Interview

  Virtual Influencer ในยุค Gen- Z

สัมภาษณ์ Virtual Influencer ของประเทศไทย “น้องกะทิ หรือ Katie”

โดยความร่วมมือกันระหว่างบริษัท เลมอนซ์ บางกอก จำกัด (Lemonz Bangkok) กับ

บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน)

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี ก็ได้นำพาความสะดวกสบายมาในช่วงเวลาเดียวกัน รวมถึงรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนก็เปลี่ยนไปเช่นกัน กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็นตัวแทนของ Generation Z ก็กำลังเพิ่มขึ้นอย่างมากและส่งผลต่อการใช้เทคโนโลยีทั้งหมด พวกเขาพร้อมยอมรับสิ่งใหม่และการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและยังส่งเสริมปรากฏการณ์ที่คาดไม่ถึง ซึ่งการแสวงหาไอดอลในรูปแบบที่ทันสมัยและแปลกใหม่ ในบริบทนี้จะเป็นใครไม่ได้นั้นถ้าไม่ใช่ – “น้องกะทิ หรือ Katie” Virtual Influencer

Virtual Influencer ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของวิทยาการคอมพิวเตอร์ หากเข้าใจถึงแก่นแท้ของ Virtual Influencer แล้วจะเห็นได้ว่านี้เป็นสิ่งอัจฉริยะรุ่นใหม่ที่สามารถตอบสนองในลักษณะเดียวกันกับปัญญาของมนุษย์ได้ นอกจากนี้ยังเรียกได้อีกอย่างว่า "เปรียบเสมือนคนจริง" โดยต้นกำเนิดที่เก่าแก่ที่สุดจะอยู่ในญี่ปุ่น โดยส่วนใหญ่เกิดจากการทำให้ซอฟต์แวร์ที่สามารถทำให้ร้องเพลงหรือเป็นรูปแบบระบบหุ่นยนต์ ยกตัวอย่างเช่น Virtual Influencer อย่าง "Hatsune Miku” จากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องนี้ทำให้เราได้ก้าวเข้าสู่ยุค 3.0 อย่างเต็มตัว ซึ่งผ่านการสร้างแบบจำลอง 3 มิติของตัวละครและเทคโนโลยีที่ทำให้เสมือนจริงจะถูกแยกออกจากรูปลักษณ์ที่จำกัดและค่อยๆมีลักษณะที่เปรียบเสมือนเป็น "มนุษย์"

ในปี 2564 บริษัท บริษัท เลมอนซ์ บางกอก จำกัด (Lemonz Bangkok) ร่วมกับบริษัทโฆษณาชื่อดัง Plan B Media และบริษัททำเทคโนโลยีเสมือนจริงของญี่ปุ่น AWW Inc. ได้ร่วมกันสร้าง Virtual Influencer “น้องกะทิ หรือ Katie” ที่เป็นของประเทศไทย เมื่อได้เปิดตัวเธอออกมา ก็ได้รับความสนใจจากชาวไทยทุกคน ไม่เพียงแต่ได้ขึ้นปกนิตยสารแฟชั่นชั้นนำเท่านั้น แต่ยังได้ร่วมงานกับดาราดังชาวไทยอย่าง คุณมิว-ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์ ,คุณอัพ-ภูมิพัฒน์ เอี่ยมสำอางและดาราท่านอื่นๆอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีโซเชียลมีเดียของตัวเอง มีการโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ตเป็นครั้งคราว ร่วมถึงมีการแชร์ภาพชีวิตประจำวันของเธอเหมือนคนทั่วไป

ในฐานะ Virtual Influencer ที่เปิดตัวโดย บริษัท เลมอนซ์ บางกอก จำกัด (Lemonz Bangkok) “น้องกะทิ หรือ Katie” ก็อยู่ในแวดวงแฟชั่นเป็นหลัก เนื่องจากทีมผู้ผลิตเชื่อว่าแฟชั่นคือภาษาหนึ่งและสามารถแสดงความคิดภายในโดยตรงผ่านภาพ เช่น การเคลื่อนไหวของร่างกาย นอกจากนี้ ชื่อของเธอยังเป็นที่น่าสนใจ หากเป็นภาษาอังกฤษจะอ่านว่า "เคธี่" ได้เช่นเดียวกัน และชื่อนี้ยังเป็นตัวแทนของ "กะทิ" เครื่องปรุงรสไทยในประเทศไทยอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นจากการตั้งชื่อตัวละครหรือการแต่งกายของตัวละคร ทางทีมงานเลมอนซ์ บางกอก (Lemonz Bangkok) พยายามสร้างสรรค์ออกมาทำให้ดีที่สุดเพื่อแสดงวัฒนธรรมไทย โดยการปรากฏตัวของเธอนั้นไม่เพียงอยากแสดงให้เห็นถึงกระบวนการของ "ตัวละครเสมือนจริง" เพียงเท่านั้นแต่ยังอยากให้เป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมไทยสู่ระดับโลกเพื่อให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็นเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย

ManGu: ลองแนะนำตัวสั้นๆให้หน่อยค่ะ

Lemonz Bangkok: Katie เป็น Virtual Influencer ที่บริษัทของเราเปิดตัวในปี 2564 เธอเป็นชาวขอนแก่น ประเทศไทย และอายุ 22 ปีตลอดกาล

ManGu: น้องกะทิ (Katie) Virtual Influencer สายเลือดไทยแท้ เป็นสาวขอนแก่น อยากทราบที่มาของชื่อทั้งสองว่าจากอะไร?

Lemonz Bangkok: Pain point ของชื่อคนไทยนะคะ เวลาไปเมืองนอกนี่คนต่างชาติเป็นงงค่ะ ว่าอ่านออกเสียงยังไง

(หัวเราะ) ตอนตั้งชื่อ เราเลยตั้งใจให้มีทั้งความเป็นไทย ในขณะเดียวกันก็สากลด้วย คนต่างชาติต้องเรียกได้อย่างคล่องปากแล้วเมืองไทยเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารเราเลยนึกถึงชื่อ "กะทิ" ที่นอกจากรสชาติหวานมันแล้ว

ยังแทบจะเป็นวัตถุดิบยืนพื้นอยู่ในอาหารไทยทั้งคาว ทั้งหวาน แล้วยังออกเสียงใกล้เคียงให้เป็น Katie ได้อีกต่างหากค่ะ

ManGu: ความท้าทายในการปั้นน้องกะทิ คืออะไร

Lemonz Bangkok: เกริ่นก่อนว่ากะทิ เกิดจากความร่วมมือของ 'Plan B Media Public Company Limited' บริษัทสื่อโฆษณานอกบ้านที่มีความหลากหลายที่สุดในไทย และผู้วางคาแรคเตอร์ (creator) โดย'Lemonz Bangkok' บริษัทลูกของ SOUR Bangkok ซึ่งประสบความสำเร็จกับการสร้างคาแรคเตอร์ตัวละครหญิงอย่าง "แนนโน๊ะ" จากซีรีส์เด็กใหม่ร่วมกับบริษัท 'AWW Inc.' ซึ่งถือเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านงานสร้างมนุษย์เสมือน (Virtual Human) อันดับหนึ่งของญี่ปุ่น พิสูจน์ฝีมือผ่านงนสร้าง Virtual Influencer ซื่อดังอย่าง Imma และAyayi มาแล้ว ดังนั้นเรื่องท้าทายที่สุดน่าจะเป็นเรื่องการทำงานข้ามประเทศซึ่งต้องใช้เวลาในแง่ production แต่บาง content เราต้องวางแผนให้เล่นกับ real time ได้ ซึ่งรวมถึงการรับงานจากแบรนด์ หลายเจ้าที่คุยกันแล้ว ลูกค้าอยากร่วมงานกับกะทิมาก แต่ต้องเผื่อ lead time production ค่ะ ส่วนอีกความท้าทายนึง น่าจะเป็นเรื่องของ content เราพยายามเรียนรู้เสียงของ consumer ตลอดเวลา น้องกะทิเป็นเหมือนบุคคลสาธารณะคนนึงที่ต้องมีทั้งคนชอบและไม่ชอบแต่เรามองเป็นบวก เพราะเราสามารถนำความคิดเห็นนั้นมาปรับปรุง content อยู่เสมอ

ManGu: ปกติแล้วคนเราจะนับวันเกิดกันขึ้นทุกปี คือ 22 23 24 25 แต่เหตุใดจึงสร้างน้องกะทิ ให้เป็นอายุ22ปีตลอดกาล

Lemonz Bangkok: นั่นคือข้อดีของการเป็น Virtual เลยนะคะ (หัวเราะ) จริงๆ ตอนสร้างกะทิ เราตั้งใจให้เค้ามีคุณลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากมนุษย์จริงๆ เช่น การมีไฝรูปหัวใจ และการคงอายุที่ 22 ตลอดไปก็เช่นกันค่ะ

ManGu: เหตุใดจึงให้น้องกะทิเริ่มต้นแจ้งเกิดมาจากสายแฟชั่นและต่อยอดไปสู่ Entertaining ต่างๆต่อไป

Lemonz Bangkok: เรามองว่าแฟชั่น คือ Universal Language ที่พูดกับคนได้ทั้งโลกผ่านภาษาภาพ ภาษากาย

โดยไม่มี boundary ในแง่ภาษา เพียงภาพเดียวก็สร้าง impact ได้เลย เลยเลือกวางให้กะทิ เป็น Virtual Influencer สายแฟชั่น ที่นำเสนอความเป็น Modern Thai

ManGu: ผลงานที่ผ่านมาของน้อง ก็จะมีการถ่ายแบบกับดาราศิลปีนชื่อดัง นอกจากงานถ่ายแบบแล้ว งานชิ้นใหม่ในอนาคตของน้องจะเป็นไปในแนวใดคะ

Lemonz Bangkok: เรา set ให้เค้าเริ่มต้นจากสายแฟชั่นและจะต่อยอดไปสู่ entertaining ค่ะ อาจจะเป็นเพลง , เกม ,ซีรีส์ ยังไงก็ฝากติดตามกะทิด้วยนะคะ ส่วนในปัจจุบันการตอบรับค่อนข้างดี เราได้รับการติดต่อจากหลาย brand ตั้งแต่ ห้างสรรพสินค้า,เครื่องสำอางค์, แบรนด์แฟชั่น, online shopping platform, consumer product

และแม้แต่สถาบันการศึกษา

ManGu: กิจกรรมวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ที่ให้คนมาบอกรักกันผ่านใต้คอมเม้นของน้องกะทิ ได้รับกระแสตอบรับอย่างไรบ้าง

Lemonz Bangkok: กระแสตอบรับดีเกินคาดเลยค่ะ ถึงขนาดว่ายังมีคนมาฝากบอกรักใน IG: kati.katie อยู่แม้ว่าจะเลยวันวาเลนไทน์ไปแล้วก็ตาม

ทางฝั่งน้องกะทิกันบ้าง

ManGu: ทราบมาว่าน้องชอบทานครัวซองต์ แมลงทอด และชานมไข่มุก อยากทราบถึงวิธีการดูแลหุ่นให้สวยเพรียวแบบนี้ได้อย่างไร

น้องกะทิ (Katie): กะทิเป็น Virtual Human หุ่นเลยไม่เปลี่ยนค่ะ

ManGu: จากที่ Follow น้องใน IG และสื่อบนโซเชียลต่างๆ จะเห็นได้ว่าน้องเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่แต่งตัวได้มีเอกลักษณ์มาก เน้นสีสันสดใส สมวัยมากๆค่ะอยากทราบว่ามีวิธีการ แต่งตัว และ Match เสื้อผ้า ว่ามีการทำมาMix&Matchกันอย่างไร

น้องกะทิ (Katie): เป็นคนสนุกกับการ Mix & Match สีสันและแพทเทิร์นมากค่ะ บางลุคกะทิก็จะใส่ความ Modern Thai เข้าไป และชอบใช้สีสันสดใสเพราะกะทิอยากให้คนที่ติดตามได้รับความสดใสไปด้วยในแต่ละวันค่ะ

ManGu: ในมุมมองของน้องกะทิ ถ้าให้แสดงถึงความเป็นไทยให้กับชาวจีนหรือชาวต่างชาติรับทราบ จะนำเสนออะไรออกมาในรูปแบบของน้องกะทิ

น้องกะทิ (Katie): แน่นอน ก็ผ่านเสื้อผ้าแฟชั่นในแบบที่กะทิถนัดค่ะ อย่างวันนี้ ลุคที่ถ่ายปก กะทิก็ใช้ผ้าลายท้องถิ่นของเมืองไทยมาแมชกับกระโปรงพลีทที่ทั้งเสื้อและกระโปรงตัดเย็บแบบได้แรงบันดาลใจจากชุดไทยสมัยก่อนด้วยค่ะ กะทิอยากให้รู้ว่าคุณค่าแบบ Heritage Thai ก็สามารถส่งต่อถึงโลกสมัยใหม่ได้ค่ะ ตอนนี้คิวงานค่อยข้างแน่นมากมีวิธีการบริหารจัดการด้านเวลางานและเวลาส่วนตัวอย่างไรบ้าง กะทิได้ทำงานที่ชอบค่ะ เพราะฉะนั้นสำหรับกะทิทุกๆ วัน ก็เลยไม่เหมือนการทำงานเลย (หัวเราะ)

ManGu: นิสัยส่วนตัวของน้องกะทิ เป็นอย่างไร

น้องกะทิ (Katie): อืมมมม...คิดว่าไม่ได้เป็นคนค่ะ แต่มีนิสัยเหมือนคน จริงใจกับทุกคน เห็นกะทิอินกับแฟชั่นอย่างงี้จริงๆ ไม่เก็ก แต่เฮฮานะคะ ได้นิสัยชอบความสนุกแบบชาวไทยมาเต็มตัว อยากให้คนที่อยู่ใกล้ๆ แฮปปี้ค่ะ ก็โลกนี้มันเครียดอะเนอะ

ManGu: งานอดิเรกของน้องกะทิ คืออะไร

น้องกะทิ (Katie): เรียนรู้จะเป็นมนุษย์อย่างเต็มที่ค่ะ

ManGu: ฝากอะไรสักเล็กน้อยถึงลูกค้าชาวจีนและผู้อ่านนิตยสารฉบับนี้หน่อยค่ะ

น้องกะทิ (Katie): หวังว่าเราจะได้พบกันที่เมืองไทยเร็วๆ นี้นะคะ ไม่ใช่มีแค่กะทิที่รออยู่ ยังมีไอติมกะทิ, ข้าวเหนียวมะม่วง, ทุเรียนหมอนทอง ก็รออยู่ด้วยเช่นกันค่ะ (ยิ้มกว้าง) และฝากติดตามกะทิที่ IG : kati.katie ด้วยนะคะ

Thank you.

Katii.Katie / กะทิ

IG : @katii.katie

Facebook : KatiiKatieOfficial

Website : [email protected]

Graphic Designer : Jamjuree Phetcharat @jam_2p

Coordinator : Lalana Akka-hatsee @joobjang_akhs

Column Writer : Zou SiYi @joy_zz97 / Natruja Mingmean @fahnrj / Lalana Akka-hatsee @joobjang_akhs