเรื่องมาเล่าให้ทุกคนฟัง เรามี Influencer ที่จะมาทำคอนเทนต์กับเรามากขึ้น เดี๋ยวจะอยู่ในช่อง ZENSE Entertainment ก็ฝากทุกคนเข้าไป Subscribe กันด้วยนะครับ

ManGu: ที่ประเทศไทยมีชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมาก ปัจจุบันมีชาวจีนจำนวนไม่น้อยที่เลือกมาใช้ชีวิต ทำงานที่ประเทศไทย รวมถึงที่คุณวราวุธก็เป็นลูกหลานคนซัวเถา คุณวราวุธเคยพิจารณาในการทำรายการวาไรตี้สำหรับคนไทยเชื้อสายจีนไหมครับ

VARAVUTHจริงๆ ต้องบอกว่า สเกลรายการโทรทัศน์เมืองจีนนั้นใหญ่มากจริงๆ 555 ถามว่าเคยคุยกันบ้างไหม เคยคุยครับ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ร่วมงานกันครับ แน่นอนว่าปัจุบันซีรีส์ไทยก็ได้นำเสนอในมุมมองคนจีนอยู่ไม่น้อย เราก็สามารถส่งต่อภาพลักษณ์และวัฒนธรรมเหล่านี้สู่สายตาโลกได้ครับ

 

ManGu ถ้าให้คุณวราวุธเป็นผู้จัดรายการประกวดแข่งขันที่เลือกหรือว่ารับสมัคร พิธีกรรุ่นใหม่ ต้องมีเงื่อนไขอะไรบ้างครับ

VARAVUTHต้องบอกว่าถ้าเป็น Reality ค้นหาพิธีกร ทักษะจริงๆ ของพิธีกรคือ ต้องเข้ากับรูปแบบของรายการ หัวใจของรายการ ว่ารายการสนุกตรงไหน แล้วสามารถสร้างความสนุกให้คนดูได้หรือเปล่า อย่างที่สองคือทักษะด้านภาษา พิธีกรที่ดีต้องไม่ขาดทักษะการเรียบเรียงภาษาและคำพูด เหล่านี้เองคือคุณสมบัติที่ดีของพิธีกรครับ

ManGu สำหรับบริษัทแล้วคุณวราวุธมีการวางแพลนในอนาคตอย่างไรบ้างครับ

VARAVUTHผมอยากให้ ZENSE Entertainment สามารถสร้างคอนเทนต์ไปได้ในทุกแพลตฟอร์มครับ ในทุกๆ ด้านไม่ว่าจะเป็น เกมโชว์ ดราม่า ซีรีส์ วาไรตี้โชว์ ทาเลนท์โชว์ เราก็จะเป็นบริษัทที่แข็งแรงทางด้านนี้ ส่วนตัวผมก็ยังอยากเป็นพิธีกรอยู่ครับ ถ้าคนดูเขายังอยากดูผมอยู่นะ 555

 

ManGu เวลาว่างๆ งานอดิเรกของคุณวราวุธคืออะไรครับ

VARAVUTH:อ่านหนังสือ คิดทบทวน รับฟัง ผมชอบการรับรู้ข้อมูลผ่านการอ่านหนังสือ ฟังความคิดเห็นทัศนคติของคนอื่นไปปรับใช้ และยังชอบการรีวิวร้านอาหารและไปนั่งที่ทะเลด้วยครับ

 

ManGu การเป็นพิธีกรกับการเป็นผู้บริหารรู้สึกว่าแตกต่างกันไหมครับ

VARAVUTH:แน่นอนเลยครับแตกต่างเพราะมันใช้คนละสกิลกันเลยครับ ในส่วนการเป็นพิธีกรมันยากที่ตัวเนื้อหา แต่ในส่วนการเป็นผู้บริหารมันยากตรงที่บริหารคน คือเราต้องทำงานร่วมกับคน แล้วการที่จะวิเคราะห์ปัญหาต่างๆ ที่เข้ามาอันนี้ก็เป็นอีกสกิลนึงที่เราต้องเรียนรู้กันไป

ManGu มีผลงาน วรรณกรรม หรือละครอะไรของประเทศจีนที่ชอบดูไหมครับ

VARAVUTH: เอาเป็นตอนเด็กๆละกันครับ เรื่องมังกรหยกครับ ผมโตมากับละครเรื่องนี้ครับ

 

ManGu ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับจากประเทศจีนว่าเป็นประเทศที่ถ้าหมดการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวชาวจีนอยากไปมากที่สุด สำหรับคุณวราวุธแล้วมีวิวทิวทัศน์หรืออาหารอะไรที่อยากแนะนำครับ

VARAVUTHผมอยากแนะนำทะเลของประเทศไทยครับ ประเทศไทยมีธรรมชาติที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ประกอบกับอาหารไทยก็อร่อย เลยอยากแนะนำครับ

 

ManGu สุดท้ายมีอะไรอยากบอกผู้อ่านชาวจีนครับ

VARAVUTHขอขอบคุณแฟนคลับชาวจีน แฟนคลับนิตยสาร @Mangu ก็หวังว่าวันหนึ่ง ZENSE Entertainment จะมีโอกาสไปผลิตรายการที่ประเทศจีนเหมือนกันครับ อยากให้ติดตามกันครับ ขอบคุณครับ

Thank you

 A Varavuth Jentanakul / วราวุธ เจนธนากุล (เอ)

IG : @a_varavuth

特别感谢 : PR Team

感谢拍摄场地: ZENSE Entertainment 

 

Photographer : Sarator Bunkobsongserm @iccesrt

Graphic Designer : Satamed Kunawattana @Pdillustrator

Coordinator / Interviews : Patthanapong Polpiboon @plyyp

Column Writer : Ausanee Minsulaiman @ausanee.nee 

     

You can share this post!

MANGU E-Magazine Cover Story Issue 224 (15th January 2022) สัมภาษณ์ อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม นักแสดงนำจากภาพยนตร์ “ไสหัวไป นายส่วนเกิน Go Away Mr.Tumor”

MANGU E-Magazine Cover Story Issue 222 (15th December 2021) สัมภาษณ์ คุณซุง ชง ทอย ประธานบริษัท Shrinkflex บริษัทผลิตบรรจุภัณฑ์อันดับหนึ่งของประเทศไทย