ละคร คือ การแสดงประเภทหนึ่ง มีวิธีดำเนินเรื่องอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ผู้แสดงเรียกว่า ตัวละคร มีบทให้แสดงตามเนื้อเรื่อง มีฉาก หรือเวทีให้ใช้แสดง ถ้าพูดถึงละครของประเทศไทย หนึ่งในช่องที่ได้รับการตอบรับที่ดีที่สุดในประเทศไทย นั่นคือช่อง ONE31 ที่มีละครระดับตำนานอย่าง “วันทอง” , “ใบไม้ที่ปลิดปลิว” , “หัวใจศิลา”
ONE31 เป็นบริษัทในเครือของ The ONE Enterprise Public Company Limited (ONEE) หรือ ONEE ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ บริหารงานโดย คุณถกลเกียรติ วีรวรรณ ผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลในการสร้างสรรค์และผลิตละคร ที่เส้นทางกว่าจะมาประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มของบริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) และประธานเจ้าหน้าที่บริหารสถานีโทรทัศน์ช่องวัน 31 นั้นไม่ง่ายเลย เขาต้องผ่านทั้งอุปสรรค ขวากนาม และปัญหาต่างๆ จนประสบความสำเร็จในปัจจุบัน นิตยสาร @ManGu ฉบับนี้ของพาทุกท่านไปพบกับ คุณถกลเกียรติ วีรวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มของบริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) และประธานเจ้าหน้าที่บริหารสถานีโทรทัศน์ช่องวัน 31
ManGu : ช่วยเล่าถึงชีวิตในวัยเด็ก
TAKONKIET : ผมชอบดูละครและภาพยนตร์ตั้งแต่เด็กๆ ได้แรงบันดาลใจจากซุปเปอร์ฮีโร่ไทย แต่สิ่งที่ผมดูและแปลกกว่าคนอื่นคือการที่อยากรู้ว่าเบื้องหลังการถ่ายทำเป็นอย่างไร พอตอนมัธยมก็ไปเรียนต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งตอนนั้นก็ได้ค้นพบศาสตร์ของละครเวที ผมประทับใจมากๆครับ พอตอนที่จะเข้ามหาวิทยาลัย ผมลังเลว่าจะเรียนคณะอะไร ตอนนั้นมี 2 คณะให้เลือกคือ คณะEconomics และคณะ Communications and Theatre ตอนนั้นเราก็คิดว่าเรียนคณะ Economics ดีกว่า เพราะกลับมาเมืองไทยน่าจะตอบโจทย์กว่า พอเรียนไป 1 เทอม ผมไม่มีความสุขในการเรียนเลยครับ พอเรารู้ว่าเราไม่ชอบ เราก็เลยเปลี่ยนจากคณะ Economics เป็น คณะ Communications and Theatre
ManGu : เมื่อเปลี่ยนคณะ ที่บ้านมีความคิดเห็นอย่างไร
TAKONKIET : ตอนนั้นก็ได้มีการพูดคุยกับทางคุณพ่อเรื่องการเปลี่ยนคณะ บอกคุณพ่อว่า ถ้าพวกผมเรียน Economics ตอนกลับมาที่ไทยก็อาจจะเกิดการแย่งงานกัน เราควรเรียนคณะที่ไม่ค่อยมีใครเรียน พอพูดจบ คุณพ่อก็บอกว่าเราคิดถูกแล้ว เรียนอะไรก็ได้ที่เลี้ยงชีพตัวเองได้และสุจริต หลังจากนั้นก็ตัดสินใจเรียนต่อระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยบอสตันครับ พอผมกลับมาที่ประเทศไทย ผมก็ได้ฝึกงานที่ช่อง 3 ผู้ใหญ่ให้ไปดูงานที่กองถ่ายของพี่ไก่ วรายุฑ เรื่องปริศนา และได้ไปฝึกงานที่รายการ ที่นี่กรุงเทพ ตอนที่ฝึกงานได้เรียนรู้อะไรมากมายครับ ซึ่งก็ต่างจากเราที่เราเรียน พอฝึกงานเสร็จ เราก็มีความสนใจในการทำงานที่ GMM GRAMMY ตอนนั้นทาง GMM GRAMMY ก็อยากพัฒนาจากค่ายเพลง เขาอยากทำละคร อยากทำรายการโทรทัศน์ ผมเลยคิดว่าน่าจะเติบโตไปด้วยกันได้
ManGu : ในช่วงนั้นทาง GMM GRAMMY เริ่มผลิตละครแล้วหรือไม่
TAKONKIET : เริ่มมีแล้วครับ ตอนนั้นมีละครที่ชื่อ “ตะกายดาว” ตอนนั้นคุณหง่าว ยุทธนา มุกดาสนิท เขากำลังทำภาพยนตร์เรื่อง “วิธีคนกล้า” เลยไม่มีใครมาดูแลตรงนี้ ผู้ใหญ่เลยให้ผมมาดูแลตรงนี้ครับ ผมเลยขอเสนอไอเดียใหม่กับพี่เล็ก บุษบา ดาวเรือง เขาบอกว่าได้เลย เสนอมาได้เลย ตอนนั้นผมเลยเสนอทำละครเรื่องแรกคือเรื่อง “นางฟ้าสีรุ้ง” และต่อด้วยเรื่อง “3หนุ่ม3มุม” พอเรื่อง “3หนุ่ม3มุม” ออกแอร์ก็ได้รับความนิยมมีทำให้เรามีชื่อเสียงมากขึ้นครับ
ManGu : ในช่วงที่มาร่วมงานกับทาง GMM GRAMMY ตรงจุดนี้ทำให้คุณจุดประกายในการเปิดบริษัท EXACT หรือไม่
TAKONKIET : ใช่ครับ ตอนนั้นเป็นช่วงที่ทำซิตคอมเรื่อง “3หนุ่ม3มุม” พอซิตคอมเรื่องนี้ได้รับผลตอบรับที่ดี ผมก็เริ่มมีความสนใจที่จะเปิดบริษัท EXACT เลยชวนทาง GRAMMY มาร่วมหุ้นกันครับ
ManGu : ช่วยเล่าประสบการณ์การผลิตละครเรื่องแรกของคุณ
TAKONKIET : ผมทำละครเรื่องแรกคือเรื่อง “รักในรอยแค้น” เป็นการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆเยอะมาก พอออกอากาศช่วงแรก คนดูน้อยมาก อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นมีเวลาเตรียมตัวน้อย เรียกได้ว่าถ่ายละครไป ออนแอร์ไป ซึ่งตอนนั้นเราไม่รู้กระแสหรือฟีดแบคว่าเป็นอย่างไร แต่เราก็ตั้งหน้าตั้งตาทำละครเรื่องนี้ให้ดีที่สุด จนกระทั่งช่วงท้ายๆเรื่อง มีคนพูดถึงและเป็นกระแสมาก อาจจะเป็นเพราะพล็อตเรื่องที่แปลกกว่าละครเรื่องอื่นในสมัยนั้น และองค์ประกอบศิลป์ที่ครบ เลยทำให้ละครเรื่องนี้มีชื่อเสียงมากขึ้นครับ
ManGu : สไตล์ละครของบริษัท EXACT และค่ายอื่นแตกต่างกันอย่างไร
TAKONKIET : แตกต่างกันครับ เพราะเนื่องด้วยเราไม่มีแพลตฟอร์มในการออกอากาศเหมือนคนอื่น งานของเราที่ออกอากาศ บทบาท โปรดักชั่น เลยต้องเข้มกว่าช่องอื่นครับ
ManGu : การเปลี่ยนจาก EXACT เป็นช่อง ONE31 รู้สึกว่าเป็นโอกาสอันดีหรือไม่ที่ได้มีช่องออกอากาศเป็นของตัวเอง
TAKONKIET : ใช่ครับ เพราะถ้าเราได้ผลิตละครในช่วง Prime Time แต่ถ้าไม่มีช่องที่จะสามารถวางผังการออกอากาศด้วยตัวเองได้ ก็จะค่อนข้างยาก พอเปลี่ยนช่วงเป็นทีวียุคดิจิตอล ถามว่ากลัวไหม เราก็ตั้งคำถามในใจที่ผ่านมาเราเป็นใคร จนได้ข้อสรุปว่า เราเป็นคนทำคอนเทนต์ แต่ตอนนี้เรามีช่องทีวีเป็นของตัวเอง เพราะฉะนั้นเราต้องบริหารช่องให้ดี แต่สุดท้ายคอนเทนต์มันไม่ตาย เราก็ต้องทำคอนเทนต์ให้ถูกตามทิศทาง บางทีคอนเทนต์นี้ดีในทีวี ก็วางให้ออนแอร์ในทีวี บางทีคอนเทนต์นี้ดีในช่องออนไลน์ ก็วางในช่องออนไลน์ ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีช่องที่หลากหลาย เราไม่สามารถปิดกั้นได้ เราต้องยอมรับในจุดนี้ เราเพียงแค่ต้องสร้างสรรค์คอนเทนต์ดีๆเพื่อให้ผู้บริโภคช่อง ONE31 เลยกลายเป็นช่องที่มีความทันสมัยและมีความ Mass อยู่ในตัวครับ
ManGu : การบริหารบริษัท EXACT และการบริหารช่อง one31 แตกต่างกันอย่างไร
TAKONKIET : เราต้องรอบรู้มากขึ้น ทั้งในแง่ของโปรดักชั่น กลยุทธ์ในการออกอากาศ อาจจะดูเหมือนกัน แต่ที่จริงแตกต่างกันครับ
ManGu : ช่วงที่เปลี่ยนมาเป็นช่อง ONE31 เรียกว่าเป็นช่วงที่หนักที่สุดหรือไม่
TAKONKIET : ใช่ครับ ด้วยวิธีการทำงานที่ต้องเปลี่ยนใหม่ วิธีคิดที่ต้องเปลี่ยนใหม่ วิธีการมองที่ต้องเปลี่ยนใหม่ เราเลยต้องมองว่าอนาคตจะเดินไปในทิศทางไหน เพราะช่วงที่เปลี่ยนเราก็ไม่รู้ว่ามันจะเดินไปทางไหน เหมือนถ้าเราออกทะเลไปก็เจอแต่หมอกปกคลุม อีกทั้งในเรื่องของการเงินก็หนักเหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะมองเห็นทางลางๆ เราก็ต้องเทหมดหน้าตักเหมือนกัน แต่เราก็มีความเชื่อมั่นในตัวเอง เชื่อมั่นในทีมงาน มีความเชื่อตรงนั้น จนเราผ่านมาได้ด้วยดีครับ
ManGu : คุณใช้เวลานานไหมในการก้าวผ่านช่วงนั้น
TAKONKIET : นานเหมือนกันครับ แต่ด้วยสิ่งที่เราทำมีคนมองเห็น ดีใจครับที่ทีมงานยังอยู่ด้วยกัน ตอนนั้นถือเป็นช่วงยากลำบากมาก เราก็ไปต่อด้วยการเรียนผิดเรียนถูก จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เราเห็นการเปลี่ยนของโลก สังคม
ManGu : ทั่วโลกมองว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ผลิตซีรีส์วายอันดับหนึ่ง คุณคิดว่าในอนาคตซีรีส์วายยังไปต่อได้มากแค่ไหน
TAKONKIET : ปัจจุบันมีซีรีส์วายเยอะมากขึ้น คนดูก็มีตัวเลือกมากขึ้น เราก็ต้องทำให้ดีมากยิ่งครับ แต่ถึงแม้ว่าเราจะเป็นอันดับต้นๆในการผลิต หรือเป็นประเทศแรกที่การผลิต เราก็ต้องทำให้ดีมากกว่าเดิม รอบคอบมากกว่าเดิม
ManGu : ช่วยเล่าการสร้างโรงละครรัชดาลัยเธียเตอร์
TAKONKIET : ตอนที่ผมเรียนจบ สิ่งที่ผมต้องทำคือการสร้างละครเวทีในไทยให้ได้ ใช้เวลาประมาณ7 ปีในการหาลู่ทาง หาบุคลากร จนทำเร่องแรกคือเรื่อง “วิมานเมือง” จัดที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และเรื่องต่อไปคือเรื่อง “บัลลังก์เมฆ เดอะมิวสิคัล” และเรื่อง “ทวิภพ เดอะมิวสิคัล” เราก็อยากทำให้ต่อเนื่องและอยากให้ทางบุคลากรมีพื้นที่ในการแสดงความสามารถ เราเลยตัดสินใจในการสร้างเอง จึงเกิดเป็น โรงละครรัชดาลัยเธียเตอร์
ManGu : เกณฑ์ในการคัดเลือกนักแสดงของคุณคืออะไร
TAKONKIET : หลากหลายองค์ประกอบมากเลยครับ แต่สิ่งที่เราคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด คือคนที่มีทัศนคติที่ดี ความสามารถ วินัยครับ
ManGu : สุดท้ายมีอะไรอยากบอกแฟนๆที่ติดตามผลงานของคุณ
TAKONKIET : ขอบคุณที่คอยซัพพอร์ตพวกเรามาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นทั้งในช่อง ONE31 , GMM25 , CHANGE2561 หรือช่องในเครือ The One Enterprise หวังว่าในปีนี้แฟนๆจะได้เห็นคอนเทนต์หรือละครของเราที่หลากหลายมากขึ้น ขอบคุณทุกคนมากๆครับ
Thank you.
Takonkiet Viravan / ถกลเกียรติ วีรวรรณ
IG : @boytakonkiet
Facebook : ช่อง one31
IG : @one31thailand
Twitter : one31thailand
Youtube : one31
Make Up : Kanniput Sananwong @hollyhua
Hair : Paiboon Chencharatwet @auddy_paiboon
Photographer : Black Gold Entertainment
Graphic Designer : Satamed Kunawattana @Pdillustrator
Coordinator : Patthanapong Polpiboon @plyyp
Column Writer : Zou SiYi @joy_ss97 / Patthanapong Polpiboon @plyyp