Interview

สัมภาษณ์ คุณอำไพพร จิตต์ไม่งง ผู้กำกับยอดเยี่ยมจากละครเรื่อง  “อกเกือบหักแอบรักคุณสามี”  งาน Siam Series Awards

“อุ้มรัก” “สูตรเสน่หา” “เกมร้ายเกมรัก” “สามีตีตรา” “แอบรักออนไลน์” “ปัญญาชนก้นครัว” “อกเกือบหักแอบรักคุณสามี” ไม่ว่าจะเป็นบทละคร นักแสดง เนื้อเรื่องหรือการกำกับ เชื่อว่าผู้ชมละครไทยส่วนใหญ่จะมีความประทับใจกับละครเหล่านี้มาโดยตลอด และบางคนอาจจะยังไม่ทราบว่าละครเหล่านี้ ถูกสร้างสรรค์ด้วยผู้กำกับหญิง ที่เขาได้ถ่ายทอดเรื่องราวในทุกๆบทบาท ทุกๆเนื้อเรื่อง ออกมาอย่างดีที่สุด เขาไม่เพียงแต่เป็นแค่ผู้กำกับ แต่เขาเปรียบเสมือนบุคคลต้นแบบในวงการบันเทิง เขาคือคุณอำไพพร จิตต์ไม่งง

ตลอดหลายปีในการกำกับการแสดง คุณอำไพพรมีรางวัลการันตรีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเวที โทรทัศน์ทองคำ , คมชัดลึกอวอร์ด , Maya Awards , นาฏราช และล่าสุดกับเวที “เชื่อมสายสัมพันธ์ไทย – จีนเชิดชูผู้สร้างสรรค์ซีรีส์ละครไทยและซีรีส์จีน” เพื่อมอบรางวัลเชิดชูผู้สร้างสรรค์ผลงานคุณภาพ งาน Siam Series Awards 2021 โดยคุณอำไพพร จิตต์ไม่งง ได้รับรางวัล ผู้กำกับยอดเยี่ยม จากผลงาน “อกเกือบหักแอบรักคุณสามี” นิตยสาร @ManGu ฉบับนี้จะขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักผู้กำกับหญิงมากความสามารถ “คุณอำไพพร จิตต์ไม่งง”

ManGu : ช่วยเล่าประวัติคร่าวๆหน่อยครับ

Ampaiporn : พี่แอ้วเกิดที่กรุงเทพค่ะ ส่วนตอนเรียนพี่แอ้วเรียนมัธยมต้นที่สตรีศรีสุริโยทัย และสอบติดมัธยมปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และสอบได้คะแนนอันดับหนึ่งคณะอักษรศาสตร์จุฬา จริงๆก็อยากเรียนคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วย เขาก็แนะนำให้ลองอันดับหนึ่งเป็นจุฬาก่อน ก็เลยได้มาเรียน อักษรศาสตร์ของจุฬา ก็มีคนถามพี่แอ้วเราเรียนภาษาแล้วทำไมถึงได้มาเป็นผู้กำกับ จริงๆในคณะอักษรฯ มีภาควิชาศิลปะการละครอยู่ ซึ่งตอนนี้ก่อตั้งมาครบ50ปีแล้วค่ะ ซึ่งเป็นเอกศิลปะการละคร โทภาษาอังกฤษ แต่พี่แอ้วเรียน acting กับ directing จะไม่ได้เน้นไปทางละครทีวีหรือว่าหนังเลย แต่เราเรียนเป็นละครเวที แต่พี่แอ้วเน้นแต่ acting กับ directing พอจบมาก็พี่ยุ่น ยิ่งยศ ปัญญา เขาเป็นรุ่นพี่เขาก็ชวนมาเป็นผู้ช่วยในละคร แล้วก็มาเจอพี่ชนะ เขาเห็นว่าเราเป็นผู้ช่วยกำกับเลยชอบ ก็ลองให้มาทำงานกับพี่ชนะและพี่จิ๋ม มยุรฉัตร ประมาณ 8 ปี พี่จิ๋มก็บอกว่าถึงเวลาแล้วแหละอยากให้เรากำกับเอง แต่พี่แอ้วก็ไม่ยอม แกส่งหนังสือนิยายให้เล่มนึงไปกำกับ เรื่องแรกก็เลยได้กำกับของทางช่อง 3 แล้วตั้งแต่นั้นมาก็อยู่กับช่อง 3 มาตลอดค่ะ

ManGu : ก่อนอื่นก็ขอแสดงความยินดีกับผู้กำกับยอดเยี่ยมจากละครเรื่อง “อกเกือบหักแอบรักคุณสามี ” งาน Siam Series Awards รู้สึกอย่างไรกับรางวัลที่ได้รับมาครับ

Ampaiporn : รู้สึกดีใจค่ะ จริงๆแล้วต้องขอบคุณแฟนแล้วก็ท่านผู้ชมนะคะ ที่เขาชื่นชมผลงานที่ทำร่วมกับแอน (แอน ทองประสม) ตอนนั้นแฟนคลับของแอนที่จีนก็มาเมืองไทยตอนที่แอนถ่ายละครอยู่ มันก็รู้สึกอบอุ่น เราก็เลยรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของแอนไปด้วย แฟนคลับชาวจีนก็ยังเหนียวแน่นกับละครไทย จนมาถึงตอนนี้แอ้วยังเป็นผู้กำกับแต่ก็เปลี่ยนรุ่นนักแสดงแล้ว แฟนคลับชาวจีนก็ยังชื่นชมละครไทย ยังชื่นชมนักแสดงไทย ค่ะ

ManGu : ช่วยเล่าประสบการณ์การกำกับที่ผ่านมาให้ฟังหน่อยครับ

Ampaiporn : เรื่องอกเกือบหักแอบรักคุณสามี พี่แอ้วสนุกมากเลยค่ะ และก็ได้เจอมิว (คุณมิว นิษฐา จิรยั่งยืน) เป็นครั้งแรก ก็ได้เรียนรู้ว่าเขาเคยแอบรักผู้ชายไหมนะ 555 แล้วเขาก็เล่นกับหมาก (คุณหมาก ปริญ สุภารัตน์) ได้แบบสนุก เคมีเขาเข้ากันมาก วันแรกก็ยากหน่อยเหมือนนับ 1 ไปด้วยกัน จนถึงวันนี้พอเห็นแล้วผลงานก็ออกมาเป็นที่พอใจมากค่ะ

ManGu : ปัจจุบันในการกำกับละครทุกเรื่องเรามีความกดดันไหมครับ อย่างเช่น เรทติ้งต้องออกมาดีทุกเรื่องครับ

Ampaiporn : พี่แอ้วอยู่วงการนี้มา 20 ปีแล้วเนอะ เวลาละครออกอากาศเรื่องเรทติ้งนี่มีความตื่นเต้น เราก็คงอยากให้เรทติ้งมันดีทุกเรื่อง อย่างเรื่องบาปอยุติธรรม เราอยากทำละครเรื่องบู๊มาก พอตอนเราทำ เราสนุกกับสิ่งที่อยากทำ ทุกคนสนุกกับงาน  ทุกอย่างออกมาก็สนุก พี่แอ้วเชื่อในตัวพี่แอ้วเองว่าถ้าพี่ทำงานอะไรแล้วพี่ทำหมดใจเลยค่ะ ต่อให้จะเกิดอะไรขึ้น เราก็ไม่ต้องเสียใจอีกแล้ว 20 ปีที่ผ่านก็ผ่านมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะโดนวิจารณ์ หรือได้เรทติ้งดีๆ พี่เจอมาหมดแล้วค่ะ 5555

ManGu : วงการบันเทิงจีนเขาจะบอกว่าวงการนี้ไม่ค่อยมีมิตรภาพเพื่อนที่จริงจัง ทุกอย่างมันเกี่ยวกับผลประโยชน์อย่างเดียว แล้วในวงการบันเทิงไทยเป็นอย่างไรบ้างครับ

Ampaiporn : พี่แอ้วไม่ค่อยได้สนใจเรื่องนี้เท่าไหร่ ทำงานเสร็จ 4 ทุ่มเลิกงานแล้วก็กลับบ้านเลย แบบนี้เรื่องของผลประโยชน์ก็จะไม่ได้มีมาเกี่ยวข้อง พี่แอ้วจะรับละครทีละเรื่อง จะได้มีเวลามานั่งทำการบ้านทำออกมาให้ดีที่สุด

ManGu : ในวงการผู้กำกับคุณอำไพพรมีผู้กำกับท่านไหนที่ชื่นชอบและเป็นไอดอลไหมครับ

Ampaiporn : ถ้าถามพี่แอ้ว ตอนที่เป็นผู้ช่วยพี่ชนะ พี่ยุ่น พี่จิ๋ม มยุรฉัตร และพี่ดา หทัยรัตน์ พี่แอ้วถือว่าพวกพี่ๆเขาเป็นครูของแอ้ว ถ้าถามว่าเป็นไอดอลเลยไม่มีหรอกค่ะ แต่พี่แอ้วชอบดูหนัง คือเรื่อง When Harry Met Sally ผู้กำกับ ร็อบ ไรเนอร์ เป็นที่หนังโรแมนติก คอมเมดี้ ตอนนั้นกระแสดีมาก เลยประทับใจในผลงานของเขา พี่เป็นคนที่ดูหนังเยอะ ชอบเสพชอบดูหลายๆแนว เรื่องไหนที่พี่แอ้วชอบดูคือจับมาเป็นไอดอลได้หมดเลย ครูที่ภาคสอนให้เราอย่าดราม่ากะชีวิต และคนบางคนเกิดมาเพื่อจะเล่น บางคนอาจเกิดมาเพื่อดูเขาเล่น ตอนแรกพี่แอ้วก็ไม่เข้าใจ จนมาถึงวันนี้พี่แอ้วรู้แล้วว่าเราควรนั่งดูเขาเล่นมากกว่าไปเล่นเองค่ะ 5555

ManGu : คุณอำไพคิดว่ากองถ่ายที่ถ่ายทำในไทยแตกต่างกับที่จีนมากไหมครับ เพราะที่จีนบางทีจะมีนักแสดงถ่าย 2 – 3 เรื่องพร้อมกันไม่ทราบว่าที่ไทยมีแบบนี้ไหมครับ

Ampaiporn : คนไทยถ้าเป็นนักแสดงนำแบบพระเอกนางเอก ส่วนใหญ่เขาก็จะถ่ายได้แค่ 2 เรื่องเท่านั้นค่ะ เพราะใน 7 วันเขาจะแบ่งวันไป 2 เรื่องก็หนักแล้ว แต่ถ้าไม่ได้แบบเป็นนักแสดงนำเขาก็สามารถรับงานได้หลายเรื่องเลยค่ะ 555 อย่างพระเอกนางเอกก็รับได้ 2 เรื่อง แต่จริงๆพี่แอ้วอยากให้เขารับแค่ 1 เรื่อง จะได้โฟกัสกับเรื่องนั้นไปเลย แต่เราก็ต้องเข้าใจ ว่าอยากให้น้องได้มีผลงานให้คนดูได้เห็นต่อเนื่องหลากหลาย เพราะฉะนั้นเลยเป็นหน้าที่ของผู้กับที่ต้องจำทุกอย่างเพื่อจะได้ช่วยน้องทำงาน แต่ก็ดีนะคะท้าทายเราดี 555

ManGu : ระหว่างนักแสดงใหม่กับนักแสดงที่มีประสบการณ์แล้ว คุณอำไพพรชอบร่วมงานกับใครมากกว่าครับ

Ampaiporn : มันสนุกคนละแบบค่ะ พอเจอคนหนึ่งบ่อยๆเข้ามันจะหมดมุมแล้วค่ะ เรื่องราวในตัวละครเยอะๆ มุมนี้เขาเล่นหมดแล้ว เราก็อยากให้คนใหม่ๆมาลองดู อย่างคนเก่าๆมีประสบการณ์ก็ท้าทายเรานะว่าแบบจะทำยังไงให้เขาเข้าถึงตัวนักแสดงได้ อย่างน้องใหม่ก็แบบจะจับเขาไปวางตรงไหนดี

ManGu : นักแสดงหญิงที่จีนพออายุเยอะก็ไม่มีบทบาทที่ท้าทายความสามารถ อย่างที่ไทยก็เป็นใช่ไหมครับและในอนาคตมีแนวทางไหมครับว่าจะทำอย่างไรให้แบบนักแสดงเหล่านี้ยังกลับมามีพลังต่อผู้ชมได้อีกครับ

Ampaiporn : เรื่องนี้เราก็พูดเรื่องนี้กับพี่แอนทุกวัน ว่าเราจะปรับอย่างไรกันดี อย่างที่บอกค่ะ มันเกี่ยวกับวัยของการดูด้วย แต่โจทย์คือเราจะพาบทเหล่านี้ให้เข้าถึงผู้ชมได้อย่างไร ตอนนี้อยู่ในกลไกของการคิดอยู่ค่ะ ว่าจะทำให้เป็นจริงได้อย่างไรบ้าง

ManGu : ปัจจุบันนี้ละครไทยไปมีชื่อเสียงที่ต่างประเทศค่อนข้างเยอะ แล้วมีผู้กำกับไทยที่ไปดังที่ประเทศจีนด้วย คุณอำไพพรอยากลองไปบ้างไหมครับ

Ampaiporn : เหมือนติดต่อมาเรื่องหนึ่งนะคะ แต่ช่วงนั้นพี่แอ้วยุ่งๆ ถามว่าสนใจไหม สนใจแต่เราไม่ค่อยมีเวลา ถ้ามีเรื่องหนึ่งมาก็ต้องคุยเรื่องรายละเอียดต่างๆ พี่อยากจะให้เวลาเต็มที่ด้วยค่ะ

ManGu : นอกจากละครสนใจอยากกำกับด้านอื่นบ้างไหมครับ เช่น MV หรือ ภาพยนตร์

Ampaiporn : มีคนสอบถามมาเยอะมากเลย5555 พี่แอ้วคิดว่าการที่เราจะทำอะไรสักอย่างเราต้องศึกษามันออกมาให้ดีก่อน ต้องหาเวลาเรียนรู้ แล้วก็ต้องมีทีมงานที่เข้าใจกันและทำงานออกมาได้ดี แต่ก็มีติดต่อมานะคะ แต่พอเราอยู่กับละครมานานก็ยังอยากทำละครต่อค่ะ

ManGu : ถ้ามีโอกาสอยากร่วมงานกับนักแสดงจีนท่านไหนครับ

Ampaiporn : น่าจะเป็นหวังอี้ป๋อค่ะ ตอนนั้นเรื่อง ปรมาจารย์ลัทธิมาร ดังมาก ดูไปซักพักก็ต้องไปทำละครเรื่อง บาปอยุติธรรม เลยไม่ได้มีเวลาดูต่อ แล้วช่วงนี้พอมีเวลาเลยมาดูเรื่อง ดุจดวงดาวเกียรติยศ ค่ะ คือพี่แอ้วต้องหาเวลาดูละครทุกแบบค่ะ ส่วนน้องหวังอี้ป๋อ พี่แอ้วรู้สึกว่าเขาเล่นได้มีมิติ มีมุมกบฏ มีมุมน่ารัก มีมุมเท่ วิธีการมอง วิธีการแสดง มีมิติที่หลากหลาย

ManGu : คุณอำไพพรรู้สึกว่าอุตสาหกรรมละครไทยมีอะไรที่พิเศษกว่าประเทศอื่นครับและทำไมละครไทยถึงดังไปทั่วโลก

Ampaiporn : พี่แอ้วคิดว่ามันมีมุมของเรื่องราวคนไทย วิธีการแสดงออกคนละประเทศแตกต่างกัน อย่างเช่นที่พี่แอ้วเคยรีเมคเรื่อง บาปอยุติธรรมของประเทศตุรกี มันจะมีวิธีคิดหรือวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน เกลียดเหมือนกัน โกรธเหมือนกัน แต่สิ่งที่นักแสดงแสดงออกจะแตกต่างกันค่ะ

ManGu : คุณอำไพพรคิดว่าละครไทยด้านไหนที่ควรจะพัฒนาให้มากขึ้น อย่างเช่น วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์

Ampaiporn : จริงๆก็มีทำแล้วนะคะ เช่นบุพเพสันนิวาศ วันทอง เริ่มที่จะมองแบบใหม่บ้างแล้วนะคะ คือผสมผสานหลากหลายแนว อยู่ที่วิธีคิดในการนำเสนอค่ะ

ManGu : ถ้าให้เราไปกำกับละครสไตล์จีน เราอยากกำกับละครแนวไหนมากที่สุดครับ

Ampaiporn : นางพญางูขาวค่ะ คือจริงๆเราเป็นคนที่ชอบเรื่องความรัก แล้วถ้าเป็นเรื่องนี้เราดูหลายเวอร์ชั่นมาก แล้วถ้าเป็นละครจีน วิธีการทำละครรักจะมีความสวยงามมาก เวลาการเดิน เวลาการเจอกัน จะมีความประณีตมากค่ะ แต่ถ้านางพญางูขาวมาโผล่ที่ประเทศไทย เราก็อยากทำมากๆเลยค่ะ

ManGu : การร่วมงานกับมาริโอ้และญาญ่าเป็นอย่างไรบ้างครับ

Ampaiporn : ได้ร่วมงานกับญาญ่าประมาณ 4 เรื่อง เกมร้ายเกมรัก ลิขิตรัก คลื่นชีวิต และเรื่อง คือเธอ เขาเก่งขึ้นเรื่อยๆค่ะ ตั้งแต่ละครเรื่องเกมร้ายเกมรัก ตอนนั้นเขายังเด็กจะยังไม่เข้าใจความรู้สึกที่ยากซับซ้อน แต่ตอนนี้เขาพัฒนาเยอะมาก เรามีหลายๆอย่างที่ชอบคล้ายๆกัน เช่นดูหนัง อ่านหนังสือ ส่วนมาริโอ้เพิ่งเจอครั้งแรก เขาเก็บความรู้สึกต่างๆเยอะมาก และสนุกทุกครั้งเมื่อเขาพาไปถึงการแสดง ซึ่งทุกสองคนเป็นเคมีใหม่ ซึ่งละครเรื่องนี้จะเป็นแนวดราม่าโรแมนซ์ค่ะ อยากให้ติดตามกันนะคะ

ManGu : เป้าหมายต่อไปในชีวิตของคุณแอ้วคืออะไรครับ

Ampaiporn : ตอนนี้ก็มีคนมาทาบทามพี่แอ้วให้เป็น Executive Producer แต่พอมาถึงจุดนี้ เรารู้สึกว่าสนุกมากขึ้น แต่ก่อนอาจจะมองว่าเรื่องนี้ยากมากเลย แต่พอตอนนี้เรากล้าทำในสิ่งที่แตกต่างมากขึ้นค่ะ

ManGu : สุดท้ายมีอะไรที่อยากฝากถึงแฟนคลับชาวจีนที่ติดตามมาโดยตลอดไหมครับ

Ampaiporn : ขอบคุณแฟนคลับชาวจีนที่ชื่นชมผลงานของละครไทยอยู่ตลอดและขอบคุณมากๆที่ติดตามผลงานของพี่แอ้วมาเรื่อยๆค่ะ ยังไงก็ฝากละครเรื่องต่อๆไปของพี่แอ้วด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ

Thank you

อําไพพร จิตต์ไม่งง / Ampaiporn Jitmaingong

IG : @aew_ampaiporn

感谢拍摄场地 : @riva_floatingcafe

Photographer : Sarator Bunkobsongserm @iccesrt
Graphic Designer : Satamed Kunawattana @Pdillustrator
Coordinator : Patthanapong Polpiboon @plyyp

Interviews : Rocky Chung @officialrockychung
Column Writer : Ausanee Minsulaiman @ausanee.nee / Patthanapong Polpiboon @plyyp