คุณปิยาภรณ์ แสนโกศิก (คุณปุ้ย) หรือแฟนๆนางงามต่างเรียกขานว่า “แม่ปุ้ย TPN”
ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด (TPN Global)
ผู้ถือลิขสิทธิ์เวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์
ManGu: การเป็นเจ้าแม่ของเวทีนางงาม และเคยทำงานหลากหลายหน้าที่ อยากให้แนะนำประสบการณ์การทำงานหน่อยค่ะ
คุณปุ้ย: ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าแม่ แต่ทุกคนในวงการอาจจะให้เกียรติ เพราะสิ่งที่เราทำ เราตั้งใจทำมาก เวลาทำอะไรจะต้องตั้งใจ เพราะฉะนั้นความสำเร็จหรือผลงานแห่งความตั้งใจ จึงทำให้เรามีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จได้ ด้วยความที่คุณแม่เป็นครอบครัวคนจีน จึงมักจะสอนว่า “เราต้องขยัน ต้องอดทน และต้องซื่อสัตย์” จึงจะประสบความสำเร็จ นี่เป็นหลักการที่เรายึด เลยทำให้หลาย ๆ คนบอกว่าเราเป็น “เจ้าแม่ในวงการนางงาม” ค่ะ
ManGu: คุณปุ้ยช่วยเล่าประสบการณ์การทำงาน ก่อนที่ยังไม่ได้เข้าไปในวงการคร่าว ๆ ให้ฟังหน่อยค่ะ
คุณปุ้ย: เมื่อก่อนทำงานเยอะมาก เคยทำงาน PR ทำงานเป็นพิธีกร และออกรายการ TV ทำรายการโทรทัศน์เยอะ ทำอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว ทำธุรกิจ ทำบ้าน ทำคอนโด ทั้งที่กรุงเทพฯ และที่เชียงใหม่ และหลังจากนั้นได้มาทำในด้านการประกวดนางงามค่ะ
ManGu: จุดเริ่มต้นของ TPN Global เป็นอย่างไรบ้าง
คุณปุ้ย: TPN Global เริ่มมาตั้งแต่ปี 2018 เราได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพในการจัดประกวด Miss Universe ครั้งใหญ่ คนทั่วโลกบินมาแข่งขันและลงประกวด Miss Universe โดยปีนั้นเมืองไทยเป็นเจ้าภาพ บริษัทเราเป็นคนจัด และเราก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดี ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นเราก็ไม่ค่อยมีประสบการณ์ แต่ว่าเราก็เรียนรู้ สมัยนี้เรียนรู้ง่าย เพราะว่ามี Youtube ให้เปิดดู มีทั้งประวัติ หรือว่าภาพยนตร์สารคดีต่าง ๆ แค่เราค้นหาว่า สิ่งนี้มันเรียกว่าอะไร จะต้องทำอย่างไร สิ่งนี้เป็นยังไง พอเราดู เราก็มีประสบการณ์ สมัยนี้การทำงานง่ายกว่าสมัยก่อน เพราะสมัยก่อนยังไม่มีสื่อออนไลน์ เลยทำให้การทำงานมันยากกว่า แต่สมัยนี้ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย มีประสบการณ์เรื่องราวความรู้ต่าง ๆ เราสามารถเรียนรู้ได้จากโซเชียล เพราะฉะนั้นทุกอย่างจึงง่ายขึ้น ขออย่างเดียวให้เราเป็นคนที่ชอบเรียนรู้และชอบค้นหา การค้นหาทุกอย่างคือความรู้
ManGu: เนื่องจาก TPN ประกอบธุรกิจหลายอย่าง อยากให้คุณปุ้ยลองแนะนำค่ะ
คุณปุ้ย: TPN หลัก ๆ เป็นบริษัท Beauty Entertainment เป็นบริษัทที่ทำอีเวนต์เรื่องราวเกี่ยวกับความสวยงาม เรื่องของการประกวดในเวทีต่าง ๆ เวทีหลักมี 3 เวที คือ Miss Universe Thailand นางสาวไทย และ UIU Universe is U และยังมีเวทีอื่น ๆ เกิดขึ้นอีก รับจัดงานและอีเวนต์ มีอะไรมาปรึกษาเรา เราสามารถที่จะทำให้ได้ เพราะ TPN Global จะมี Creative เยอะ มีทีม Producer แยกต่างหากหลายทีม และมีการทำ PR ให้
ManGu: การประกวดนางสาวไทยที่เพิ่งผ่านมา มีผลตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง
คุณปุ้ย: ดีมาก ๆ ค่ะ TPN เข้ามาทำนางสาวไทยได้ 2 ปี คือปี 2565 และปี 2566 ติดเทรนด์ Twitter ทั้งหมดและประชาชนก็ต่างให้ความชื่นชมว่าโชว์เราดูสนุก และได้ให้อะไรดี ๆ ต่อสังคม
ManGu: ครั้งนี้จะแตกต่างจากครั้งที่ผ่านมา เพราะมีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเข้ามาสนับสนุนด้วยใช่ไหมคะ?
คุณปุ้ย: ใช่ค่ะ เวทีนางสาวไทย ทุกเวทีของเราการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี เพราะเราเน้นในเรื่องของการนำเสนอเรื่องราวของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการท่องเที่ยว เรื่องของศิลปวัฒนธรรม เผยแพร่ออกไปให้ต่างชาติได้รับรู้
ManGu: เนื่องจากเราเป็นสื่อจีน คนจีนก็รู้จัก Miss Universe และได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก การประกวดนางงามจะมีผลดีต่อการท่องเที่ยวอย่างไรบ้าง
คุณปุ้ย: ส่งผลดีมากเลยค่ะ จริง ๆ เวลาจัดการประกวดนางงาม นางงามของเราเป็นเหมือนตัวแทนของประเทศนั้น ๆ อย่างเราไปประกวด Miss Universe ใหญ่ในแต่ละปีก็จะเจอ Miss Universe China สวยมาก ผิวดีมาก สวยน่ารัก ด้วยความที่เป็นคนเอเชียเหมือนกัน เลยทำให้สนิทเหมือนเป็นเพื่อนกัน เพราะฉะนั้นเราจึงเห็นว่านางงามของทุกประเทศจะนำเสนอเรื่องราวของประเทศตัวเอง อย่างประเทศไทยไปประกวด คนจะเข้ามาถามเรื่องผ้าไทยเพราะผ้าไทยสวย ถามเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวไทย ถามเรื่องอาหารการกินของไทย และคนไทยกับคนจีนก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เป็นเหมือนพี่น้องกัน เพราะฉะนั้นจะมีการแลกเปลี่ยนกันเยอะ คนจีนก็ชอบมาเที่ยวเมืองไทย คนไทยก็ชอบมาเที่ยวเมืองจีน ต่างประเทศก็มีอะไรดี ๆ แลกเปลี่ยนกันได้เยอะมาก
ManGu: คุณเคยไปเมืองจีนไหมคะ
คุณปุ้ย: เราเคยไปเซี่ยงไฮ้นานแล้ว แต่จริง ๆ เรายังคุยในครอบครัวว่าเราอยากกลับไปเที่ยว เพราะที่เมืองจีนมีที่เที่ยวสวย ๆ เยอะมาก อากาศก็เย็นสบายค่ะ
ManGu: แต่ละคนจะให้คำนิยามคำว่า “สวย” ไม่เหมือนกัน แล้วในสายตาของคุณคำว่า “สวย” เป็นอย่างไร
คุณปุ้ย: ในสายตาของเรา อย่างที่พูดมาก็ถูกต้อง คนเราแต่ละคนมีความสวยที่ไม่เหมือนกัน เช่น เขาอาจจะเห็นว่าคนนี้สวย เราอาจจะบอกอีกคนหนึ่งสวย แต่จริง ๆ แล้วความสวยในความหมายของเราคือผู้หญิงที่มีความมั่นใจ มันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะความมั่นใจจะทำให้คนเรามีความชัดเจนในตัวเอง มีบุคลิกของตัวเองที่โดดเด่นออกมา บางคนหน้าอาจจะไม่ได้สวยมาก แต่พอเราเจอเขา เขาฉลาด ฉลาดดีกว่าสวย เพราะบางคนสวยอาจจะไม่ฉลาด พอพูดออกมากับตรงข้ามกับหน้าตาเลย
ManGu: เนื่องจากคุณมีหลายบริษัท และมีทีมงานหลาย ๆ กลุ่ม อยากทราบว่าการทำงานหรือการบริหารงานของคุณเป็นอย่างไร
คุณปุ้ย: เราต้องชัดเจน ต้องมีเป้าหมายชัดเจน ในทุกโชว์หรือทุกธุรกิจของเรา เราจะประชุมกัน ถามกันว่าทิศทางควรจะเป็นอย่างไร สมัยนี้การทำงานจะต้องรับฟังทีมงานด้วย โลกเราขับเคลื่อนเร็วมาก หากเป็นเมื่อก่อนฟัง CEO คนเดียวจบ แต่สมัยนี้ไม่ได้ CEO คือผู้นำแต่จะต้องรับฟังทีมงานว่าควรทำอย่างไร เนื่องจากตอนนี้โลกขับเคลื่อนเร็ว บางครั้งทีมงานเขารู้อะไรมามากกว่าเรา เขาก็จะนำเสนอความคิด ช่วยกันแบ่งปันความคิด เรารับฟังและลงความเห็นกัน สุดท้ายเราก็ฟังสัญชาตญาณของเราว่าแบบนี้คือถูกต้อง และปล่อยให้ทีมงานใช้ความคิดอย่างเต็มที่ ได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ เพราะหากเขามีความภูมิใจในสิ่งที่เขาคิด งานจะออกมาดี หากมีปัญหา เรารับฟังและเร่งแก้ไขปัญหา คิดว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในสมัยนี้ เพราะเด็กสมัยนี้มีความสามารถที่เก่งมาก
ManGu: ปีหน้า TPN Global มีเป้าหมายอย่างไรบ้าง?
คุณปุ้ย: ปีหน้า TPN Global มีเป้าหมายว่าจะมีการปรับรูปแบบการประกวดนางงามซึ่งเราปรับในทุก ๆ ปีอยู่แล้ว คงขยายธุรกิจไปในเรื่องของการตลาดออนไลน์ เพราะเรามี influencer อยู่ในมือเยอะมาก เราจึงวางแผนในเรื่องการตลาดออนไลน์ให้มากขึ้น
ManGu: การประกวดในยุคปัจจุบันสามารถดูผ่านออนไลน์ได้แล้ว มีอะไรแตกต่างจากอดีตที่ต้องซื้อตั๋วเข้าชมไหมคะ
คุณปุ้ย: TPN Global ทำไปแล้ว ในปี 2020 ช่วงโควิด-19 ระบาด ไม่มีใครในโลกจัดงานเลย มีแค่ TPN จัดงาน และจัดใหญ่มาก มันเป็นความท้าทาย เรามานั่งคิดว่า “เราเป็นมนุษย์นะ เราจะแพ้มันเหรอ” เราไม่ยอมแพ้ จะต้องมีกระบวนการที่ทำให้เราจัดงานได้ ในปี 2021 เนื่องจากกรุงเทพฯ ล็อกดาวน์จึงจัดงานที่สวนนงนุช พัทยา เพราะใช้กฎหมายไม่เหมือนกัน ตอนนั้นมีคนเข้าไปชมหลายพันคน เราลงทุนในการจ้างโรงพยาบาลเพื่อตรวจโควิดสำหรับผู้เข้าชม ลงทุนซื้อ ATK หลายพันชิ้นเพื่อตรวจทีมงานทุกคนในทุก ๆ วันอย่างละเอียด เมื่อเรามั่นใจว่าเราปลอดภัย ต่อมาคือผู้ชม ผู้ชมไม่ต่ำกว่า 2,000 คน เราจึงต้องทำให้เห็นว่า “เราทำได้” จึงตั้งเต็นท์ตรวจโควิด วันนั้นมีหลายร้อยคนที่มาแล้วไม่สามารถเข้าได้เนื่องจากติดโควิด และมีรถโรงพยาบาลรอรับไปรักษาเลย เพราะฉะนั้นคนที่สามารถเข้าไปดูคือคนที่ไม่ติดโควิด-19 จึงเป็นทฤษฎีว่า “ถ้าคนไม่เป็นจะอยู่กันเป็น 100 คนก็ไม่เป็นเพราะมันไม่มีใครเป็น แต่หากมี 1 คนหลุดเข้าไป ทั้ง 100 คนเป็นหมดแน่นอน” ซึ่งเราทำได้สำเร็จ จัดงานได้ยิ่งใหญ่ ทางออนไลน์ก็มีคนเข้าชมเยอะมาก เราเปิดให้สามารถเข้าชมผ่านออนไลน์ ตั้งแต่ปี 2021 ทำเป็นแต่ละตอน ได้เห็นเบื้องหลัง ตอนที่เราดูบนเวทีทุกคนสวยหมด แต่ก่อนที่เขาจะสวย จะเก่ง ทุกคนมีเรื่องราวของตัวเอง บางคนก่อนที่จะถึงจุดนั้นเขาเสียน้ำตาเยอะมาก ทั้งเหนื่อยทั้งเจ็บ แต่เขาก็ฝ่าฟันจนประสบความสำเร็จ
ManGu: จากการประสบความสำเร็จ สถานการณ์อะไรที่ทำให้คุณประทับใจ?
คุณปุ้ย: เวลาจบโชว์และมีแต่คำชื่นชมมากมาย ต่างชาติชื่นชมเรา ที่ภูมิใจที่สุดคือทำให้ต่างชาติบอกว่า “ประเทศไทยดีมาก” สิ่งนี้คือเราทำชื่อเสียงให้ประเทศชาติของเรา รู้สึกภาคภูมิใจและมีความสุข ในฤดูกาลของการประกวด Miss Universe เราได้คนที่เป็น Miss Universe Thailand แล้ว เราต้องเตรียมตัวที่จะประกวด Miss Universe ต่อไป
ManGu: คุณรู้สึกว่าคนไทยที่สามารถขึ้นไปในเวทีระดับโลก ต้องเป็นสไตล์ไทยเลยหรือไม่
คุณปุ้ย: แน่นอน เขาจะต้องมีความเป็นไทยอะไรบางอย่างอยู่ในตัว ซึ่งบางทีอาจจะเป็นลูกครึ่งแต่อาจเป็นลูกครึ่งที่มีความเป็นไทย มีหัวใจเป็นไทย มีสายเลือดเป็นคนไทย เขาจะต้องมีความชัดเจนในตรงนี้ เพื่อที่เขาจะสามารถบอกต่างชาติ บอกคนทั้งโลกได้ว่า “เขาคือ Miss Universe Thailand”
ManGu: วิสัยทัศน์ในการทำงานของคุณเป็นอย่างไร
คุณปุ้ย: วิสัยทัศน์ของเราคือความอดทน ความอดทนจะพามาซึ่งความสำเร็จหลายอย่าง เช่น หากเรามีอุปสรรค ถ้าเราท้อ เราก็คงเลิกรา แต่หากเรามีความอดทน ก็บอกกับตัวเองว่า พรุ่งนี้จะต้องดีขึ้น และมันก็เป็นแบบนั้น แค่เราอดทนและซื่อสัตย์ อย่างที่บอกต้องมี 3 อย่างประกอบกัน ถ้าเราขี้เกียจ ไม่ต้องทำอะไรเลย นอนทั้งวันทั้งคืน พังหมด แต่หากเราขยัน แล้วไม่อดทน ขยันไปก็อาจจะล้มเหลว 100 ครั้ง แต่ถ้าอดทนครั้งที่ 101 เราอาจจะสำเร็จ เพราะฉะนั้นขยัน อดทน ซื่อสัตย์กับตัวเอง ซื่อสัตย์กับทุกคนนั้นสำคัญมาก
ManGu: คุณแบ่งเวลาระหว่างการทำงาน ชีวิตประจำวัน และเวลาให้ครอบครัวอย่างไร
คุณปุ้ย: ครอบครัวเราเป็นครอบครัวที่มีความใกล้ชิดกันอยู่แล้ว ลูกก็มาช่วยในบางส่วน เนื่องจากทุกคนอยู่บ้านเดียวกัน จึงไม่ได้รู้สึกห่างเหิน ถึงเวลาไปเที่ยวก็ไปด้วยกัน คนเราให้ทำในสิ่งที่ชอบแล้วจะไม่รู้สึกว่านี่คือการทำงานเสาร์-อาทิตย์เราก็มาออฟฟิศ พออยู่บ้านแล้วรู้สึกเหงา พอวันครอบครัวเราก็ไปทานข้าวกัน ไปเที่ยวต่างจังหวัด ไปเที่ยวต่างประเทศ แต่หลัก ๆ คือที่บ้านก็ชอบมาอยู่ที่ออฟฟิศ สำคัญที่สุดเลยคือจะทำอะไร
จงเลือกทำในสิ่งที่เราชอบ แล้วจะทำให้เรารู้สึกว่าทุกวันเป็นวันสบาย ๆ
ManGu: คุณให้ความสำคัญกับกลุ่ม LGBTQ เป็นอย่างมาก ช่วยแบ่งปันเรื่องราวนี้สักหน่อย
คุณปุ้ย: เรามีเพื่อนเป็น LGBTQ เยอะมาก เราว่าโลกสมัยนี้มันเปิดกว้างแล้ว เราก็ภูมิใจที่มีการพูดคุยกับเพื่อนวัยเดียวกันหลาย ๆ คนที่ลูกเขาเป็น LGBTQ ต้องอยู่กันแบบไม่ค่อยมีความสุข เพราะลูกไม่ค่อยเปิดใจกับพ่อแม่ พ่อแม่ก็ไม่กล้าคุยกับลูก แต่พอต่างคนต่างรับรู้ก็เป็นชีวิตที่มีความสุขขึ้นมา เพราะครอบครัวก็มีความสุข พ่อแม่ก็เข้าใจลูก ลูกก็มีความสุขที่อยู่บ้าน จริง ๆ LGBTQ เขาเก่ง เขาจะมีความละเอียดอ่อน มีความเป็นศิลปะอยู่ในสายเลือด เขาเก่งกันมาก จึงสนับสนุน และอยากให้เมืองไทยทำกฎหมาย แก้กฎหมาย หรือเพิ่มกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของ LGBTQ ให้มีความเท่าเทียม
ManGu: สุดท้ายคุณอยากฝากอะไรถึงผู้อ่านชาวจีน?
คุณปุ้ย: จริง ๆ แล้วอยากบอกว่าคนไทยกับคนจีนเปรียบเสมือนพี่น้องกัน อยากเชิญชาวจีน ใครที่เคยมาประเทศไทยแล้วอยากให้กลับมาอีกและใครยังไม่เคยมาก็อยากให้ลองมาดู เพราะอาหารจีนก็เป็นอาหารที่อร่อยมาก อาหารไทยก็เป็นอาหารที่อร่อยมากเช่นเดียวกัน ที่สำคัญคืออยากให้พี่น้องชาวจีนมาลิ้มลองอาหารจีนในเมืองไทย เป็นอาหารจีน แต่บางทีรสชาติอาจจะต่างกันก็ได้ อยากให้กลับมาเที่ยวเมืองไทยกันเยอะ ๆ มาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ดีงามซึ่งกันและกัน
Thank you.
คุณปิยาภรณ์ แสนโกศิก (คุณปุ้ย) / Piyaporn Sankosik (Pui)
Photographer : Luttsit Thongbansai @bellr_blackroom
Graphic Designer : Natchaphol Jin Srijun @Banshy.j
Coordinator : Yanida Nualnoon @yn.noon
Column Writer : Yue Han