news-details

MANGU E-Magazine ISSUE 223 (1st january 2022) คอลัมน์ Star พบกับ "นนน กรภัทร์ เกิดพันธุ์" และ "โอม ภวัต จิตต์สว่างดี" นักแสดงนำจากซีรีส์เรื่อง “แค่เพื่อนครับเพื่อน”

สัมภาษณ์ "นนน กรภัทร์ เกิดพันธุ์" และ "โอม ภวัต จิตต์สว่างดี"

 นักแสดงนำจากซีรีส์เรื่อง  “แค่เพื่อนครับเพื่อน” 

มิตรภาพที่ดีที่สุดคือการเติบโตไปด้วยกัน มิตรภาพของโอมและนนนชวนให้ทุกคนต่างตกหลุมรัก ความสัมพันธ์ของคนสองคนบางทีก็เริ่มต้นและผูกพันตั้งแต่พบกัน ไม่เพียงแต่ความสัมพันธ์ของครอบครัวที่สวยงาม แต่มิตรภาพของเพื่อนก็ยังสวยงามเช่นกัน ทำให้เราสัมผัสได้ถึงเคมีที่เข้ากันทั้งในชีวิตจริงและในซีรีส์ คำจำกัดความของมิตรภาพของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกัน แต่ว่าในซีรีส์เรื่อง “แค่เพื่อนครับเพื่อน”เขาเปรียบเสมือนคู่ที่ฟ้าได้ลิขิตไว้แล้ว

ซีรีส์เรื่อง “แค่เพื่อนครับเพื่อน” คือเรื่องราวของ “ภัทร” (รับบทโดย โอม-ภวัต) หนุ่มทะเล้น กากเกรียน และ “ปราณ” (รับบทโดย นนน-กรภัทร์) หนุ่มเนี้ยบ มาดคุณชาย ตั้งแต่เด็กทั้งสองก็ถูกลิขิตให้ต้องเป็นศัตรูกัน ไม่เพียงแค่การเปรียบเทียบในโรงเรียน แต่ชีวิตจริงทั้งสองก็เปรียบเทียบเช่นกัน จากความสัมพันธ์ของศัตรูก็ได้แปลเปลี่ยนเป็นความสัมพันธ์ของความรัก การแสดงของทั้งสองทำให้ผู้ชมประทับใจและชื่นชอบอย่างมาก ความสนิทกันของทั้งสองทำให้การถ่ายทำเป็นไปอย่างราบรื่น เพียงแค่มองตาก็เข้าใจกันโดยไม่ต้องพูดอะไร ตอนที่ทาง @MANGU ได้สัมภาษณ์ว่าก่อนที่ถ่ายทำและหลังจากถ่ายทำจบความรู้สึกหรือความสนิทสนมของทั้งคู่เปลี่ยนแปลงไปไหม ทั้งสองตอบพร้อมกันว่า “ไม่ใช่แค่สนิทกันมากขึ้นแต่รักกันมากขึ้นครับ แล้วก็แคร์กันมากขึ้น” เราสามารถสัมผัสได้ถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของทั้งสองคน นี่อาจเป็นเหตุผลที่ชวนให้ทุกคนจิ้นในเคมีของทั้งคู่และทำให้ซีรีส์ได้รับกระแสที่ดีอย่างล้นหลาม นิตยสาร @MANGU ฉบับนี้จะพาทุกคนไปรู้จัก โอม ภวัต จิตต์สว่างดีและนนน กรภัทร์ เกิดพันธุ์ นักแสดงนำจากซีรีส์ “แค่เพื่อนครับเพื่อน ” ให้มากขึ้นกว่าที่เคย !

 

MANGU : แนะนำตัวพร้อม ช่วยเล่าถึงจุดเริ่มต้นในการเข้าสู่วงการบันเทิงให้แฟนๆ ฟังหน่อยครับ

OHM : สวัสดีครับ ผมโอม ภวัตครับ จุดเริ่มต้นการเข้าสู่วงการของผมคือตอนนั้นผมเดินเล่นที่สยามอยู่ แล้วมีโมเดลลิ่งมาขอคอนแทคไป พอผ่านไปประมาณ 2 เดือนทางโมเดลลิ่งก็ติดต่อกลับมาบอกว่า ผู้กำกับซีรีส์เรื่อง Love Sick อยากทำซีรีส์ และผมมีเพื่อนที่เล่นซีรีส์เรื่องนี้อยู่แล้ว คือ พีค ภีมพล ผมก็เลยลองไปแคสดู แล้วแคสสำเร็จก็ได้มาเล่นซีรีส์ แล้วก็มีกระแสขึ้นมา มีคนรู้จักเพิ่มมากขึ้นครับ

NANON :สวัสดีครับ ผมนนน กรภัทร์ครับ ของผมเริ่มตั้งแต่เด็กเลยครับ เริ่มจากการถ่ายโฆษณา ซึ่งพ่อผมเป็นนักแสดงอยู่แล้ว และแม่ผมก็มีคอนแทคในแวดวงนี้ พอผมคลอดมาได้แล้ว 3 เดือน ก็มีสินค้าที่เกี่ยวกับผ้าอ้อมเด็ก คนแคสติ้งเขาจะสนิทกับแม่ เลยเอาผมไปถ่ายงานนี้ แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มถ่ายภาพนิ่ง ซึ่งในหนึ่งวันช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ผมมีไปแคสงานประมาณ 4-5 งาน หลังจากเรียนแล้ว ผมก็จะไปอยู่ที่ Production House แถวทาวน์อินทาวน์ อยู่ตั้งแต่ 8 โมง ถึง 3ทุ่ม มีได้งานบ้างไม่ได้งานบ้าง จนได้มาเป็นรับเชิญในละครเรื่องต่างๆ แล้วก็มาแคสที่ GMMTV และมีซีรีส์ออกมาให้ได้รับชมกันครับ

MANGU : ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีที่คุณนนน ได้รับรางวัล นักแสดงชายยอดนิยม จากซีรีส์ " The Gifted Graduation " ในงานประกาศรางวัล Siam Series Awards ครับ เรารู้สึกอย่างไรบ้างครับที่ได้รับรางวัลนี้แล้วมีอะไรอยากบอกแฟนๆที่สนับสนุนเรามาตลอดครับ

NANON :ขอบคุณสำหรับแฟนคลับที่ติดตามและคอยซัพพอร์ตชื่นชอบผลงานเราครับ ซึ่งเราตั้งใจทำอย่างเต็มที่ นนนอยากให้ The Gifted Graduation เป็นซีรีส์ในดวงใจของทุกคน ขอบคุณทุกคนมากๆครับที่ซัพพอร์ต

 

MANGU : มาพูดถึงผลงานล่าสุดของทั้งสองคนหน่อยครับ เรียกได้ว่าตอนนี้ซีรีส์เรื่อง “แค่เพื่อนครับเพื่อน” ได้รับกระแสที่ดีและเป็นที่นิยมทั้งไทยและจีน ตอนที่เราได้รับบทมารู้สึกอย่างไรและกดดันตัวเองไหมครับ

OHM : ผมรู้สึกว่าบทนี้ไม่กดดันครับ รู้สึกว่าสนุก รู้สึกตื่นตื่นเต้นและอยากทำงาน หลังจากที่ได้บทมาแล้วรู้คาแรคเตอร์คร่าวๆ รู้สึกได้ดึงไฟในตัวเองกลับมาอีกครั้ง ดึงความเป็นตัวเองตั้งแต่สมัยมัธยมที่เราอยากที่จะแสดงออกแบบนี้แต่เราไม่มีโอกาสได้แสดงออก เราจึงนำมาแสดงออกในซีรีส์เรื่องนี้ครับ แต่มันไม่ใช่เป็นตัวตนร้อยเปอร์เซ็นต์ มันเป็นแค่การที่เอาตัวตนมาเบลนกับตัวละครให้มันมีมิติออกมา

NANON : ถ้าถามว่ากดดันไหมก็แอบกดดันในบทบาทที่เราไม่เคยเล่นมาก่อนเลย คือเป็นซีรีส์ บอยเลิฟ คอมเมดี้ เราก็กดดันเพราะเราไม่รู้ว่าแฟนคลับจะต้อนรับกับเรายังไง แล้วมันเป็นซีรีส์แนวคอมเมดี้ด้วย ถ้าถามความถนัด เราอาจจะรู้สึกว่าถนัดแนวดราม่าหรือแนวทริลเลอร์มากกว่า เช่นซีรีส์ Blacklist นักเรียนลับ บัญชีดำ ก็เลยรู้สึกว่าไม่ค่อยถนัดและเป็นสิ่งใหม่กับเรา แต่ผมไม่ได้กังวลว่าจะเล่นไม่ได้ พอมันเป็นสิ่งที่ไม่ถนัดก็อยากลอง แล้วผมก็ตั้งใจทำให้ดีที่สุด ซึ่งเรารู้สึกว่าเราสนุกกับการทำในสิ่งใหม่ๆที่เราไม่เคยทำในทุกๆอย่างครับ

MANGU : สำหรับทั้งสองคนแล้วมีวิธีการเข้าใจตัวละครตัวเองอย่างไรบ้างครับและคิดว่าตัวละครเหมือนหรือแตกต่างจากตัวเราอย่างไรบ้างครับ

OHM : ผมเป็นคนที่เข้าใจในตัวละครไม่ค่อยยากอยู่แล้วครับ ผมเป็นคนที่อ่านบทและได้ฟังบรีฟก็จะตีความ แล้วเอาคาแรคเตอร์ของตัวละครเข้ามาตีความ ทำให้เข้าใจง่ายขึ้นครับ ถามว่าแตกต่างจากตัวเองยังไง ค่อนข้างเหมือนผมครับ จริงๆก็คือเป็นตัวเองเลย แต่เราต้องเป็นตัวเองในความเป็นคาแรคเตอร์ภัทร แต่เราต้องทำอย่างไรให้ผู้ชมคิดว่ามันไม่ใช่ตัวเองเล่น แต่เราก็ตั้งใจเล่น แต่ไม่อยากให้คนมองว่าโอมก็เล่นเป็นโอม แต่จากฟีดแบคกลับมาก็มีคนบอกว่าเราไม่ได้เล่นเป็นตัวเอง แต่เล่นเป็นภัทร อย่างเช่นภัทรเรียนวิศวะ ผมเรียนภาพยนตร์ นิสัยทุกอย่างเหมือนกัน แต่การแสดงออกของเด็กวิศวะและเด็กภาพยนตร์ก็จะแตกต่างกัน นี่คือสิ่งที่เราจะแสดงออกไป

NANON : สภาพแวดล้อมไม่เหมือนกัน ทำให้คนโตมาไม่เหมือนกัน

OHM : แต่ลึกๆแล้วก็มีความเหมือนกับตัวเองอยู่

NANON : ปกติแล้วผมเป็นคนที่ทำงาน Deep หรือทำงานละเอียด ผมรู้สึกว่าบทปราณเป็นบทที่ไกลจากตัวเองระดับหนึ่ง มีบางส่วนที่เหมือนกัน มีบางส่วนที่คล้ายกัน แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ตรงกลาง เลยปรับทัศนคติ ปรับวิธีชีวิต อะไรหลายๆอย่างให้เป็นตัวละครมากที่สุด ความเพอร์เฟคชั่นนิสต์ความเก็บความรู้สึกเก่ง ความไม่ค่อยพูด ความอินโทรเวิร์ต ที่อยู่กับเพื่อนก็จะไม่อินโทรเวิร์ต แต่เมื่ออยู่คนเดียวก็จะอินโทรเวิร์ต แล้วปราณเรียนสถาปัตด้วย เกี่ยวกับศิลปะ แล้วจริงๆเราเรียนภาพยนตร์ ซึ่งเราต้องปรับอะไรหลายๆอย่างให้เป็นปราณอย่างสมบูรณ์แบบครับ

MANGU : ช่วยเล่าประสบการณ์ตอนที่ถ่ายทำซีรีส์หน่อยครับและมีเรื่องไหนหรือซีนไหนที่เราประทับใจมากที่สุดครับ

NANON : ของผมเป็นซีนสั้นๆ มันไม่ใช่ซีนดราม่าแต่เป็นซีนที่เล่นเสร็จแล้วรู้สึกดี แต่ตอนเล่นเสร็จคือร้องไห้นะ เรารู้สึกดีกับตัวเองที่เราเจอช่องสัญญาณใหม่ที่เราไม่เคยแสดง เป็นซีนที่ภัทรตามไปที่ค่าย แล้วมันไปกวนที่โต๊ะอาหารตอนที่อยู่ทะเล

OHM : ดราม่านิดๆ

NANON : เป็นซีนที่พี่ออฟ ผู้กำกับ เดินเข้ามาบอกว่า เล่นอย่างงี้รู้ว่าเล่นได้ แต่ไม่เอา เอาที่รู้สึกว่าเป็นมนุษย์มากกว่านี้ รู้สึกว่าเมื่อคัทซีนแล้วเรารู้สึกดีว่าเราไม่เคยเจอช่องแสดงแบบนี้ของเรา

OHM : ของผมเป็นซีนซีนหนึ่งที่ยังไม่ออนแอร์ เป็นซีนที่มีความเป็นมนุษย์ร้อยเปอร์เซ็นต์ และรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เป็นซีนที่เราได้คุยกับแฟนจริงๆ เหมือนเป็นการนั่งเปิดใจทุกอย่างด้วยความเป็นกลาง ผมรู้สึกว่าเป็นซีนที่โครตมีเสน่ห์ในทุกมุมทุกแบบของทั้งสองตัวละครครับ เป็นซีนที่ประทับใจมากครับ

MANGU : ก่อนที่ถ่ายทำและหลังจากถ่ายทำจบ ความรู้สึกหรือความสนิทสนมของทั้งคู่เปลี่ยนแปลงไปไหมครับ เช่นสนิทกันมากขึ้น รู้ใจกันมากขึ้นครับ

OHM : สนิทกันมากครับ ไม่ใช่แค่สนิทกันมากขึ้นแต่รักกันมากขึ้นครับ แล้วก็แคร์กันมากขึ้น

NANON :รู้ใจกันมากขึ้นครับ ทันกันมากขึ้น เทคแคร์กันมากขึ้น

 

MANGU : สำหรับเราทั้งสองคนแล้ว เรียกได้ว่าเข้าวงการมาตั้งแต่วัยเด็ก ตอนนี้ทั้งสองคนคิดว่าความแตกต่างระหว่างที่เราเข้าวงการตั้งแต่ตอนนั้นและนักแสดงหน้าใหม่ที่เข้าวงการตอนนี้แตกต่างกันอย่างไรครับ

OHM : สำหรับวงการการเป็นนักแสดง ถามว่าการเข้าวงการสมัยนี้มันเข้ายากขึ้นไหม แน่นอนว่าโลกเปลี่ยนไป พอโซเชียลมีเดียมันกว้าง มันได้เห็นคนเยอะขึ้น ตัวเลือกเยอะขึ้น ความแข่งขันมันสูงขึ้น แต่ว่าผมไม่ได้ว่ามันเข้ายากขนาดนั้น ถ้าสมมุตว่า มีใจในการทำหรือตั้งใจจริงๆ ผมว่ามันจะมีทางเข้ามาเองครับ

NANON : ผมรู้สึกว่าไม่ยาก เพราะว่าอย่างที่โอมพูดว่าสมัยนี้โซเชียลมันมากขึ้น การมองเห็นมากขึ้น ช่องทางมากขึ้น ใครอาจจะเป็น IG IDOL ก็ได้ ผมรู้สึกว่ามันง่าย แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนคือความสามารถและต้องการพิสูจน์ยังคงยากเหมือนเดิม ตั้งแต่ไหนแต่ไรครับ

MANGU : ตอนที่มีซีรีส์เรื่องใหม่ๆมาทั้งสองคนจะเลือกรับยังไงครับ เช่นจะลองเล่นบทบาทที่ท้าทายกับตัวเองหรือจะปรึกษากับทางผู้ใหญ่เรื่องความเหมาะสมครับ

OHM : ทั้งสองอย่างครับ

NANON : ผู้ใหญ่มองว่าเหมาะสมและเราก็มี passion กับสิ่งนั้น ซึ่งเป็นสโคปงานเพื่อไม่ให้เราเหนื่อยจนเกินไป ในเวย์ที่ว่าเมื่อเราแสดงเราใช้ร่างกายทั้งหมด เราใช้จิตวิญญาณในการแสดง ซึ่งจะทำให้เราโฟกัสกับงานๆหนึ่งได้ง่ายขึ้นและทำให้ดีที่สุดครับ ซึ่งสเต็ปแรกคือผู้ใหญ่เห็นว่าเรากับบทบาทเหมาะสม สเต็ปที่สองคือเราสนใจหรือว่าเป็นบทที่เรามี passion ไหมครับ

MANGU : ตอนนี้การถ่ายทำภาพยนตร์ “My Precious รักแรก โคตรลืมยาก เป็นอย่างไรบ้างครับ แฟนๆจะได้รับชมเมื่อไหร่ครับ

NANON : ยังไม่เริ่มถ่ายเลยครับ ตอนนี้ก็รอดูสถานการณ์ด้วยครับว่าเราจะสามารถถ่ายแบบเต็มรูปแบบได้รึเปล่า

OHM : ผมว่าสนุก ย้อนวัย ผ่อนคลาย

NANON : แนวหนังจะไม่ดราม่าจัดครับ จะเป็นฟีลกู้ด ฟีลรักแรกที่ทุกคนคิดถึงโมเมนต์เก่าๆครับ

 

MANGU : ปีใหม่นี้ทั้งสองคนมีเป้าหมายอะไรที่ตั้งเอาไว้ไหมครับ

OHM : เอาเป้าหมายแรกสุดคือผมจะสวดมนต์ข้ามปีครับปีนี้ แล้วก็อยากซื้อบ้าน เพราะว่าปีหน้าผมก็จะเรียนจบแล้ว แล้วก็รู้สึกว่าต้องเป็นผู้ใหญ่ในสังคมแล้ว

NANON : ซื้อบ้านครับ 55555 อยากทำให้เป็นรูปธรรมมั่นคง อีกอย่างคืออยากทำอัลบั้มให้เสร็จ เพราะว่าทำค้างมานาน

MANGU : มีอาหารจีนเมนูไหนที่อยากลอง

OHM : จริงๆมีหลายเมนูมากครับที่อยากลองครับ

NANON : จริงๆผมเป็นคนที่ชอบอาหารจีนมากเลย อยากไปกินแบบต้นตำหรับ เหมือนเวลาเรามาไทยก็อยากกินต้มยำกุ้ง

OHM : แต่ผมยังคงติดใจ เสี่ยวหลงเปา เป็นเมนูที่ผมจำแม่นเลย ผมเคยได้ไปกินครั้งนึง แล้วผมไม่รู้ว่ามีน้ำซุปอยู่ข้างใน แล้วเหมือนตอนนั้นไปทำงานที่จีน แต่ผมยอมปากพองเพราะอร่อย พอปากพองเสร็จก็กินต่อ

NANON : เรารู้สึกว่าที่ไทยมีอาหารจีนที่อร่อย แต่เราก็อยากไปกินอาหารต้นตำหรับครับ

MANGU : อาหารไทยเมนูไหนที่อยากแนะนำให้แฟนๆชาวจีนครับ

NANON :ไข่เจียวและกะเพราหมูสับครับ

OHM : ปลากะพงทอดน้ำปลาครับ

NANON : ผมบอกเลยว่า ไข่เจียวไม่มีที่ไหนทำเหมือนประเทศไทยแน่นอน รวมถึงกะเพราด้วย แล้วกะเพราะไม่กินร้านเดียวนะ ร้านอาหารตามสั่ง10 ร้าน เราก็ต้องกินให้ครบ10 ร้าน เราจะรู้ว่ากะเพราแต่ละร้านไม่เหมือนกันซักร้าน ทุกคนจะมีสูตรของตัวเอง เช่นกะเพราะแฉะ กะเพราะไม่แชะ กะเพราผัดกับข้าว กะเพราใส่ถั่วฝักยาว ไม่ใส่ถั่วฝักยาว หรือว่าใส่ใบกะเพราเยอะ ใส่ใบกะเพราน้อย

OHM : หรือว่าจะเป็นกะเพราที่ไม่ใส่ใบกะเพราก็ทำให้ได้

NANON : ถ้าแนะนำชาวจีนจริงๆ ผมอยากเก็บเมนูกะเพราให้ทั่วกรุงเทพ และจะมีร้านที่ได้มิชลินสตาร์ ทุกร้านก็ไม่เหมือนกัน มันคือเสน่ห์ของประเทศไทยครับ

MANGU : สุดท้ายทั้งสองคนมีอะไรอยากฝากบอกแฟนๆชาวจีนที่ติดตามเรามาโดยตลอดครับ

OHM : ขอบคุณแฟนๆชาวจีนที่ติดตามมาโดยตลอด และขอบคุณที่ชอบซีรีส์ แค่เพื่อนครับเพื่อนของเรา นะครับ

NANON : ขอบคุณที่ติดตามตั้งแต่ต้นหรือตั้งแต่ที่ชมซีรีส์นะครับ ขอบคุณครับ

 

Thank you

Korapat Kirdpan (Nanon) / กรภัทร์ เกิดพันธุ์ (นนน) , Pawat Chittsawangdee (Ohm) / ภวัต จิตต์สว่างดี (โอม) 

IG : @ohmpawat, @nanon_korapat

化妆和发型 @ole_ja11 (OLE GROUP)

特别感谢 @gmmtv (GMMTV)

感谢拍摄场地 GMMTV 30 fl. / GMM Grammy PLACE

 

Photographer : Sarator Bunkobsongserm @iccesrt

Graphic Designer : Satamed Kunawattana @Pdillustrator

Coordinator / Interviews : Patthanapong Polpiboon @plyyp

Column Writer : Patthanapong Polpiboon @plyyp 

You can share this post!

MANGU E-Magazine Issue 224 (15th January 2022) คอลัมน์ Star พบกับ 8 นักแสดงหนุ่มสุดฮอตจากซีรีส์ “You're My Sky จุดหมายคือท้องฟ้า”

MANGU E-Magazine ISSUE 222 (15th December 2021) คอลัมน์ Star พบกับ "โดนัท ภัทรพลฒ์ เดชพงษ์วรานนท์ " นักแสดงนำจากละคร "รางรักพรางใจ"