news-details

MANGU Cover Story Issue 240 (15th September 2022) สัมภาษณ์ คุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา (ท็อป) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย)

 

ผู้บุกเบิกสกุลเงินดิจิตอลในประเทศไทย

สัมภาษณ์ คุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา (ท็อป) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย)

 

ในยุคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วนี้ คนที่คว้าโอกาสมักจะเป็นผู้ที่มีความกล้าที่จะเป็นผู้นำของโลก พวกเขาเปลี่ยนจากความรู้สู่มุมมองใหม่ๆและความกล้าหาญที่จะเปิดเส้นทางใหม่ ในที่สุดก็กลายเป็นผู้บุกเบิกในธุรกิจใหม่ๆ

 

จากวัยรุ่นไปจนถึงอัจฉริยะของ Oxford

จากวัยรุ่นเกเรไม่ชอบเรียน ผมแค่ต้องการเล่นฟุตบอลทุกวันและใฝ่ฝันที่จะเป็นคนไทยคนแรกที่เข้าสู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” เขาหวนคิดถึงวัยเด็กของเขา และเขาให้คำตอบกับเราด้วยคำว่า "problem boy" เส้นทางการเติบโตของเขาดูเหมือนจะ "จงใจ" ไม่เหมือนกับผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ เขาไม่ชอบเรียน เขาติดฟุตบอลทุกวัน แม้กระทั่งการถูกบังคับให้ไปเรียนต่อต่างประเทศ

เขามาเรียนที่นิวซีแลนด์ครั้งแรก จนจบมัธยมปลาย เขาปลุกใจให้กลับมาที่ไทยอีกครั้ง แต่เนื่องจากเกรดของเขาไม่ดี ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่ามีเพียงการเรียนรู้เท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนสภาพที่เป็นอยู่ได้ ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนแปลงตนเอง ก้าวเข้าไปในห้องสมุด และเริ่มอุทิศตนเพื่อการเรียนรู้ เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาจึงวางแผนใหม่ให้ตัวเอง

เป้าหมายของเขาก็เปลี่ยนจากการเป็นนักฟุตบอลของมหาวิทยาลัยชั้นนำ เป็นการเรียนในมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ทำวิถีชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปตลอดกาล

 

ผู้บุกเบิกสกุลเงินดิจิตอลในประเทศไทย

จากวัยรุ่นเกเรไปจนถึงอัจฉริยะของ Oxford เขาใช้ความพากเพียรแน่วแน่ในการเปลี่ยนแปลงชีวิต จากคอมพิวเตอร์ไปสู่การสร้างอาณาจักรดิจิตอลหมื่นล้าน เขาใช้เวลา8ปี ในการทนต่อความยากลำบากมากมาย ในช่วงที่ยากลำบาก เขาไม่เพียงแต่เป็นผู้บุกเบิกด้านสกุลเงิน ดิจิตอลเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้นำชีวิตของตนเองอีกด้วย นิตยสาร @ManGu ฉบับบนี้ขอพาทุกท่านไปทำความรู้จัก ผู้บริหารอายุน้อย คุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งธุรกิจสตาร์ทอัพ บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ธุรกิจที่เติบโตแบบก้าวกระโดด

ManGu : อยากให้ช่วยเล่าชีวิตตั้งแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบัน

Topp : ตอนเป็นเด็กเป็นเด็กเกเรครับ ไม่ใช่เป็นเด็กเรียน เล่นแต่กีฬาโดยเฉพาะกีฬาฟุตบอล ความฝันวัยเด็กคือการเป็นนักกีฬาฟุตบอล อยากจะเป็นคนไทยคนแรกที่ไปเล่นให้ทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ทุกวันจะเล่นบอล โรงเรียนผมจะมีเวลาพัก10นาที พักเที่ยง หลังเลิกเรียน ผมจะไปเล่นทุกเบรค ตอนเลิกเรียนตอนเย็นพ่อแม่มารับกลับ ผมก็ไม่ยอมกลับ ก็จะเล่นจนฟ้ามืด จนคุณพ่อคุณแม่รอไม่ไหวนั่งรถเมล์กลับบ้านเอง ไม่เคยตั้งใจเรียนเลยเน้นแต่กีฬา ชกต่อยกับเพื่อนเป็นเด็กเกเร จนเกือบโดนไล่ ตอนนั้นก็เป็นครั้งแรกที่เห็นคุณแม่ร้องไห้ คุณแม่เลยส่งไปเรียนที่นิวซีแลนด์ เพื่อที่จะไปดัดนิสัย เป็นโรงเรียนประจำ ตอนนั้นก็ยังคิดไม่ได้ ยังเล่นกีฬา ไม่ได้ตั้งใจเรียนอะไร จนกระทั่งพอจบมาจากโรงเรียนที่นิวซีแลนด์ ก็อยากจะกลับมาที่เมืองไทย จะกลับมาเข้ามหาวิทยาลัยที่เมืองไทย ก็เกรดเฉลี่ยไม่ดี เข้ามหาลัยดีๆไม่ได้ เลยมานั่งคิดทบทวนกับตัวเองครับ

 

ManGu : คุณเข้าสู่มหาวิทยาลัยอันดับต้นของโลก อย่างมหาวิทยาลัย University of Oxford ได้อย่างไร

Topp :การไม่ได้มาเรียนที่ประเทศไทยเป็นจุดเปลี่ยน ผมเริ่มเห็นความสำคัญของการศึกษา จึงวางแผนใหม่ให้ตัวเอง เนื่องจากผมชอบฟุตบอล เลยอยากเรียนที่ประเทศอังกฤษ ก็ได้ยื่นไป 5 มหาวิทยาลัย โดยอันดับแรกที่ผมยื่นไปคือ University of Oxford เพราะว่าผมเป็นคนจะตั้งเป้าหมายของตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเป้าหมายของผมจากการเป็นนักฟุตบอลก็เปลี่ยนไปคืออยากเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำ ช่วงเรียนผมเรียนที่นั่น เปลี่ยนผมไปเยอะมาก ผมเริ่มอ่านหนังสือ เรียนหนังสือ ผมอ่านหนังสือ 7 วันต่อสัปดาห์ เรียน 12 ถึง 14 ชั่วโมงต่อวัน เพราะเมื่อคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจน คุณจะรู้ว่าอะไรที่คุณสามารถปล่อยวางได้และสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณในตอนนี้คืออะไร คุณสามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ในรูปแบบใดก็ได้ ดังนั้นการเรียนรู้จึงเป็นสิ่งสำคัญครับ

Mangu: หลังจากเรียนจบทำไมคุณถึงตัดสินใจทำงานที่เซี่ยงไฮ้

Topp : อันนี้ผมว่าผมคิดต่างจากคนอื่น เพราะทุกคนที่จบมหาวิทยาลัยชั้นนำก็จะทำบริษัทใหญ่ๆหรือมีชื่อเสียง แต่ผมคิดต่าง ผมต้องการใช้เวลาอีกเล็กน้อยในการค้นหาและคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ผมต้องการจะทำ ดังนั้นฉันจึงพยายามใช้ชีวิตในประเทศและเมืองต่างๆ ที่ไม่เคยไปมาก่อน ตอนนั้นเซี่ยงไฮ้เป็นช่วงที่โตไวมากในหลายๆเขต เริ่มมีตึกสูงเต็มไปหมด เราเลยรู้สึกเขาโตเร็วที่สุดในโลก ผมก็เลยไปทำเป็นบริษัทของอเมริกา เพราะว่าเราพูดภาษาจีนไม่ได้

 

ManGu : คุณอยู่ที่เซี่ยงไฮ้แค่สองอาทิตย์ แล้วทำไมถึงกลับไปที่อเมริกาต่อ

Topp : ผมชอบเซี่ยงไฮ้มาก ที่นี่ได้เติมตันชีวิตและสีสันผมทุกวัน และที่นี่ผมได้พบอาชีพที่รักและค้นพบ Bitcoin ตอนนั้นผมอยู่ในตลาดหลักทรัพย์และตลาดหุ้นร่วงลงอย่างรวดเร็ว แต่มีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า Bitcoin พุ่งสูงขึ้นอย่างมากในระยะเวลาอันสั้น ผมเริ่มเข้าใจและพบว่ามีศักยภาพในการพัฒนาอย่างมาก แต่ฉันไม่แน่ใจว่าจะทำหรือไม่ ดังนั้นผมจึงไปที่ซิลิคอนแวลลีย์ในประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อไปหาทางมุมมองของ Google และ Facebook เกี่ยวกับ Bitcoin และได้ปรึกษากับรุ่นพี่University of Oxford รุ่นพี่บอกผมว่า "Bitcoin กำลังเปลี่ยนแปลงโลก" ซึ่งทำให้ฉันมีความมั่นใจมากขึ้นในการทำ Bitcoin

ManGu : หลังจากนั้นก็ตัดสินใจกลับมาเมืองไทยเลย

Topp : คุณพ่อ คุณแม่ ขายเสื้อผ้าที่ตลาดประตูน้ำ และผมนั่งอยู่ที่ประตูเพื่อเขียนโค้ดพร้อมแล็ปท็อป พวกเขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับ bitcoin มาก่อน พวกเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร และสังคมไทยไม่รู้ว่ามันมีอยู่จริง คุณแม่คุณแม่ก็แปลกใจที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ แต่ผมอยู่ที่ร้านกับคอมพิวเตอร์ทั้งวัน

 

ManGu : บริษัทของคุณเริ่มต้นอย่างไร

Topp : ธุรกิจหลักของ Bitkub คือการทำธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัล หลังจากที่ Bitcoin เข้าสู่ประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว ความต้องการในการทำธุรกรรมก็ค่อยๆเพิ่มขึ้น แต่ไม่มีพ่อค้าคนกลางที่เป็นทางการและความปลอดภัย ดังนั้นผมจึงต้องการเปิดการแลกเปลี่ยนที่สามารถทำหน้าที่เป็นพ่อค้าคนกลาง เราได้สร้างเว็บไซต์เพื่อเชื่อมโยงเว็บไซต์กับแต่ละกลุ่ม เพื่อให้ทุกคนสามารถดูข้อมูลการทำธุรกรรมแบบเรียลไทม์ และช่วยลูกค้าไปที่เว็บไซต์อื่นเพื่อทำการซื้อ และเราจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมคนกลาง

ManGu : อะไรคือส่วนที่ยากที่สุดในการเริ่มต้นธุรกิจ

Topp : ช่วง 10 เดือนแรกค่อนข้างยาก ถ้าไม่มีทีม ผมต้องทำอะไรหลายๆอย่างด้วยตัวเอง ผมต้องทำทุกอย่างตั้งแต่ดูแล การบัญชี และการตลาด เพราะจะไม่มีใครเชื่อ CEO อายุ 23 ปี เพราะเขาจะมองว่าคุณเด็กเกินไป ในปี 2014 ประเทศไทยไม่ได้ออกกฎหมายเกี่ยวกับ cryptocurrencies ใด ๆ ผมได้รับจดหมายเตือนจากธนาคารแห่งประเทศไทย พ่อของผมรู้เรื่องนี้และต้องการให้ผมยอมแพ้ แต่ผมยังทำต่อจนถึงปัจจุบัน

 

ManGu : อะไรที่ทำให้คุณมั่นใจว่า Bitcoin จะประสบความสำเร็จ

Topp : ฉันเชื่อมั่นว่า Bitcoin จะพัฒนาได้ดีมากในอนาคต วิชาหนึ่งที่ผมชื่นชอบในมหาวิทยาลัยคือ "ประวัติศาสตร์การเงินโลก" ของบิล เกตส์และ สตีฟ จ็อบส์ พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะไม่เหมือนกับคนส่วนใหญ่ พวกเขาคิดว่าคอมพิวเตอร์กำลังจะเปลี่ยนโลก ดังนั้นพวกเขาจึงสร้างระบบซอฟต์แวร์ใหม่สำหรับโลก คนส่วนใหญ่ไม่ได้มองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับการพัฒนาอินเทอร์เน็ตและมองไม่เห็นอนาคตของอินเทอร์เน็ต แต่ท้ายที่สุด พวกเขาทั้งหมดก็ประสบความสำเร็จ นี่เป็นเพียงไม่กี่คนที่เข้าใจก่อนและคว้าโอกาสแห่งยุคสมัย ตราบใดที่คุณกำลังเดินบนเส้นทางที่ถูกต้องสู่การพัฒนาของโลก คุณก็จะประสบความสำเร็จก่อนคนอื่น

ManGu: ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดมีผลกระทบดีขึ้นหรือแย่ลงอย่างไร

Topp : ส่งกระทบในด้านบวกครับ เพราะว่าจริงๆทุกธุรกิจที่ทำเกี่ยวกับดิจิตอลมันดีขึ้นหมด มันเปลี่ยนทิศทางโลกไปแล้วครับ

 

ManGu : บทบาทของ Bitkub ในอนาคตจะเดินไปทางทิศทางไหน

Topp : Bitkub มีบริษัทในไทยอยู่แล้ว 9 แห่ง และสิ่งที่กำลังทำอยู่ตอนนี้คือการสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลสำหรับประเทศไทย ซึ่งจะเริ่มจาก Financial Inclusion, Education Inclusion และ Healthcare Inclusion เพื่อพัฒนา ในอนาคตฉันหวังว่าประเทศไทยจะปรับตัวเข้ากับโลกดิจิทัลได้และเราจะแสดงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทยให้โลกเห็น เราให้โลกรู้ว่าประเทศไทยสามารถมีบริษัทยูนิคอร์นของตัวเอง บริษัทเทคโนโลยีของตัวเอง และเรามีคุณสมบัติที่จะยืนบนเวทีของการประชุมประจำปีของ World Economic Forum ครับ

ManGu: มีงานอดิเรกอะไรบ้าง ตอนนี้ยังชอบเล่นฟุตบอลอยู่ไหม

Topp : อันนี้ตอบยากมากครับ เพราะว่าไม่ได้มีเวลาว่างมานาน คงอาจจะเป็นท่องเที่ยวครับ ไม่ได้เตะบอลมา 15 ปี เลิกความคิดที่เป็นนักฟุตบอล แล้วก็ไม่ได้ดูบอลด้วย ทำแต่งานไม่ได้ออกกำลังกายเลย ไม่มีเวลาให้ครอบครัว โชคดีที่แฟนเข้าใจ โชคดีที่เจอคนที่เข้าใจเรา ผมมาถึงจุดนี้ได้เพราะมีคนมาสนับสนุน มีพ่อแม่ พี่น้อง แฟนที่เข้าใจเราครับ

 

ManGu: สุดท้ายมีอะไรอยากฝากบอกผู้อ่านชาวจีนบ้าง

Topp : ถ้าคนเรามีความหลงไหล ความเชื่อกับอะไรบางอย่าง แล้วเราลงมือทำทุกวัน แม้แต่เราจะเป็นคนที่เล็กที่สุดคนนึงก็สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงโลกได้ อย่าง Case ของผมเป็นตัวอย่าง เป็นคนที่มีความเชื่อมากๆเชื่อเรื่องบิทคอยน์ โตมากับร้านขายเสื้อผ้าของคุณแม่ 8 ปีสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ขอแค่มีความเชื่อ สิ่งที่อยู่รอบตัวเราที่สร้างมาก่อนไม่ได้ฉลาดหว่าเรา ก็เป็นในทุกยุคสมัย เราสามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้ดีขึ้นได้ Story ของผมโชว์ให้เห็นชัดเจนว่า ผมก็เป็นคนเล็กๆคนนึงที่ ไม่ว่าอุปสรรคอะไรเข้ามา ขอแค่เราไม่ล้มเลิก ลงมือทำทุกวัน เปลี่ยนแปลงสถานการณ์ต่างๆ เปลี่ยนแปลงสังคมได้ครับ

 

Thank you.
คุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา (ท็อป) / Jirayut Srupsrisopa (Topp)
Website : www.bitkub.com

Photographer : Chanokpohn Camnasak @Mickeyhighway_
Graphic Designer : Jamjuree Phetcharat @jam_2p
Coordinator : Natruja Mingmean @fahnrj
Column Writer : Zou SiYi @joy_zz97 / Natruja Mingmean @fahnrj

You can share this post!

MANGU E-Magazine Cover Story 10th Anniversary Issue พบกับพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

MANGU Cover Story Issue 239 (1st September 2022) สัมภาษณ์ คุณกรณ์ ณรงค์เดช จะมาเล่าถึงประสบการณ์กว่าจะมาเป็น CEO Raimon Land