หลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้กำหนดนโยบายพิเศษในเรื่องของการปลอดภาษีและลดภาษี เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพการณ์ที่เป็นมลพิษจากรถยนต์ของประเทศไทยในปัจจุบัน และภายใต้การผลักดันของนโยบายเหล่านี้ ตลาดรถยนต์ออโต้ในประเทศไทยจึงมีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัท BYD AUTO ได้เข้ามาในประเทศไทย คนไทยที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษหมอกควันมาหลายปี พวกเขาต่างต้องการที่จะสัมผัสกับอากาศที่บริสุทธิ์ BYD AUTO จึงได้นำพานโยบาย “พลังงานสีเขียว” เข้ามาในประเทศไทย เช่นเดียวกันกับ“Buld Your Dream”ที่เรามักจะเห็นบนรถยนต์ของ BYD AUTO และบริษัท BYD AUTO เป็นบริษัทที่สร้างความฝันให้เป็นจริงอย่างไม่ต้องสงสัย พวกเขาเป็นกลุ่มที่จุดประกาย “ความฝันสีเขียว” ให้กับคนไทย ซึ่งการผลิตรถยนต์ที่แข็งแกร่งของประเทศ ได้มีการจัดเตรียมและสำรองเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย แต่การที่จะนำรถยนต์ EV เข้ามาในตลาดของไทยยังคงต้องเผชิญกับปัญหามากมาย ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติทางน้ำ โครงสร้างพื้นฐาน หรือความปลอดภัยในการเดินทาง ต่างก็เป็นอุปสรรคที่สำคัญของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยที่ผู้คนต่างกังวลว่าทำอย่างไรจึงจะเอาชนะปัญหานี้ได้ นอกจากนี้คนไทยยังมีความกังวลเกี่ยวกับการเข้ามาในประเทศไทยของ BYD AUTO ว่าจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและเพิ่มอัตราการจ้างงานในไทยได้หรือไม่ นิตยสาร @ManGu เล่มนี้ได้เชิญคุณ เคอ ยวี่ปิน ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย บริษัท บีวายดี ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด มาพูดถึงความลับสีเขียวของ BYD AUTO
ManGu : สวัสดีค่ะ คุณเคอ ยวี่ปิน ช่วยแนะนำตัวสักหน่อยค่ะ
Ke Yubin : ผมเคอ ยวี่ปิน ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย บริษัท บีวายดี ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ตอนนี้มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับธุรกิจ BYD AUTO ในตลาดไทยครับ
ManGu : ในฐานะที่เป็นบุคลากรจากการสนับสนุนของประเทศจีนมายังประเทศไทย อะไรคือโอกาสที่ทำให้คุณได้เข้ามาในอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้า
Ke Yubin : พอผมเรียนจบเมื่อปี 2009 ก็ได้เข้ามาในบริษัท BYD AUTO ตอนนั้นธุรกิจหลัก ๆ ของบริษัทคือแบตเตอรี่ อุปกรณ์ IT และยานยนต์ ซึ่งในช่วงนั้นบริษัทได้เริ่มมีการวางแผนพัฒนายานยนต์พลังงานไฟฟ้าแล้ว และผมก็ทราบดีว่าภายในประเทศ รวมถึงทั่วโลกก็กำลังเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ เช่น การขาดแคลนพลังงานและมลพิษทางอากาศ ดังนั้นผมเลยกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้า และต่อมาทางบริษัทก็ได้มีการวางแผนในการดำเนินธุรกิจยานยนต์ในต่างประเทศด้วย ผมจึงตั้งใจอย่างแนวแน่ในการผลักดันกระแสผลตอบรับของยานยนต์พลังงานไฟฟ้า
ManGu : พวกเรามักจะเห็นคำว่า “Build Your Dream” ในยานยนต์ของ BYD ช่วยอธิบายให้เราฟังได้ไหม ว่าความหมายคืออะไร คำว่า “Dream” มีความหมายว่าอย่างไร และแนวคิดของบริษัทคืออะไร
Ke Yubin : ความฝันของ BYD ก็คือ การค้นหาและการสนับสนุนในเรื่องของยานยนต์ไฟฟ้า สร้างรูปแบบใหม่ในการดำรงชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้คาร์บอน ผ่านผลิตภัณฑ์ที่มาจากพลังงานสะอาดและความฝันของผมคือการหวังว่าจะได้นำเอาผลิตภัณฑ์ของ BYD มาเผยแพร่ในประเทศไทย เพื่อนำเสนอทางเลือกและการแก้ไขปัญหาในเรื่องของการคมนาคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้ผู้บริโภคชาวไทย และเพื่อให้มีส่วนช่วยตามเป้าหมายในการพัฒนาด้านการควบคุมมลพิษและการลดการปล่อยมลพิษของประเทศไทย BYD จึงมุ่งมั่นที่จะใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คนให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ยึดมั่นในแนวคิดการพัฒนาองค์กรที่ว่า "เทคโนโลยีคือราชา นวัตกรรมคือรากฐาน" และต้องการทำให้ความฝันของผู้ใช้เป็นจริงด้วยผลิตภัณฑ์และการบริการที่ดีกว่า
ManGu : เหตุผลอะไรที่ทำให้ BYD ยกเลิกการใช้เชื้อเพลิงแบบเก่าและเปลี่ยนมาเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รายแรกของโลก
Ke Yubin : อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันความต้องการใช้เชื้อเพลิงก็เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้เชื้อเพลิงหรือน้ำมันในปริมาณมากนั้นเป็นการสร้างมลพิษให้แก่โลกได้ เนื่องด้วยรถยนต์ EV เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีประสิทธิภาพเหนือกว่า เหมาะสำหรับโลกแห่งอนาคต ในฐานะผู้นำด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BYD ได้ทำการสำรวจเกี่ยวกับเรื่องของแบตเตอรี่มาเป็นเวลาหลายปี โดยผสมผสานเทคโนโลยีแบตเตอรี่เข้ากับยานยนต์ ลดการใช้น้ำมันเชื่อเพลิงและลดการปล่อยไอเสียด้วยการพัฒนารถยนต์ EV เพื่อช่วยสร้างโลกอนาคตสีเขียว ยึดมั่นในแนวคิดการพัฒนา "นวัตกรรมใหม่" และ "สิ่งแวดล้อมสีเขียว" การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยพลังของนวัตกรรมคาร์บอนต่ำทางเทคโนโลยีจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนของสังคมได้อย่างแน่นอน
ManGu : ในช่วงสองปีที่ผ่านมา มีการพูดถึงปัญหา "การขาดแคลนไฟฟ้า" เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเกิดสงครามยูเครน-รัสเซีย ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความต้องการใช้ไฟฟ้าของผู้คนก็เพิ่มมากขึ้น แม้แต่ประเทศมหาอำนาจอย่างจีนก็ประสบปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าเช่นกัน แล้วแบบนี้อุตสาหกรรมรถยนต์ EV ได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง และมีวิธีรับมืออย่างไรบ้าง
Ke Yubin : เรื่องนี้จริง ๆ เราไม่ได้กังวลอะไรมากมาย กระบวนการพัฒนาของรถยนต์ EV จะส่งเสริมการเปลี่ยนแปลง และการยกระดับอุตสาหกรรมพลังงานในตลาดได้อย่างรวดเร็ว การพัฒนารถยนต์ EV จะช่วยส่งเสริมการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าและการพัฒนาพลังงานสะอาด อีกทั้งยังใช้ต้นทุนต่ำแต่ประสิทธิภาพสูง ทั้งอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ ลม น้ำ และอุปกรณ์แบตเตอรี่ การพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานที่เกี่ยวข้องเหล่านี้จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนพลังงานได้ และผมเชื่อมั่นว่าวิกฤตการณ์ด้านพลังงานในปัจจุบันจะเกิดขึ้นเพียงช่วงสั้น ๆ เท่านั้น อุตสาหกรรมรถยนต์ EV จะเดินไปสู่โลกอนาคตที่สดใสได้แน่นอน
ManGu : เป็นที่ทราบกันดีว่าสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ของประเทศไทยค่อนข้างซับซ้อน โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เป็นเนิน ภูเขา หรือแอ่งกระทะเสียส่วนใหญ่ คุณมีวิธีรับมือปัญหานี้อย่างไร
Ke Yubin : ATTO 3 จะเป็นตัวรถแบบ SUV และแชสซีของตัวรถจะห่างจากพื้นดินค่อนข้างสูง ซึ่งในขณะเดียวกัน ช่วงล่างของแม็คเฟอร์สันทั้งด้านหน้าและด้านหลังจะเป็นแบบตัวยึดหลายจุด ตลอดจนการปรับแต่งแชสซีโดย BYD ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ขับขี่และผู้โดยสารของเราจะได้รับการบริการอย่างราบรื่น และมีการขับขี่ที่สะดวกสบายในสภาพถนนที่ค่อนข้างขรุขระ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะสามารถทดลองขับ ATTO 3 ของเราได้
ManGu : ปีนี้ประเทศไทยได้มีอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011 และเราทุกคนต่างก็รู้ว่าน้ำเป็นตัวนำกระแสไฟฟ้า หลังจากที่เกิดภัยพิบัติทางน้ำก็ทำให้ตัวชาร์จของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย ดังนั้นมีวิธีรับมือกับปัญหานี้ไหม
Ke Yubin : ในการออกแบบยานยนต์พลังงานไฟฟ้านั้น ก็ได้มีการพิจารณาถึงปัญหาเกี่ยวกับน้ำฝนแล้ว ดังนั้นตัวแท่นชาร์จจะมียางวงกลมที่เป็นตัวกันน้ำ ซึ่งจะติดเข้ากับตัวแท่นชาร์จ หลังจากที่ตัวชาร์จเสียบเข้าไปในตัวแท่นชาร์จแล้วก็จะทำให้ปิดสนิทได้ แต่ถึงอย่างไร หลังจากที่เกิดฝนตกหนักหรือว่าน้ำท่วมก็จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเสียหายได้ แต่เพื่อเป็นการลดความเสียหายของตัวชาร์จจากน้ำ การวางตำแหน่งของตัวชาร์จจึงไม่สามารถติดตั้งในส่วนล่างได้ และยานยนต์ไม่สามารถจอดบริเวณที่เป็นแอ่งน้ำได้เช่นกัน แม้ว่าตัวชาร์จจะถูกวางในตำแหน่งที่เหมาะสมแล้ว แต่ก็สามารถติดตั้งในระดับที่สูงได้อีก และสำหรับตัวยานยนต์นั้น ไม่ว่าจะเป็นยานยนต์แบบพลังงานไฟฟ้า หรือยานยนต์แบบเชื้อเพลิงก็ควรหลีกเลี่ยงการแช่น้ำ
ManGu : คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับพฤติกรรมการอุปโภคของคนไทยและคนจีนที่มีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก
Ke Yubin : ผู้คนในทุกประเทศจะมีลักษณะการบริโภคอุปโภคที่แตกต่างกันออกไป และเราค่อนข้างที่จะรับฟังเสียงตอบรับในตลาดไทย รวมถึงทำความเข้าใจในความคิดของผู้บริโภคชาวไทยด้วย เราจึงจัดหาผลิตภัณฑ์ที่ดี ซึ่งในปัจจุบันทางเราก็มีโรงงานผลิตยานยนต์โดย BYD แห่งแรกในประเทศไทย และยังได้ผลักดันเข้าสู่ตลาดไทยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการให้บริการด้วยหัวใจแก่ผู้บริโภคชาวไทย
ManGu : เราต่างทราบดีว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ต้องการการสนับสนุนจากรัฐบาลเป็นอย่างมาก และในส่วนนี้รัฐบาลไทยมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างต่อยานยนต์พลังงานไฟฟ้า มีมาตรการการสนับสนุนหรือไม่
Ke Yubin : ในฐานะที่เป็นตลาดยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนและเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยจึงได้รับเงื่อนไขและมีสิทธิพิเศษ ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นนโยบายภายใต้มาตรการพื้นฐานของแบตเตอรี่ การก่อสร้างเครือข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ การลดภาษีของยานยนต์พลังงานไฟฟ้า สถานการณ์ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศก็ได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว และค่อย ๆ ก่อตัวเป็นตลาดที่แข็งแกร่ง จึงเป็นโอกาสที่ทำให้ยานยนต์ BYD จะมีผลตอบรับที่ดีขึ้น
ManGu : ยานยนต์ของ BYD ที่จำหน่ายในประเทศไทย ณ ตอนนี้ ได้ผลิตมาจากประเทศจีนหรือประเทศไทย และมีแผนย้ายแหล่งการผลิตมายังประเทศไทยหรือไม่
Ke Yubin : พวงมาลัยของยานยนต์ที่จำหน่ายในประเทศไทยในปัจจุบัน ได้ผลิตที่เมืองฉางโจว ประเทศจีน และในวันที่ 8 กันยายนของปีนี้ BYD ได้มีการลงนามเซ็นสัญญากับเขตอุตสาหกรรม WHA ของไทย นับว่าเป็นการก่อตั้งโรงงานอย่างเป็นทางการในประเทศไทย และโรงงานของ BYD จะเปิดอย่างเป็นทางการในปี 2567 ซึ่งยานยนต์ที่ผลิตได้จะเข้าสู่ตลาดในประเทศไทยและในขณะเดียวกัน ก็จะมีการแพร่กระจายไปยังประเทศสมาชิกของอาเซียนและภูมิภาคอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นการทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกทางแบรนด์ที่หลากหลาย รวมถึงได้ใช้เทคโนโลยีที่มีคุณภาพสูงขึ้น
ManGu : ผู้อ่านชาวไทยต้องการทราบว่า บริษัทยานยนต์ของประเทศจีนสามารถนำอะไรมาสู่ประเทศไทยได้บ้าง และจะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของประเทศไทยมากน้อยเพียงใด
Ke Yubin : ทาง BYD มุ่งหวังที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศไทยที่ซึ่งเป็น "สยามเมืองยิ้ม" และในขณะเดียวกัน เราจะทำให้ผู้บริโภคในท้องถิ่นได้มีทางเลือกมากขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์จากพลังงานไฟฟ้า อีกทั้งยังสามารถช่วยให้ปัญหามลภาวะไอเสียในประเทศไทยดีขึ้น ซึ่ง BYD ได้ทำการก่อตั้งโรงงานในไทยและหวังว่าจะสามารถแบ่งปันความสำเร็จด้านเทคโนโลยีสีเขียวกับพันธมิตรระดับโลก ส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศไทย ช่วยเหลือการจ้างงานในท้องถิ่น และเติมความมีชีวิตชีวาให้กับเศรษฐกิจของประเทศไทย
Thank You.
Ke Yubin / เคอ ยวี่ปิน
Photographer : Nawapon Saenuwong
Graphic Designer : Satamed Kunawattana @Pdillustrator
Coordinator / Interviews :Zou SiYi @joy_zz97
Column Writer : Sheldon Chan @sheldonchan1116