news-details

MANGU E-Magazine Cover Story Issue 254 (15th April 2023) พบกับบสัมภาษณ์ "จ๋า อลิสา พันธุศักดิ์ คุนผลิน" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ทีพีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด

เสน่ห์ทางเสียงดนตรี การเต้นรำ ความงามที่หลากหลายผ่านการแสดงของสาวข้ามเพศ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ทีพีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด
คุณจ๋า อลิสา พันธุศักดิ์ คุนผลิน

 การแสดงโชว์คาบาเรต์ของสาวประเภทสองในประเทศไทยมีชื่อเสียงไปทั่วโลกและสามารถดึงดูดความสนใจแก่นักท่องเที่ยว ในขณะเดียวกันทิฟฟานี่โชว์ พัทยา ถือว่าเป็นการแสดงคาบาเรต์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียและเป็นการแสดงสาวประเภทสองแห่งแรกในประเทศไทย

การแสดงคาบาเรต์ของทิฟฟานี่ก่อตั้งขึ้นในปี 2517 เดิมทีแสดงบนเวทีเล็ก โดยการแสดงส่วนใหญ่มาจากละครคลาสสิกบนบรอดเวย์ในนิวยอร์ก ปัจจุบันเป็นที่รู้จักอย่างมากและกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดแห่งหนึ่งของพัทยา ซึ่งที่ทิฟฟานี่โชว์ยังมีโรงละครเป็นของตัวเอง โดยมีคุณอลิสา พันธุศักดิ์ คุนผลิน (คุณจ๋า) เป็นผู้บริหารของทิฟฟานี่ ครอบครัวของเธอได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการแสดงโชว์คาบาเรต์ที่มีต่อสังคมไทยตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ การนำเสนอความหลากหลายและความสวยงามของสาวประเภทสอง

ประเทศไทยในทศวรรษที่ 1970 สาวประเภทสองไม่ได้รับการยอมรับมากนัก ไม่สามารถหางานทำพอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้ ประจวบกับช่วงที่พ่อของคุณจ๋าได้พบกับคุณอาอั่งปี๋ จึงร่วมมือกันผลิตละครเวที อีกคนดูแลธุรกิจและร่วมกันสร้างโรงละครขึ้น อย่างไรก็ตามทิฟฟานี่โชว์ก็ได้รับเสียงวิจารณ์มากมายในช่วงแรก บางคนอาจสงสัยว่าทำไมพวกเขาถึงต้องร่วมงานกับสาวประเภทสองไม่ว่าจะเป็นเกย์หรือเพศทางเลือกอื่น ๆ คุณพ่อของคุณจ๋าเชื่อมั่นในศรัทธาว่า "ความสำเร็จไม่ได้หมายถึงการได้รับความเห็นชอบจากผู้อื่น แต่ให้เต็มไปด้วยความสุขในหัวใจ" ท่านเชื่อมั่นในสิ่งที่เลือก เชื่อมั่นในคุณค่าของทิฟฟานี่โชว์ และยืนหยัดที่จะสร้างมันขึ้นมานำมาสู่สถานที่น่าสนใจในพัทยา โรงละครแสดงโชว์คาบาเรต์ของสาวประเภทสองแห่งแรกของประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียงโรงละคร แต่ยังเป็นเวทีเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรม ศิลปะการแสดงความงาม เสน่ห์ เอกลักษณ์ ความเท่าเทียมของคนข้ามเพศปัจจุบันภารกิจเพื่อสังคมที่ไม่เหมือนใครอย่างทิฟฟานี่โชว์ก็ได้ส่งต่อไปยังรุ่นของคุณอลิสา พันธุศักดิ์ คุนผลิน (คุณจ๋า)

ในปี 2565 การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เปลี่ยนชีวิตประจำวันและสภาพทางเศรษฐกิจของเราอย่างสิ้นเชิง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยได้รับผลกระทบอย่างหนัก อย่างทิฟฟานี่ก็ต้องหยุดชั่วคราวและถูกบังคับให้ปิดเป็นเวลาสามปี ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาทิฟฟานี่โชว์ต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย แต่คุณจ๋า อลิสา พันธุศักดิ์ คุนผลิน ก็ยังไม่ละทิ้งความเอาใจใส่และความมุ่งมั่นที่มีต่อพนักงาน ในทางกลับกันพวกเขาพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของพนักงาน และทำให้พวกเขารู้สึกถึงความอบอุ่นขององค์กร โดยการจัดพนักงานให้ทำงานในตำแหน่งต่าง ๆ ภายในบริษัทและยังช่วยพนักงานจัดหาโอกาสในการทำงานอื่นๆเพื่อให้พวกเขามีรายได้เสริม การดูแลพนักงานในลักษณะนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเคารพและคำนึงถึงพนักงานเท่านั้นแต่ยังเป็นการลงมือทำและปฏิบัติตามความรับผิดชอบต่อสังคมอีกด้วย

ในยุคนี้กำไรเชิงพาณิชย์และความรับผิดชอบต่อสังคมมักถูกมองว่าเป็นเส้นตรงสองเส้นที่แยกจากกันแต่ทิฟฟานี่โชว์บอกเราด้วยประสบการณ์ที่ประสบความสำเร็จว่ากำไรเชิงพาณิชย์และความรับผิดชอบต่อสังคมไม่ได้แยกจากัน ทั้งสองต้องควบคู่กันและเสริมสร้างซึ่งกันและกัน

หลังจากผ่านไป 3 ปี ทิฟฟฟานี่โชว์หวนคืนสู่สายตาของนักท่องเที่ยวด้วยเวทีใหม่เอี่ยม ครั้งนี้พวกเขาจะไม่เพียงแค่อวดความงามและความสามารถของคนข้ามเพศให้โลกเห็นเท่านั้นแต่ยังแสดงให้โลกเห็นถึงทัศนคติที่เปิดกว้างของสังคมไทยต่อความหลากหลายทางเพศ ซึ่งทัศนคตินี้ทำให้ผู้คนเข้าใจและเคารพคนข้ามเพศมากขึ้น ณ ในขณะเดียวกันก็กลายเป็นหน้าต่างให้ผู้คนได้เข้าใจความหลากหลายทางวัฒนธรรมของประเทศไทยมากขึ้น

ManGu: คุณเติบโตมาในครอบครัวพร้อมกับการเริ่มต้นทิฟฟานี่โชว์เลยหรือไม่?

คุณจ๋า: คุณพ่อเคยทำธุรกิจโรงแรมและแลกเปลี่ยนเงินตรา แต่ท่านมักจะพาเราไปดูการแสดงทิฟฟานี่โชว์ทุกวันเป็นเวลาพักหนึ่ง ในเวลานั้นเรายังเด็กมีอายุประมาณเพียงห้าขวบเท่านั้น ทิฟฟานี่โชว์ยังดูไม่โดดเด่นในเวลานั้นมีเพียงประมาณ 200 คนเท่านั้นที่นั่งชมการแสดง คุณพ่อเจรจาธุรกิจกับคุณอาอั่งปี๋ซึ่งเป็นเจ้าของในขณะนั้นและขอให้อาอั่งปี๋เช่าสถานที่นี้เป็นสถานที่จัดการแสดง ทำให้เกิดเป็นโรงละครทิฟฟานี่โชว์ขึ้นในปัจจุบัน แต่ในช่วงแรกมีที่นั่งเพียง 550 ที่นั่งและมีการปรับปรุงและขยายอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามหลังจากเช่าได้ไม่ถึงสองปี อาอั่งปี๋บอกว่าเขาไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ เขาไม่รู้ว่าจะเข้าหากลุ่มทัวร์หรือหาฐานลูกค้าอย่างไร นั่นเป็นปัญหาใหญ่สำหรับนักแสดงและทีมงานข้ามเพศกว่า 40 ถึง 50 คน ในยุคนั้นคนเหล่านี้หางานได้ไม่ง่ายนัก คุณพ่อรู้สึกเห็นใจอย่างมากดังนั้นเขาจึงเสนอที่จะร่วมมือกับอาอั่งปี๋และเขาก็เต็มใจที่จะเป็นหุ้นส่วนเพื่อรับผิดชอบในการพัฒนาบริหารธุรกิจ และให้อาอั่งปี๋รับผิดชอบส่วนการผลิตการแสดง

 

ManGu: ณ ขณะนั้น ใครคือผู้ชมหลักของทิฟฟานี่โชว์?

คุณจ๋า: สมัยนั้นนักท่องเที่ยวที่มาชมการแสดงทิฟฟานี่โชว์หลักแบ่งเป็น 3 ประเภท คือจากอเมริกา ยุโรป และจีนฮ่องกง กรุ๊ปทัวร์ส่วนใหญ่เป็นคนฮ่องกงแต่เมื่อเวลาผ่านไปผู้ชมก็ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ หากทิฟฟานี่โชว์ถูกปิดในเวลานั้นก็น่าเสียดายสำหรับนักแสดงข้ามเพศเหล่านั้น เพราะพวกเขาทำงานเป็นพนักงานในโรงงานและขาดโอกาสในการแสดงตัวตน ทิฟฟานี่โชว์เป็นเวทีแสดงตัวตนของพวกเขา หลังจากที่คุณพ่อเข้ามารับช่วงต่อเขาได้ขยายธุรกิจอย่างจริงจังรวมถึงการไปต่างประเทศเพื่อจัดโรดโชว์และกิจกรรมซึ่งสร้างชื่อเสียงระดับนานาชาติเขามองการณ์ไกลและวางแผนพร้อมความกล้าหาญ ท่านคิดว่าตราบใดที่คิดว่ามันถูกต้องก็ไม่จำเป็นต้องรู้สึกอาย อย่างไรก็ตามก็ได้รับคำวิจารณ์เช่นกันบางคนบอกว่าทำไมเขาถึงทำงานกับคนข้ามเพศ ซึ่งคุณพ่อเคยกล่าวไว้ว่า "ความสำเร็จไม่ได้หมายถึงการได้รับการยอมรับจากผู้อื่นแต่คือการเต็มไปด้วยความสุขในหัวใจของตัวเอง" ท่านเชื่อในทางเลือกของตัวเองและคุณค่าของทิฟฟานี่โชว์คิดว่าพัทยามีครบทุกอย่าง ทั้งโรงแรม บาร์ ชายหาด ฯลฯ แต่ไม่มีเอ็นเตอร์เทนเม้นดังนั้นท่านจึงมุ่งมั่นที่จะสร้างทิฟฟานี่โชว์ขึ้นมาและกลายเป็นสถานที่มีชื่อเสียงในพัทยา

 

ManGu: ตอนนี้ทิฟฟานี่โชว์กลายเป็นสถานนที่ที่พลาดไม่ได้ในพัทยาเหมือนแลนด์มาร์ค จำได้คร่าวๆ ไหมคะว่าความสำเร็จนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อใด?

คุณจ๋า: ในฐานะโรงละครแสดงโชว์คาบาเรต์ของสาวประเภทสองแห่งแรกในประเทศไทย จึงมีพันธกิจสำคัญตั้งแต่ก่อตั้งคือการอธิบายให้โลกรู้ว่าเป็นการแสดงรูปแบบปกติ สิ่งเดียวที่แตกต่างคือนักแสดงเป็นสาวประเภทสองนี่เป็นหนึ่งในจุดขายของโรงละคร ในช่วงแรกเนื้อหาของการแสดงส่วนใหญ่เป็นการเลียนแบบ เช่น การเลียนแบบดาราฮอลลีวูดเช่นเดียวกับการแสดงในต่างประเทศ ยังจำได้ว่าดูการแสดงกับคุณพ่อและท่านขอไอเดียจากเราเพราะท่านต้องการแรงบันดาลใจใหม่ ๆ จากคนหนุ่มสาว

พร้อมทั้งเราได้เห็นและเรียนรู้จากโรงละครทั่วโลก เราจึงเข้าใจว่าเราจำเป็นต้องสร้างเนื้อหาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเราเอง รวมถึงฟีเจอร์ต่างๆจึงเริ่มสร้างระบบการจองตั๋วและจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์เพื่อสร้างโมเดลการจองตั๋วออนไลน์ให้กับเรา นอกจากนี้เรายังเริ่มเขียนเพลงของเราเองและสร้างเนื้อหาของเราเอง เป้าหมายของเราไม่ใช่แค่ให้ผู้ชมรู้จักนักแสดงของเราแต่ยังเพื่อให้คนทั่วโลกเห็นความสามารถและความสวยด้วย ตั้งแต่ปี 2541 เราจึงจัดประกวด Miss Tiffany Universe และ Miss International Queen ซึ่งเป็นสองงานที่เราเป็นเจ้าของสิทธิ์และขายสิทธิ์ให้กับประเทศอื่น ๆ ดังนั้นสามข้ามเพศที่สวยงามจากทั่วทุกมุมโลกสามารถมาแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งได้

ManGu: คุณเริ่มมีส่วนร่วมในธุรกิจของทิฟฟานี่ตั้งแต่เมื่อไหร่?

คุณจ๋า: เริ่มเข้ามาทำธุรกิจของทิฟฟานี่ตั้งแต่อายุ 23 ปี ตอนแรกไม่คิดว่าจะมาดูแลธุรกิจของครอบครัวเราคิดแค่ต้องการเรียนจบและเริ่มงานโดยเร็วที่สุด แต่คุณพ่อมีธุรกิจมากมายที่ต้องจัดการและมีการวางแผนไว้ เราจึงกลับมาช่วยบริหารธุรกิจของครอบครัว รวมถึงโรงแรมและทิฟฟานี่โชว์ด้วย จ๋าเลือกเรียนศึกษารัฐศาสตร์ในระดับปริญญาตรีและ MBA สำหรับปริญญาโท เราคิดที่จะสอบเข้ากระทรวงการคลัง ตอนนี้จึงทำงานด้านการตลาดและการเรียนในสิ่งที่ไม่รู้ เช่นเดียวกับพี่สาวเป็นเลขารัฐมนตรีก็มาช่วยงานครอบครัว น้องเองสาวทำงานไฟแนนซ์แต่สุดท้ายก็กลับมาช่วย และเรารู้สึกขอบคุณที่ได้รับความช่วยเหลือจากพวกเขาในการดูแลธุรกิจร่วมกันดังคำกล่าวที่ว่า"เจริญรุ่งเรืองในครอบครัว" เราร่วมมือในการทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาธุรกิจของครอบครัว

 

ManGu: หลังจากที่เข้ามาบริหารคุณจ๋ารู้สึกว่ายากไหม?

คุณจ๋า: เราคิดว่าการทำงานที่ทิฟฟานี่ไม่ใช่เรื่องยาก แต่คุณต้องเรียนรู้ทุกวันการทำงานที่นี่ทำให้เรามีความสุขมากเพราะเกี่ยวข้องกับ "ความงาม" ตอนเด็กๆ เราชอบเต้นมากแต่ไม่เคยคิดเรื่องการแสดงเลยเพียงเพราะการกระโดดโลดเต้นเป็นเรื่องสนุก หลังจากทำงานที่นี่จึงเริ่มเข้าใจความหมายที่ลึกซึ้งของการเต้นรำ ความงาม และภาพลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นเพลง เครื่องแต่งกาย หรือการแสดง มันทำให้เรารู้สึกมีความสุขมาก เราคิดว่าสิ่งที่ท้าทายที่สุดคือความคาดหวังของผู้ชม เราต้องคิดการแสดงที่ดีและผลิตผลงานที่ยอดเยี่ยมที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกแปลกใหม่และยินดีที่จะซื้อตั๋วเมื่อได้ยินชื่อการแสดง เราต้องทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าหลังจากดูการแสดงแล้ว มันเกินความคาดหมายของพวกเขาทำให้พวกเขารู้สึกว่าราคาตั๋วคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปเวลาที่ใช้ไปนั้นคุ้มค่าและนี่คือสิ่งที่ต้องดูทุก ๆ ปี รสนิยม ความคาดหวัง และความชื่นชอบในการรับชมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เช่น สื่อสังคมออนไลน์ ทำให้พวกเขามีตัวเลือกมากขึ้น ดังนั้นเราจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงนี้และทำให้ผู้ชมประหลาดใจ นี่คือสิ่งที่เราว่าท้าทายที่สุด นอกจากนี้เรายังต้องทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าเราใส่ใจ นักแสดงไม่เพียงแต่มีทักษะการแสดงที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังต้องมีจิตวิณญาณของการเป็นนักแสดง มีการใจเข้าไปอยู่ในการแสดงอย่างเต็มที่ การแสดงทุกครั้งต้องใช้ความพยายามร่วมกันของพนักงานทุกคนในการปฏิบัติต่อผู้ชมด้วยหัวใจ มีเพียงการเรียนรู้และปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเท่านั้นที่ผู้ชมจะสัมผัสได้ถึงความตั้งใจและความจริงใจของเรา ตราบใดที่เราพยายามอย่างต่อเนื่องเราจะสามารถได้รับการยอมรับและชื่นชมจากผู้ชมได้อย่างแน่นอน

 

ManGu: ในฐานะโรงละครที่มีนักแสดงมากมาย มีเรื่องที่ไม่สามารถควบคุมเกิดขึ้นบ้างไหม?

คุณจ๋า: จริง ๆ ก็ไม่เท่าไหร่ เมื่อคัดเลือกนักแสดงและทีมงาน เราจะเลือกเฉพาะผู้ที่เข้าใจหลักการขององค์กร มีวินัย มีความเข้าใจด้านวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง สำหรับทักษะการร้องและการเต้นของพวกเขาเราไม่เพียงแต่ให้ความสนใจกับการแสดงที่โดดเด่นของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับกระบวนการฝึกฝนอีกด้วยเพื่อให้พวกเขาเข้าใจกฎและมารยาทและเข้าใจว่างานนี้สามารถช่วยพวกเขาให้ประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมาย สร้างรายได้ พัฒนาอาชีพและประสบความสำเร็จ ให้พวกเขาคิดเกี่ยวกับเป้าหมายสอดคล้องกับองค์กร ในขณะเดียวกันเราก็ใส่ใจความรู้สึกของพวกเขาด้วย ไม่ว่าจะเป็นชาย หญิง หรือเพศที่สาม เราใช้ "คุณ" เพื่อแสดงความหมายของการปฏิบัติต่อกันอย่างเท่าเทียมกัน

ManGu: ทิฟฟานี่มีกฎที่แตกต่างจากบริษัทอื่นไหม?

คุณจ๋า: กฎระเบียบภายในของเราเข้มงวดไม่น้อยไปกว่าองค์กรทั่วไป ไม่ว่าพวกเขาจะมาสาย ออกก่อนกำหนด หรือทำผลงานได้ไม่ดี พวกเขาจะถูกลงโทษ ผู้ที่ไม่สามารถปฏิบัติตามได้พวกเขาจะถูกปลดออกจากงานเพื่อปกป้องภาพลักษณ์ เราบอกพนักงานของเราเสมอให้ใส่ใจกับคำพูดและการกระทำของพวกเขา งดส่งเสียงดังและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอื่นๆ เราคาดหวังให้เขาปฏิบัติตามมาตรฐานคุณธรรมที่ชายและหญิงพึงมีมีความเคารพซึ่งกันและกัน เมื่อเทียบกับคนทั่วไปบางคนพยายามที่จะเน้นภาพลักษณ์ของตนเองจนเกินงาม ในเรื่องนี้เราสอนให้พวกเขารู้ว่าการแสดงออกนั้นทำได้แต่ในทางที่ถูกต้องเท่านั้น

 

ManGu: ในการคัดเลือกนักแสดงของ Tiffany พวกเขาผ่านการออดิชั่นมาทั้งหมดหรือไม่? โดยมีการแบ่งการแสดงอย่างไร?

คุณจ๋า: เราเลือกนักแสดงมาอย่างดีไม่ใช่ว่าจะเอามาปะปนกันได้ หลังจากผ่านการทดสอบหลายครั้งแล้ว คุณจะมีโอกาสได้รับการออดิชั่นหลังจากผ่านการออดิชั่นเรียบร้อยแล้ว นักแสดงแต่ละคนจะต้องเริ่มต้นตั้งแต่ด้านล่างสุดของเวทีและฝึกฝนด้วยบทบาทนักเต้นสำรอง นักแสดงชายต้องแสดงเป็นนักเต้นชายส่วนสาวประเภทสองต้องแสดงเป็นนักเต้นหญิง การแสดงต้องเรียนรู้และฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง นักแสดงที่เพิ่งเข้าร่วมบริษัทต้องได้รับการฝึกฝนแบบรวมกันฝึกฝนทักษะการเต้น ฯลฯ อย่างต่อเนื่อง และกระบวนการนี้กินเวลาหลายเดือน เมื่อคุณไปถึงระดับหนึ่งคุณจะมีโอกาสยืนบนเวทีและแสดงได้ นักแสดงจะได้รับการจัดอันดับที่แตกต่างกันสามแบบตามการจัดอันดับ ABC ขึ้นอยู่กับความสามารถและการแสดงของแต่ละคน นักแสดงต้องใช้ความพยายามและหยาดเหงื่อแรงกล้า ค่อยๆ เลื่อนระดับจากระดับ C B เป็นระดับ A ซึ่งใช้เวลา 5-8 เดือน เมื่อเป็นนักแสดงเกรด B นักแสดงจะเป็นที่จดจำของผู้ชมได้ทันทีด้วยการแต่งหน้า การจัดอันดับนี้ประเมินโดยผู้บริหารและพิจารณาจากความสามารถและลักษณะส่วนบุคคลของนักแสดง เช่น การเป็นนักแสดงเกรด B หมายถึงการมีออร่าของดาวและคุณจะได้รับโอกาสมากขึ้นในการแสดงเสน่ห์ของคุณและความสนใจของผู้ชมจะตามมา ดังนั้นนักแสดงจึงต้องพัฒนาฝีมือการแสดงและท้าทายตัวเองอยู่เสมอเพื่อให้แสดงบนเวทีอย่างมีเสน่ห์และแสดงความสามารถออกมาได้ดียิ่งขึ้น

 

ManGu: แล้วจะทราบว่าได้ว่าได้เลื่อนตำแหน่งเมื่อใด? นักแสดงสามารถขอยื่นการเลื่อนตำแหน่งเองได้ไหม?

คุณจ๋า: ไม่ได้ค่ะ เป็นเกณฑ์การประเมินภายในของบริษัทเราคาดหวังให้นักแสดงซ้อมหนักเรียนหนักและในขณะเดียวกันก็ค้นพบลักษณะเฉพาะของตนเอง ความคิดเห็นเกี่ยวกับการสอนและการประเมินผลของอาจารย์ที่มีประสบการณ์เป็นข้อมูลอ้างอิงที่สำคัญของเรา การเลื่อนตำแหน่งและโอกาสแสดงเดี่ยวจะทำได้ผ่านการประเมิน หากนักแสดงสามารถเล่นบทนำในเพลงได้สำเร็จ หมายความว่าพวกเขาบรรลุถึงระดับของนักแสดงเกรด A แล้ว ตัวสำรองจะถูกจัดประเภทเป็นนักแสดงเกรด B ซึ่งมีข่าวลือบางอย่างที่อ้างว่านักแสดงต้องเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศเพื่อที่จะได้เลื่อนตำแหน่งซึ่งไม่มีมูลความจริงเลยสิ่งที่เราโฟกัสคือความสามารถโดยรวมของนักแสดง ไม่ใช่ว่าพวกเขาผ่านการแปลงเพศมาหรือไม่ ความเป็นจริงในฐานะดาราของทิฟฟานี่ สถาบันการแพทย์หลายแห่งยินดีให้บริการผ่าตัดแปลงเพศฟรีแก่พวกเขาแต่เราจะไม่ให้คำแนะนำหรือการบังคับทุกอย่างขึ้นอยู่กับการเลือกของนักแสดงเอง ท้ายที่สุดแล้วเส้นทางของศิลปะนั้นอิสระและหลากหลายเราหวังว่านักแสดงทุกคนจะสามารถแสดงสิ่งที่ดีที่สุดของตัวเองในสายอาชีพของตัวเองได้

ManGu: นักแสดงมีวัยเกษียณไหม เช่น คุณต้องเกษียณและออกจากเวทีตอนอายุเท่าไร

คุณจ๋า: ไม่ค่ะ บนเวทีนักแสดงของเราสามารถแสดงความสามารถได้ไม่จำกัด เวลาไม่สามารถพรากเสน่ห์ทางการแสดงไปได้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเล่นเป็นนางเอกได้อีกต่อไป แต่พวกเขาก็สามารถเป็นนักแสดงตลกและครองตำแหน่งนักแสดงตลกได้ หรือเปลี่ยนเป็นตัวประกอบหลักอื่นๆ เพื่อแสดงความสามารถรอบด้าน เมื่อพวกเขาแสดงบนเวทีเราจะสนับสนุนพวกเขา นักแสดงบางคนไม่เคยจากเราไปยกเว้ณป่วยหรือเสียชีวิต นี่คือความรักและความทุ่มเทให้กับอาชีพนักแสดงอย่างไม่มีขอบเขต แต่ส่วนใหญ่ที่เป็นนักเต้นหรือนักแสดงอายุน้อยที่ไม่มั่นใจซึ่งมีแรงบันดาลใจอยากไปต่างประเทศ ท้ายที่สุดแล้วนี่คือจุดเริ่มต้นของพวกเขาเวทีที่กว้างขึ้นกำลังรอพวกเขาอยู่ในอนาคต เราตั้งตารอการแสดงที่ยอดเยี่ยม ในขณะเดียวกันเราก็ขออวยพรให้พวกเขามีอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้น

 

ManGu: ระหว่างการประกอบธุรกิจมีพบเจอปัญหาหรืออุปสรรคใดบ้างที่ทำให้คุณตราตรึงใจมาจนถึงปัจจุบัน

คุณจ๋า: การทำธุรกิจเราเจอปัญหาหลายอย่างแต่ที่น่าจดจำที่สุดคือการพานักแสดงไปต่างประเทศ ไม่ว่าเราจะไปทำงานหรือเที่ยวเรามักจะมีปัญหาเสมอ เช่น ดาราสาวข้ามเพศ ปอย ตรีชฎา เคยโดดเด่นจากเวทีประกวดนางงาม Tiffany และกลายมาเป็นดาราแต่เมื่อเธอไปแสดงที่ฮ่องกง เธอถูกตม.สอบถามอย่างน่าอายว่าเพศของเธอไม่ตรงกับที่ระบุในเอกสาร ดังนั้นปัญหาต่างๆอย่างการขอวีซ่าสำหรับนักแสดงจึงเต็มไปด้วยความยุ่งยาก แต่วิกฤตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราพบคือการแพร่ระบาดของโรคระบาดโควิด-19 สามปีที่ผ่านมาเราแทบฝืนต่อไปไม่ได้แต่เราต้องดูแลคนของเราไม่ให้ตกงาน ดังนั้นเราจึงให้ 50% ของเงินเดือนแก่พวกเขาเป็นเวลาสามปีนอกจากนี้เรายังจะจัดพนักงานให้ทำงานในตำแหน่งต่างๆ ในกลุ่มบริษัทตามความสนใจและงานอดิเรกเช่น ให้พวกเขาเรียนรู้วิธีการทำและซ่อมแซมเสื้อผ้า ผู้ที่ชอบทำอาหารสามารถทำงานในครัวของร้านอาหารของกลุ่มเราและเรายังสามารถให้พวกเขาเรียนรู้การขายของออนไลน์ การถ่ายทอดสดและทักษะอื่นๆ ตราบใดที่ยังเป็นงานที่สามารถสร้างรายได้ให้กับพวกเขาเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจัดการกับปัญหานี้ให้ได้ โดยปกติแล้วเรายังช่วยพวกเขาในงานโฆษณา เดินแบบ และในการออกรายการต่างๆเพื่อให้พวกเขามีรายได้พิเศษ ในกระบวนการทางธุรกิจนี้เราพบกับความยากลำบากและอุปสรรคมากมายแต่เราไม่เคยยอมแพ้ เราพยายามอย่างเต็มที่ในการดูแลพนักงานของเราอย่างดีเพื่อไม่ให้พวกเขาสูญเสียรายได้เมื่อประสบปัญหาและเปิดโอกาสให้พวกเขาได้ค้นพบศักยภาพของตนเองมากขึ้น เราเชื่อมั่นว่าตราบใดที่เรามีความกล้าหาญและสติปัญญาเพียงพอเราจะสามารถเอาชนะความยากลำบากทั้งหมดและก้าวไปสู่อีกด้านหนึ่งของความสำเร็จได้

 

ManGu: ตารางงานปกติของนักแสดงเป็นออย่างไร? ซ้อมการแสดงตอนไหน?

คุณจ๋า: 15:00 เป็นเวลาทำงานของนักแสดงพวกเขาต้องมาถึงสถานที่ซ้อมทีละคนและเริ่มเตรียมพร้อมสำหรับการแสดง 16:00 เริ่มซ้อมใหญ่ 17:00 ได้เวลาอาหารเย็น เติมพลัง พร้อมลุยงานเย็น เวลา 18.00 การแสดงรอบแรกเริ่มอย่างเป็นทางการและดำเนินไปจนถึงหลัง 22.00 แน่นอนว่าบางครั้งอาจารย์จะมีคอร์สอบรมพิเศษซึ่งอาจเริ่มตอน 13:00 หรือ 14:00 นักแสดงที่ต้องเข้าร่วมการอบรมจะต้องมาถึงก่อนเวลา ถ้าไปอบรมข้างนอกต้องออกค่าใช้จ่ายเองแต่หากอบรมภายในเราจะสอนทักษะต่าง ๆ ให้กับนักแสดงฟรี เช่น การเต้นแบบบอลลีวูดในอินเดีย ในธุรกิจนี้เวลาคือ เงิน นักแสดงต้องเข้าร่วมงานต่าง ๆ ให้ตรงเวลาและเตรียมตัวอย่างรอบคอบเพื่อให้การแสดงสมบูรณ์แบบ ทุกท่วงท่าต้องฝึกฝนซ้ำ ๆ จนเกิดความชำนาญดังนั้นตารางงานของนักแสดงจึงแน่นมาก ต้องตั้งใจ อดทน และพยายามเต็มที่กับทุกการแสดง

ManGu: ปัจจุบันมีไปทำงานที่ Tiffany Show ทุกวันหรือเปล่า?

คุณจ๋า: ไม่ได้ไปโรงละครทุกวันแล้วค่ะ แต่เมื่อก่อนเคยไปทุกวันอยากหาความรู้ใกล้ชิดกับพนักงาน ใส่ใจกับเงื่อนไขทางธุรกิจและอื่น ๆ แม้ว่าจะไม่จำเป็นต้องมาด้วยตนเองทุกวัน แต่เรามักจะจัดการประชุมเพื่อหารือเรื่องสำคัญ เราเปลี่ยนเนื้อหาการแสดงปีละ 2 ครั้งดังนั้นจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนทุก ๆ 3 เดือนและการปรับเปลี่ยนแต่ละครั้งต้องใช้ความคิดอย่างมาก ตั้งแต่แนวคิดของการแสดง ดนตรี การเต้นรำ แสง อุปกรณ์แต่งหน้า การออกแบบเวที ฯลฯ ซึ่งล้วนมีส่วนร่วมซึ่งกันและกัน สิ่งที่ต้องใช้เวลามากที่สุดคือการหาแรงบันดาลใจซึ่งต้องอาศัยการค้นคว้าอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่คนอื่นเคยทำไปแล้วและสิ่งที่สามารถสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ได้นั้นจำเป็นต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิด

 

ManGu: ปกติลักษณะสไตล์การทำงานของคุณเป็นอย่างไร?

คุณจ๋า: ทำงานเหมือนพี่น้องที่สนิทกันกับทุกคนในทีมทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เราและทีมได้รู้จักกันเป็นอย่างดีในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทุกคนมีความคิดเป็นของตัวเอง เราจึงใส่ใจรับฟังคำแนะนำของพนักงานในการทำงานเสมอ นอกจากเรื่องงานแล้วเราทุกคนยังคอยดูแลกัน ห่วงใยกัน แบ่งปันกัน เป็นเพราะความผูกพันธ์ที่ลึกซึ้งและความเข้าใจโดยปริยายระหว่างเราจึงสามารถอยู่ร่วมกันอย่างปรองดองเหมือนญาติพี่น้อง และทำให้ทั้งทีมเป็นหนึ่งเดียวกันและปรองดองกันมากขึ้น

 

ManGu: คุณวางแผนที่จะเปิดสาขาอีกหรือไม่?

คุณจ๋า: แม้ว่าจะมีการแสดงสาวประเภทสองในกรุงเทพฯ บ้างแล้วแต่ที่นี่อยู่ใกล้พัทยามาก จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ที่จะมีการแสดงแบบนี้ หากคุณต้องการจัดการแสดงดังกล่าวคุณควรเลือกเมืองอื่น ในพัทยา โรงละครของเราได้รับการปรับปรุงใหม่ ไม่เพียงแต่นำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้เท่านั้น แต่ยังมีการปรับปรุงนักแสดงใหม่ ดนตรี และการแสดงอีกด้วย ซึ่งก่อนที่จะเกิดโรคระบาดเราได้ดำเนินการปรับปรุงใหม่ทั้งหมดแล้ว แต่น่าเสียดายเนื่องจากผลกระทบของโรคระบาด ทำให้มีเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้

ManGu: คุณมีงานอดิเรกอะไรมั้ย?

คุณจ๋า: ชอบเล่นกีฬาโดยเฉพาะโยคะ เวลาว่างเราจะไปเดินป่าเล่นตามภูเขาและแม่น้ำเพื่อสัมผัสความงามของธรรมชาติ แต่ตั้งแต่เป็นแม่เวลาของเราก็ไม่ใช่ของเราอีกต่อไปเราใช้เวลาร่วมกันกับลูกเป็นหลักและปลูกฝังความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูก ท้ายที่สุดแล้วลูกคือทรัพย์สินที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเรา การดูแลพวกเขาและอยู่กับพวกเขาคือความปรารถนาสูงสุด ณ ตอนนี้

 

ManGu: คุณมีเชื้อสายจีนหรือไม่?

คุณจ๋า: เราเกิดในครอบครัวคนจีน และมีเชื้อสายจีน 100% ทำให้เรารู้สึกได้ถึงอิทธิพลของวัฒนธรรมจีนอย่างลึกซึ้ง เมื่อโตขึ้นจึงเข้าใจความหมายทางจิตวิญญาณของ "ความขยันหมั่นเพียร" คุณแม่สอนให้เราเรียนรู้ความอ่อนน้อมถ่อมตนและการทำงานหนัก ในขณะที่คุณพ่อสนับสนุนให้เราท้าทายตัวเองอยู่เสมอและมุ่งสู่ความสำเร็จอันเป็นเลิศ ครอบครัวของเรารวมถึงครอบครัวของสามีเป็นครอบครัวที่สืบทอดวัฒนธรรมจีนดังนั้นทุกเทศกาลเราจะปฏิบัติตามประเพณีดั้งเดิม ในช่วงเทศกาลตรุษจีนเราจะสวมเสื้อผ้าสีแดงสด อวยพรปีใหม่ให้กันและให้อั่งเปาเพื่ออวยพรกับญาติ

 

ManGu: สุดท้ายนี้มีอะไรอยากบอกผู้อ่านของเราไหม?

คุณจ๋า: เรารู้สึกขอบคุณจากใจจริง ขอบคุณชาวจีนที่คอยสนับสนุนทิฟฟานี่โชว์มาโดยตลอด เป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษที่เราได้พัฒนาตนเองอยู่เสมอและวันนี้เราเป็นผู้นำด้านการแสดงโชว์คาบาเรต์ของสาวประเภทสองแห่งแรกที่ดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก สิ่งที่น่าทึ่งยิ่งกว่าคือเราไม่เพียงแต่รวมเอาวัฒนธรรมที่โดดเด่นของประเทศต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เรายังทำให้ผู้ชมได้เพลิดเพลินด้วยภาพโดยการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ และการเปิดตัวการแสดงใหม่ วันนี้ที่เรานำเสนอการแสดงโชว์คาบาเรต์ เป็นการแสดงให้เห็นถึงทักษะและเสน่ห์อันยอดเยี่ยมของเรา ซึ่งเราคาดหวังการมาเยือนของคุณอย่างมาก จึงอยากขอให้ท่านมาร่วมเป็นสักขีพยานในการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจนี้ ใช้ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมและน่าจดจำนี้พร้อมกับเราไปด้วยกัน

 

Thank you.

คุณอลิสา พันธุศักดิ์ คุนผลิน (จ๋า)

 

Photographer : Luttsit Thongbansai @bellr_blackroom 
Graphic Designer : Natchaphol Jin Srijun @Banshy.j
Coordinator : Natruja Ming @fahnrj
Column Writer : Sheldon Chan @sheldonchan1116

You can share this post!

MANGU E-Magazine Cover Story Issue 255 (1st May 2023) พบกับบทสัมภาษณ์ "คุณวิเชียร พงศธร" ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทพรีเมียร์

MANGU E-Magazine Cover Story Issue 253 (1st April 2023) พบกับเจ้าของสไตล์แฟชั่นเรียบโก้ "หมู พลพัฒน์ อัศวะประภา" ASAVA Group