news-details

เอกอัครราชทูตไทยประจำจีนปรารถนาบริษัทยานยนต์พลังงานใหม่ของจีนเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น

เอกอัครราชทูตไทยประจำจีนปรารถนาบริษัทยานยนต์พลังงานใหม่ของจีนเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น

สำนักข่าวแห่งประเทศจีนรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 กันยายน นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล เอกอัครราชทูตไทยประจำจีน ให้สัมภาษณ์ระหว่างการเข้าร่วมงานประชุมพัฒนาความร่วมมือแวดวงอุตสาหกรรมและการค้าเสฉวน-ประเทศเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปี 2024 ที่เมืองเฉิงตู ว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยมีความกว้างขวาง และรัฐบาลไทยได้ออกนโยบายที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนการพัฒนาของรถยนต์ไฟฟ้า ยินดีต้อนรับบริษัทรถยนต์พลังงานใหม่ของจีนเข้ามาลงทุนในไทย

ปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแข็งขัน ข้อมูลระบุว่า จำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนในประเทศไทยในปี 2023 อยู่ที่ประมาณ 76,000 คัน คิดเป็น 12% ของจำนวนรถยนต์ที่จดทะเบียนทั้งหมด โดย 4 อันดับแรกเป็นแบรนด์จีน และใน 10 อันดับแรก มีแบรนด์จีน 8 แบรนด์ ในด้านยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย บริษัทรถยนต์พลังงานใหม่ของจีนได้ทำการลงทุนอย่างประสบความสำเร็จ โดยนายฉัตรชัยกล่าวหวังว่า จะมีการลงทุนจากประเทศจีนเพิ่มขึ้นในอนาคต

ประเทศไทยเป็นประเทศแขกผู้มีเกียรติในการประชุมการพัฒนาความร่วมมือทางอุตสาหกรรมและการค้าเสฉวน-ประเทศเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปี 2024 ในพิธีเปิด นายฉัตรชัยกล่าวสุนทรพจน์ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนถือเป็นหนึ่งในความสัมพันธ์ทวิภาคีที่มีแรงขับเคลื่อนมากที่สุดในเอเชีย ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของไทย และเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับสองของไทย โดยมีมูลค่าการส่งออกไปจีนสูงถึง 17.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 34.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปีนี้

นายฉัตรชัยสังเกตเห็นบทบาทสำคัญของเสฉวนในความสัมพันธ์ไทย-จีน เขากล่าวว่า ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับเสฉวนมากถึง 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว โดยกลุ่มบริษัทซีพี ทีซีพี กรุ๊ป และอื่นๆ ได้ไปลงทุนในเสฉวน เสฉวนเป็นศูนย์กลางทางคมนาคมและโลจิสติกส์ที่สำคัญ จึงคิดว่าประเทศไทยและเสฉวนมีศักยภาพความร่วมมืออย่างมากในด้านสินค้าเกษตร การค้าสินค้าบริโภคและการท่องเที่ยว

ปีหน้าจะเป็นปีครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตระหว่างจีนและไทย นายฉัตรชัยกล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายปรารถนาที่จะแสวงหาความเป็นไปได้ทางความร่วมมือใหม่ๆ และเตรียมความพร้อมสำหรับการฉลอง รัฐบาลทั้งสองจะจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมให้สองฝ่ายมีความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมมากขึ้น ส่วนประเทศไทยจะยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาความสัมพันธ์ฉันหุ้นส่วนกับจีน ประกันให้สองประเทศและภูมิภาคมีความเจริญรุ่งเรืองร่วมและการพัฒนาที่ยั่งยืนในอนาคต ที่มา CMG

You can share this post!

งานแสดงสินค้าจีน-อาเซียนครั้งที่ 21 จะจัดที่หนานหนิง 24-28 ก.ย.นี้

จีนเพิ่มมรดกโลกทางวิศวกรรมชลประทานอีก 4 แห่ง