Interview

การไล่ตามเป้าหมาย และการรักษาความยืดหยุ่น

บทสัมภาษณ์พิเศษของนายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานกรรมการบริษัท และผู้ก่อตั้งบริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน)

       ปัจจุบันผู้บริโภคในตลาดจีน มีความพิถีพิถันและใส่ใจในการเลือกสรรผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากแบรนด์ของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้แล้วนั้น  แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของไทยก็เป็นที่นิยมเข้าสู่ตลาดจีนมากขึ้นเรื่อย ๆ ผ่านตัวแทนการซื้อขายที่มีชื่อเสียงบนโลกอินเทอร์เน็ตหรืออีคอมเมิร์ซ ด้วยเหตุนี้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแบรนด์ไทยจึงมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในตลาดจีนด้วยเช่นกัน ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของไทยมีชื่อเสียงในระดับสากล เนื่องจากมีคุณภาพดีและราคาสามารถจับต้องได้ จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยว และทำให้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแบรนด์ของไทยมักปรากฏอยู่บนโต๊ะเครื่องสำอางของชาวจีนเป็นจำนวนมาก ทำให้สินค้าของ Beauty Buffet เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยอยู่บ่อยครั้ง  เพราะ Beauty Buffet เป็นแบรนด์ดังที่มีชื่อเสียง ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแบรนด์ไทย เพราะแบรนด์ Beauty Buffet มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีความอ่อนโยนและปลอดภัย มีสารสกัดจากธรรมชาติ จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ Beauty Buffet เป็นที่ต้องการอย่างแพร่หลายในแวดวงของเหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์ ทำให้แพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ที่พูดถึงผลิตภัณฑ์ของ Beauty Buffet เป็นแหล่งสำคัญในการเผยแพร่การรับรู้ให้แก่ Beauty Buffet และทำให้มีผู้บริโภคชาวจีนหันมาติดตามแบรนด์มากขึ้น

        บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ 1998  หรือที่รู้จักกันในนาม Beauty Buffet ภายใต้แนวคิด “For Every Beauty “เพราะความสวยคือคุณ” ซึ่งผลิตภัณฑ์ของ Beauty Buffet ในกลุ่มสินค้า Milk Plus Serie มีรูปแบบบรรจุภัณฑ์ “ฉลากรูปวัวนม” ที่ส่วนผสมสกัดมาจากธรรมชาติ เพื่อยืนหยัดและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวภายให้คงความอ่อนโยนและความปลอดภัย ตามแบบฉบับ Beauty Buffet

        บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน)  เปิดขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ และมีหน้าร้านมากมายที่กระจายสาขาตามพื้นที่ต่าง ๆ โดยรูปแบบของร้าน Beauty Buffet ส่วนใหญ่จะเป็นโทนสีชมพูและสีขาว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่จำง่ายจนทำให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้แบรนด์ดังอย่าง Beauty Buffet ยังสามารถตอบโจทย์ในด้านหลักจิตวิทยาในเรื่องของการดูแลผิวพรรณและการช้อปปิ้งของผู้หญิงได้อีกด้วย ด้วยสาเหตุนี้ทำให้ผู้หญิงจำนวนมากชื่นชอบ

       นอกจากนี้  ทางแบรนด์ยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ภายใต้แบรนด์ต่าง ๆ ด้วย เช่น Scentio (ผลิตภัณฑ์เพื่อการบำรุงผิวทั่วไปในชีวิตประจำวัน เน้นความเป็นธรรมชาติ),  Lansley (ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าและผิวกายมีคุณสมบัติเฉพาะ (Functional Skin Care) เสริมจุดเด่นลดจุดด้อย), Gino McCray (ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอุปกรณ์เสริมสำหรับการแต่งหน้า ความงามระดับมืออาชีพ), Beauty idol,  Beauty Cottage, Made in Nature, Miracle perfect และแบรนด์อื่น ๆ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์หลายประเภท ได้แก่ เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ ดูแลผิวหน้า ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม และอุปกรณ์แต่งหน้า เป็นต้น

       ในปัจจุบันแบรนด์ Beauty Buffet ได้ขยายไปยัง 15 ประเทศ เช่น จีนแผ่นดินใหญ่, ฮ่องกง, ตะวันออกกลาง, และอินเดีย เป็นต้น เห็นได้ชัดว่า Beauty Buffet เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวชั้นนำของไทย ที่ขึ้นชื่อเรื่องความงามอย่างครบวงจร และเป็นแบรนด์ดังระดับประเทศเลยก็ว่าได้

           และนิตยสารฉบับนี้ เราได้เชิญ “นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ”  ประธานกรรมการ บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) มาให้คำแนะนำและแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับวิธีการสร้างแบรนด์ให้เป็นบริษัทแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำในอุตสาหกรรมด้านผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า และการแต่งหน้าของไทยสู่ตลาดโลก

ManGu: ทราบว่าคุณหมอจบการศึกษาทางด้านแพทย์มา ทำไมถึงหันมาจับธุรกิจด้านเครื่องสำอางคะ?

นายแพทย์สุวิน：ผมเป็นคนที่ชอบแนวออกแบบ หรือ แนวสถาปนิกมาตั้งแต่เด็ก แต่ครอบครัวอยากที่จะให้ผมเรียนหมอ ในขณะที่ผมกำลังเป็นนักศึกษาแพทย์อยู่นั้น ผมก็ได้รับความรู้เกี่ยวกับการบริหารไปในตัว เมื่อนำจุดนี้มาบวกเข้ากับความชอบที่เกี่ยวกับด้านการออกแบบแล้ว ทำให้สามารถนำมาต่อยอดเรื่องการทำธุรกิจของผมได้ ผมเป็นหมออยู่แค่ 2-3 ปี ก็ออกมาทำธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายอะไหล่มอเตอร์ไซค์ส่งออกไปขายที่ประเทศเวียดนาม แต่ในเวลานั้นเกิดวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมเริ่มมองหาธุรกิจใหม่ที่สามารถเติบโตได้ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนั้น ซึ่งไอเดียและสิ่งที่จุดประกายความคิดของผมเกิดจากภรรยาของผมเอง เพราะไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ผู้หญิงก็ยังต้องสวยอยู่เสมอ และนี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ผมเริ่มศึกษาธุรกิจเครื่องสำอางครับ

ManGu: จุดเริ่มต้นของ Beauty Buffet มีความเป็นมาอย่างไร？

นายแพทย์สุวิน：เริ่มต้นประมาณปี ค.ศ 1998 ตอนนั้นผมมีเพียงร้านเครื่องสำอางเล็ก ๆ ที่ชื่อว่าร้าน “นีโอ” ผมจึงได้อาศัยความรู้ตรงนี้มาศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งในตอนแรกก็ยังไม่มีแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตัวเอง จนกระทั่งปี 2006 ก็ได้เกิดร้าน Beauty Buffet ขึ้น ในเวลานั้นเครื่องสำอางแบรนด์ของเกาหลีได้เข้ามาสู่ตลาดไทยและเป็นที่นิยมมากในกลุ่มวัยรุ่น ผมคิดว่าถ้าเราไม่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานเราคงสู้แบรนด์เครื่องสำอางของเกาหลีไม่ได้ ดังนั้นผมจึงสร้างแบรนด์ขึ้นมาด้วยสไตล์การออกแบบแบรนด์แนวใหม่ โดยเน้นวิธีการจัดการ และกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อดึงดูดผู้คนในตลาดให้หันมาใช้แบรนด์ไทยมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ Scentio, Lansley, Gino McCray, Beauty idol, Beauty Cottage, Made in Nature, Miracle perfect ที่ค่อย ๆ เกิดขึ้นเพิ่มเติมตามมาเรื่อย ๆ และนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ สำหรับคุณสุภาพสตรีในหลากหลายหมวดหมู่ ได้แก่ เครื่องสำอาง บำรุงผิวหน้า บำรุงร่างกาย ดูแลเส้นผม และอุปกรณ์แต่งหน้า ต่าง ๆ เป็นต้น และได้เข้าจดทะเบียนเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ด้วยรายได้รวมของบริษัท ณ ตอนนั้นอยู่ที่  778 ล้านบาท

ManGu: คิดว่าเอกลักษณ์อะไรของแบรนด์ Beauty Buffet ที่ทำให้ชาวต่างชาติจดจำได้คะ ？

นายแพทย์สุวิน : การออกแบบร้านของผมที่ทุกคนสามารถสังเกตเห็นว่าได้ว่าจะมีเชฟที่เป็นโลโก้ของร้าน ยืนอยู่หน้าร้านทุกสาขา ซึ่งคอนเซ็ปต์นี้ให้อารมณ์คล้าย ๆ กับการออกไปเลือกทานอาหารแบบบุฟเฟต์ เปรียบเหมือนกับว่ามาที่ร้าน Beauty Buffet ของเราก็เช่นกันครับ ภายในร้านก็มีเครื่องสำอางให้เลือกหลากหลาย เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกหาสินค้าหรือลองใช้สินค้าต่าง ๆ ได้เอง ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ แม้ว่าลูกค้าจะมีระดับความพึงพอใจที่แตกต่างกันออกไป แต่ลูกค้าก็สามารถเลือกหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับตัวเองได้ที่สุดภายในร้าน Beauty Buffet ของเรา

ManGu: ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคุณหมอมีผลงานและมีชื่อเสียงมากมาย ความสำเร็จนี้ในสายตาคุณหมอเป็นอย่างไรคะ？

นายแพทย์สุวิน : จริงๆ แล้วผมกำลังไล่ตามเป้าหมายครับ ผมคิดว่า ความสำเร็จควรเกิดจากความท้าทายและไล่ตามเป้าหมายของตัวเองอยู่เสมอ เราต้องมีความยืดหยุ่นจึงจะสามารถชนะความยากลำบากและเอาชนะความท้าทายของตัวเองได้ครับ

ManGu : คุณหมอมีการบริหารจัดการบริษัทและทีมของตัวเองอย่างไรบ้างคะ?

นายแพทย์สุวิน: บริษัทของผมมีแบรนด์ที่หลากหลาย อีกทั้งยังเป็นแบรนด์ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ด้วย ดังนั้นอาจจำเป็นต้องเผชิญกับความต้องการของผู้บริโภค และเงื่อนไขที่หลากหลาย โดยต้องมีการวิจัยทางการตลาดที่กว้างขวางมากขึ้น และทีมการตลาดจะต้องมีความแข็งแกร่งมากเพื่อสนับสนุนคนในทีมด้วยกันเอง เรามักจะหารือร่วมกันว่าในตลาดที่มีการแข่งขันสูง แบรนด์ต่าง ๆ จะต้องมีความคิดสร้างสรรค์และความแตกต่างให้มากขึ้น เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคได้ ถึงแม้ว่าจะยากหน่อย แต่ในฐานะผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทฯ ผมจำเป็นต้องใช้ประสบการณ์ของผมในการสื่อสารกับฝ่ายบริหารต่าง ๆ เพื่อรักษามาตรฐานและเป้าหมายของบริษัท โชคดีที่ผลิตภัณฑ์ของผมมุ่งเป้าไปที่ ผู้บริโภค End User เราสามารถได้รับคำตอบจากตลาดได้โดยตรงและรวดเร็ว อีกทั้งยังปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้เหมาะสม ผมมักจะไปสำรวจที่แต่ละสาขาด้วยตัวเอง เพื่อดูว่าลูกค้าแต่ละรายเลือกผลิตภัณฑ์อะไรเพื่อมาวิเคราะห์ความต้องการของตลาด

ManGu: คุณหมอคิดว่าเครื่องสำอางแบรนด์ไทยมีข้อดีอย่างไร?

นายแพทย์สุวิน: เครื่องสำอางไทยส่วนใหญ่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น สารสกัดจากดอกไม้และสมุนไพรบางชนิด เป็นต้น ส่วนผสมเหล่านี้มีประโยชน์ในการดูแลผิว อีกทั้งอากาศที่เมืองไทยก็ร้อนมาก การทำให้เครื่องสำอางมีความติดทนนานและไม่หลุดไปตามเหงื่อจึงเป็นสิ่งที่พวกเราพยายามแก้ไขมาโดยตลอด นอกจากนี้เครื่องสำอางไทยมักจะมีราคาที่เป็นมิตรกับผู้บริโภคและยังมีคุณภาพสมราคาอีกด้วย

ManGu: ในฐานะแพทย์ ช่วยบอกเคล็ดลับการดูแลผิวให้เราหน่อยได้ไหมคะ

นายแพทย์สุวิน: ถึงจะอายุยังน้อยอยู่ก็ต้องทากันแดดเสมอ ผมคิดว่าการดูแลผิวควรเริ่มดูแลตั้งแต่เนิ่น ๆ ถ้าทำได้ จะสามารถช่วยป้องกันปัญหาผิวได้ดียิ่งขึ้น เช่น สิว  ริ้วรอย เป็นต้น วิธีการง่าย ๆ คือการทำความสะอาดผิวอย่างสม่ำเสมอ การให้ความชุ่มชื้น การปกป้องผิวจากแสงแดด ปัญหาผิวที่เกิดจากสภาพแวดล้อมในแต่ละวัน รังสีอัลตราไวโอเลต และปัจจัยอื่น ๆ จะลดลงได้ จริง ๆ ผิวของคนเราเริ่มมีการเสื่อมสภาพได้ตั้งแต่ตอนอยู่ในช่วงวัยรุ่น แต่เพราะช่วงวัยที่การฟื้นฟูผิวยังแข็งแรง จึงอาจไม่สามารถสังเกตเห็นได้ชัด ดังนั้นการดูแลผิวเป็นประจำสามารถช่วยชะลออัตราการเสียของผิวและป้องกันการเกิดริ้วรอยและร่องลึกได้

ManGu: ในช่วงวิกฤติโควิด-19 องค์กรได้รับผลกระทบอย่างไรแล้วท่านผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้มาได้บ้างไร

นายแพทย์สุวิน: เรามีร้านค้าของเราหลายร้านเปิดในห้างสรรพสินค้า เลยหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องปิดร้านค้าบางสาขาลง ตอนนั้นผมจำได้ว่ายอดขายดีมากในช่วงปลายปี 2019 และเราเพิ่มการผลิตโดยไม่คาดคิดว่าต้นปี 2020 เราจะเจอโรคระบาดโควิด-19 และไม่สามารถส่งออกตามคำสั่งซื้อจาก 11 ประเทศได้ ไม่ใช่ว่าไม่มีลูกค้า แต่ไม่มีบริษัทโลจิสติกส์ที่สามารถรองรับการจัดส่งให้เราได้ นอกจากนี้เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว มีอายุการเก็บรักษาที่สั้นจึงเกิดความเสียหายหนักมากในช่วงนั้น และเนื่องจากผมเรียนแพทย์ก็รู้สึกว่าวิกฤตการณ์โรคระบาดเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยและคงไม่มีทางจบลงภายในเวลาอันสั้นนี้ ผมจึงสั่งให้เคลียร์สินค้าให้เร็วที่สุดและปรับระบบการเงินของบริษัทและกลยุทธ์ทางการตลาดทันที

ManGu: คุณคิดอย่างไรกับอีคอมเมิร์ซออนไลน์

นายแพทย์สุวิน: โมเมนตัมของอีคอมเมิร์ซมีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาครับ ซึ่งส่วนหนึ่งก็ได้รับแรงผลักดันจากสถานการณ์การปิดเมืองเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคเช่นกัน เราได้เข้าสู่โลกของช้อปปิ้งออนไลน์ ทั้งก่อนเกิดโรคระบาดและหลังเกิดโรคระบาด เราก็ได้เพิ่มความพยายามและมีส่วนร่วมในแพลตฟอร์มของอีคอมเมิร์ซในประเทศต่าง ๆ แต่สำหรับผมทั้งออนไลน์และออฟไลน์จะต้องมีการพัฒนาไปพร้อม ๆ กัน ถึงแม้ว่าต้นทุนทางการขายออนไลน์จะต่ำกว่า แต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ชอบไปช้อปยังร้านค้าเพื่อที่จะได้ทดลองสินค้าต่าง ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ซึ่งก็จะเป็นประสบการณ์ในการซื้อที่ดีในอีกรูปแบบหนึ่ง

ManGu : คุณหมอ balance เวลาทำงานกับครอบครัวอย่างไรคะ

นายแพทย์สุวิน: ผมชอบกีฬาและการออกกำลังกาย ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหนก็จะต้องจัดเวลาไปให้ได้ ในช่วงวันว่างจากการทำงานก็จะใช้เวลาอยู่กับครอบครัวด้วย ถือได้ว่าใช้ชีวิตแบบ work hard play hard เลยครับ

ManGu: สุดท้ายนี้ อยากให้คุณหมอฝากอะไรสักเล็กน้อยถึงลูกค้าชาวจีนและผู้อ่านนิตยสารฉบับนี้หน่อยค่ะ

นายแพทย์สุวิน: ผมรู้สึกขอบคุณลูกค้าชาวจีนของเราที่ให้การสนับสนุนและให้กำลังใจกับบริษัทของเรามาโดยตลอด ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงปลอดวีซ่าและเหมาะสำหรับการเดินทาง ผมก็หวังว่าลูกค้าทุกท่านจะได้มาเที่ยวประเทศไทยบ่อยขึ้น พวกเรายินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนทุกท่านที่มีความประสงค์จะเดินทางมาประเทศไทยเพื่อสัมผัสกับไลฟ์สไตล์และประเพณีไทยที่สวยงามครับ

_______________________________________________________________________________________________________

Thank you.

นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ

_______________________________________________________________________________________________________

Photographer : Natchakrit Wichiensarn @ktpx.kritt 
Graphic Designer : Natchaphol Jin Srijun @Banshy.j
Coordinator : Narumon Sripool @poo_ler
Column Writer : Ms.Huang Lanjun @Mocy