ในช่วงเวลาหลายปีที่่ผ่านมา Rugby School Thailand ได้ยึดมั่นในคติพจน์ "การเรียนรู้ของผู้เรียนจะไม่ถูกจำกัดเพียงแค่วิชาการ แต่จะต้องฝึกฝนและพัฒนาด้านจิตใจ ความเห็นอกเห็นใจ ความมั่นใจ ความรับผิดชอบ และทักษะทางสังคมอย่างครบถ้วน" โดยเรามีความมุ่งมั่นที่จะบ่มเพาะคนเก่งด้วยการพัฒนาทักษะรอบด้าน ในด้านของผู้อำนวยการของโรงเรียน เขาได้ย้ายมาจากวิทยาเขตของประเทศอังกฤษ เราจึงได้ใช้หลักสูตรการเรียนการสอนมาจากประเทศอังกฤษด้วยเช่นกัน นิตยสาร @ManGu ฉบับนี้ไม่ได้เพียงแต่มีการสัมภาษณ์ถึงผู้ก่อตั้ง Rugby School Thailand แต่ยังได้มีการสัมภาษณ์ถึงคุณ บรูซ กรินเลย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนคนปัจจุบัน เขาได้อธิบายถึงแนวความคิด - หลักสูตรการศึกษาของโรงเรียน และได้พูดถึงปัญหาที่พบเจอในโรงเรียน เพื่อนำมาวิเคราะห์ถึงความแตกต่างระหว่าง Rugby School Thailand กับโรงเรียนทั่วไป
ManGu : แนะนำตัวหน่อยค่ะ ทำไมถึงเลือกมาทำอุสาหกรรมด้านการศึกษาที่ประเทศไทย
Bruce Grindlay : สวัสดีครับ ผมชื่อ บรูซ กรินเลย์ ผมเป็นอาจารย์ใหญ่ประจำ Rugby School Thailand ครับ ผมทำงานในภาคส่วนของโรงเรียนเอกชนที่อังกฤษมากว่า 30 ปีแล้ว และเคยเป็นหัวหน้าโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนประจำในอังกฤษเป็นเวลา 12 ปี ก่อนมาประเทศไทยครับ เหตุผลที่ผมตัดสินใจมาที่ประเทศไทยมีอยู่ 2 ข้อ เหตุผลที่ 1 คือปรัชญาของ Rugby School ทั้งในอังกฤษและไทย ที่สรุปไว้ว่า “the whole person, the whole point” กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เป็นการให้ความรู้และการช่วยเหลือในการสร้างคนที่สมบูรณ์มากกว่าการเป็นเพียงแค่โรงงานที่ผลิตสินค้าออกมา เหตุผลที่ 2 ก็คือผมนั้นชื่นชอบการทำงานร่วมกับคนไทยเสมอมา เมื่อครั้งที่ผมเป็นครูประจำหอพักของ Bedford School มีครอบครัวชาวไทยอาศัยอยู่มากมาย ผมชอบความทุ่มเท ทัศนคติ วัฒนธรรมและความจิตใจดีของพวกเขา ผมต้องการดื่มด่ำกับวัฒนธรรมไทย และอยากช่วยให้ลูก ๆ ของพวกเขาประสบความสำเร็จมากขึ้นโดยการเข้าร่วมกับ Rugby School
ManGu : ช่วยแนะนำให้ผู้อ่านทราบได้ไหมว่าโรงเรียนนานาชาติคืออะไร เนื้อหาการเรียนการสอนในโรงเรียนเป็นอย่างไร และช่วยให้นักเรียนต่อยอดการศึกษาได้หรือไม่
Bruce Grindlay : โรงเรียนนานาชาติคือโรงเรียนที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของระบบโรงเรียนรัฐบาลระดับชาติ และมุ่งเน้นในด้านให้การศึกษาแก่นักเรีย และครอบครัวจากทั่วทุกมุมโลก โรงเรียนนานาชาติอังกฤษมุ่งเน้นไปที่การสอนในทุก ๆ ด้านเป็นภาษาอังกฤษ (ยกเว้นภาษาสมัยใหม่) เพื่อให้นักเรียนทุกคนของเราสามารถพูดได้คล่อง และได้ภาษาที่สองโดยที่แทบไม่ต้องพยายาม เพราะพวกเขาได้ดื่มด่ำกับสภาพแวดล้อมที่มีแต่ภาษาอังกฤษ เราสอนเป็นภาษาอังกฤษและใช้ข้อสอบอังกฤษที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก สิ่งนี้มีผลในการสอบ IGCSE และ A Level ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับทองในคุณสมบัติระดับเตรียมเข้ามหาวิทยาลัยทั่วโลก งานของโรงเรียนนานาชาติอย่าง Rugby คือต้องทำให้นักเรียนของเราทุกคนพูดภาษาอังกฤษได้คล่องก่อน และเตรียมความพร้อมรวมถึงพานักเรียนของเราไปสู่มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดทั่วโลก โดยจะเน้นไปที่มหาวิทยาลัยชั้นนำในอังกฤษและอเมริกา
หลักสูตรของเราแทบจะเหมือนกับที่สอนในโรงเรียนเอกชนที่ดีที่สุดของอังกฤษ รวมทั้งโอกาสนอกห้องเรียนอาจมากกว่าที่อังกฤษก็ว่าได้ และสิ่งที่สำคัญกว่าการพานักเรียนของเราเข้ามหาวิทยาลัยระดับโลกที่ดีที่สุด ซึ่งเราก็ทำได้ดีมากอยู่แล้วนั้น โรงเรียนนานาชาติที่ดียังรวมไปถึงการเตรียมบุตรหลานของเราให้เป็นพลเมืองโลกที่มีความพร้อมในการทำงานและการแข่งขันกับแรงงานระดับโลก อีกทั้งยังมีความมั่นใจอย่างภาคภูมิในการเป็นพลเมืองสากล ซึ่งทักษะที่จำเป็นสำหรับเยาวชนศตวรรษที่ 21 ในทุกวันนี้
เราไม่ได้มองว่าตัวเองเพียงโรงเรียนนานาชาติ หากแต่เป็นโรงเรียนเอกชนของอังกฤษในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รูปแบบและกลุ่มการศึกษาระดับนานาชาติของเรานั้นมักจะคล้ายคลึงกันอย่างน่าไม่น่าเชื่อกับสิ่งที่คุณจะพบได้ในภาคอิสระของอังกฤษ รวมไปถึงในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ขณะนี้คุณภาพการศึกษาของเรานั้นเทียบได้กับประสบการณ์ระดับโลก
ManGu : ระบบการศึกษาในหลาย ๆ ประเทศในเอเชียตะวันออกมีแนวโน้มที่จะกดดันเด็กมากขึ้น ทั้งในด้านวิชาการและด้านจิตใจ คุณคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่
Bruce Grindlay : ไม่ครับ ผมคิดว่าเราไม่ควรกดดันเด็กมากเกินไป เราจำเป็นต้องสร้างความยืดหยุ่น ทักษะและความสามารถให้กับนักเรียนของเรา เพื่อให้พวกเขาสามารถรับมือกับความต้องการในการเรียนด้วยวิธีที่สมเหตุสมผลและสมดุล ผมเชื่อ (และผมได้ผ่านมันมาด้วยตัวเองที่แคมบริดจ์) ว่าถ้าคุณต้องทำงาน 5 ชั่วโมงต่อวันซึ่งเกินความคาดหวังของคุณเพื่อให้เก่งหรือแค่ตามให้ทัน คุณจะไม่มีทางประสบความสำเร็จในสถาบันชั้นนำอย่าง ออกซฟอร์ด, เคมบริดจ์, ฮาร์วาร์ด, พรินซ์ตัน เป็นต้น
กุญแจสำคัญไม่ใช้การทำซ้ำไปซ้ำมา แต่เป็นการเรียนรู้ทักษะและเทคนิคให้สามารถทำออกมาได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพตั้งแต่ครั้งแรก ซึ่งเกี่ยวกับการเรียนรู้ที่จะทำงานอย่างชาญฉลาดมากกว่าแค่ทำงานไปอย่างนั้น
และสิ่งสำคัญคือมนุษย์ทุกคนมีเวลาว่างจากงานและมีโอกาสทำกิจกรรมที่หลากหลาย กิจกรรมนอกห้องเรียนเหล่านี้มีความสำคัญอย่างมากในการสร้างสุขภาพที่ดี สร้างความสมดุลให้กับชีวิต และลดความเครียดจากการสอบและทำงาน และอื่น ๆ เหมือนกับสูตรอาหารที่ดี ที่ต้องมีส่วนผสมทั้งหมดที่จำเป็นอย่างสมดุลและชาญฉลาด หากมีเพียงส่วนผสมเดียวอาจทำให้อาหารจานนั้นเสียรสชาติได้
ManGu : เด็ก ๆในโรงเรียนมาจากประเทศอะไรกันบ้าง มีโอกาสไหมที่พวกเขาจะจับกลุ่มอยู่กันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ไหม
Bruce Grindlay : เรามีเด็ก ๆ จากทั่วโลกที่โรงเรียนของเรา ซึ่งเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้โรงเรียนของเราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เรามีนักเรียนไทยประมาณ 45% สัญชาติที่ใหญ่ที่สุดรองลงมาในโรงเรียนคืออังกฤษ รองลงมาคือจีน เกาหลี และสุดท้ายเป็นญี่ปุ่น รัสเซีย ฝรั่งเศส เยอรมัน และอเมริกันที่มีจำนวนน้อยรองลงมา
และเนื่องจากเรามีระบบบ้านที่มั่นคง นักเรียนจึงมีแนวโน้มที่จะสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มชั้นปีแทนที่จะแบ่งแยกเป็นกลุ่ม ๆ สิ่งนี้ได้สร้างกลุ่มครอบครัวเล็กแก่พวกเขา โดยนักเรียนจะได้รับการสนับสนุนกันเหมือนพี่เหมือนน้องที่อยู่ใน "บ้าน" ที่พวกเขาสามารถพึ่งพากันได้ตลอดเวลา ระบบบ้านนั้นได้มอบทั้งครอบครัวและมิตรภาพที่ดีให้กับนักเรียน (ซึ่งสองสิ่งนั้นคือสิ่งที่ดีที่สุดของทั้งโลก)
ManGu : เด็ก ๆ ที่มีวัฒนธรรมแตกต่างกัน มีความแตกต่างกันมากแค่ไหน เกิด culture shock ระหว่างพวกเขาบ้างไหม และคุณจัดการกับปัญหานี้อย่างไร
Bruce Grindlay : ในฐานะที่เป็นโรงเรียนนานาชาติของอังกฤษ เราเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรม เชื้อชาติ และขนบธรรมเนียม อย่างไรก็ตาม เรายังมีเอกลักษณ์ความเป็น “Rugby” อย่างชัดเจนในขนบธรรมเนียม มรดกและความคาดหวังของเรา ทุกคนต้องเรียนรู้ที่จะรับวัฒนธรรมร่วมของเรา ซึ่งจะให้ทุกคนปรับการความเข้าใจของตนเองใหม่ และเปิดใจเรียนรู้คุณค่าและความคาดหวังของ Rugby รวมถึงอยู่ร่วมกับสิ่งเหล่านี้ควบคู่ไปกับภูมิหลังทางวัฒนธรรมของตนเอง
การอยู่โรงเรียนประจำนั้นดีที่สุดสำหรับสิ่งนี้ เพราะว่าไม่มีนักเรียนคนไหนเคยมีประสบการณ์การใช้ชีวิตในหอพักร่วมกับวัฒนธรรมและสัญชาติที่หลากหลายมาก่อน สิ่งนี้จะสอนในด้านความอดทน ความอ่อนน้อมถ่อมตน และยังเป็นการเตรียมพร้อมที่ยอดเยี่ยม หรือก้าวสำคัญสู่ชีวิตในมหาวิทยาลัย เราไม่เคยที่จะละเลยภูมิหลังทางวัฒนธรรมของผู้อื่น แต่เราต้องการที่จะซึมซับและผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรมของ Rugby เพื่อให้ทั้งสองสามารถอยู่ร่วมกันได้ นักเรียนของเราได้เรียนรู้ความอดทน ความยืดหยุ่น และยอมรับแนวคิด วัฒนธรรม และวิธีการใหม่ ๆ เมื่อพวกเขาโตขึ้น การยอมรับและไม่เข้มงวดจนเกินไปนั้นสำคัญมากสำหรับเด็กสมัยนี้ และการอยู่โรงเรียนประจำคือหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการพัฒนาทักษะเหล่านี้
ManGu : คุณมีมุมมองเกี่ยวกับปัญหาการกลั่นแกล้งภายในสถาบันอย่างไร และปัญหาเหล่านี้จะเกิดขึ้นในโรงเรียนของคุณหรือไม่
Bruce Grindlay : ถ้าเกิดว่าคุณเจอโรงเรียนที่บอกว่าไม่มีการกลั่นแกล้งกันเลย นั่นหมายความว่าที่นั่นไม่มีนักเรียน หรือไม่ก็ไม่ได้รู้เลยว่าภายในโรงเรียนเกิดอะไรขึ้นบ้าง มนุษย์อาจจะมีความโหดร้าย หรือบางครั้งอาจมีพฤติกรรมลอกเรียนแบบโดยที่เราไม่รู้ตัวจนส่งผลให้เกิดการรังแกกัน ซึ่งจริง ๆ แล้วมันไม่ได้เกิดแค่ในเด็กเท่านั้น แต่สามารถเกิดในสังคมทั่วไปได้ด้วย และนั่นมันเป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะต้องหามันให้พบ จัดการที่ต้นตอของมันและทำให้มันเกิดขึ้นน้อยที่สุด กุญแจสำคัญในการจัดการกับมันมี 2 ประการ ประการแรก ผมคิดว่าการให้ความรู้กับทุกคนว่าการกลั่นแกล้งคืออะไร และผลกระทบอันเลวร้ายที่อาจมีต่อผู้คนอย่างไร ประการที่สอง คือการสร้างชุมชนให้มีความสุข รู้จักการให้อภัย การมีส่วนร่วมภายในโรงเรียน ทุกคนควรจะเคารพสิทธิของแต่ละบุคคล และยอมรับความแตกต่าง มากกว่าที่จะพยายามทำให้ทุกคนคล้อยตามกัน ตามคำนิยามและ โรงเรียนนานาชาตินั้นจะมีนักเรียนจากหลากหลายประเทศ ดังนั้นเราจึงต้องรู้จักมีความอดทน และสิ่งสำคัญที่สุดคือการยอมรับความแตกต่างของกันละกัน หากเราทุกคนรับรู้และยกย่องว่าเราต่างก็มีรูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เช่นเดียวกับชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ เราจะเห็นว่าเรามีจุดที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งจิ๊กซอว์จะสมบูรณ์ได้นั้น ก็ต่อเมื่อชิ้นส่วนแต่ละชิ้นมีรูปทรงเฉพาะตัว นักเรียนของเรามีความสำคัญต่อส่วนรวม และเราต้องการให้พวกเขายอมรับในความแตกต่างนั้นได้
Thank you.
Bruce Grindlay / บรูซ กรินเลย์
Photographer : Iponz Saenuwong
Coordinator : Nopparada Meimei @nopparamei
Graphic Designer : Satamed Kunawattana @Pdillustrator
Column Writer : Zou SiYi @joy_zz97 / Sheldon Chan @sheldonchan1116